พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๙. พาลปัณฑิตสูตร พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่

ทำน้อยได้ผลมาก การทำกุศลในพระพุทธศาสนาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระกรุณาเทศนาโปรดท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี เมื่อครั้งประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ดังที่มีเรื่องบันทึกอยู่ในเวลามสูตร คัมภี

ท่านพระอัสสชิบอกว่า ดูกรอัคคิเวสสนะ พระผู้มีพระภาค ทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย อย่างนี้ และคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค มีส่วนอย่างนี้ ที่เป็นไปมากในสาวกทั้งหลาย ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่

#เนื่องด้วยของปลอมลอกเลียนแบบกำลังระบาด เป็นทองปลอมที่เปอร์เซ็นทองต่ำ เป็นสีทองชุบโซ่ชุบกระดาษ ดูแวววาวสดใส แต่ก็ขายร้านไหนคืนไม่ได้ ไม่มีร้านรับซื้อที่ดีๆที่ไหนเขารับซื้อคืน โปรดระวังจะโดนพร่าซึ่งมรร

(ธรรมศึกษาชั้นโทหน้า1/4) เลขที่00 ประโยคธรรมศึกษาชั้นโท วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม สอบในสนามหลวง วันที่ 17 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2553 ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน โย นโร อุปนยฺหติ กุสาปิ ปูติ วายนฺติ เอวํ พาลูปเส

พระพุทธเจ้าตรัสเนื้อความนี้ไม่ได้หมายความว่านิพพานเป็นอนัตตาแต่อย่างใดอย่าทึกทักอย่างนั้น แต่ท่านหมายถึงพระองค์เองและหรือพระอรหันต์สาวกทั่วไปที่บรรลุนิพพานแล้วว่า  เพราะพรัพุผทธและอรหันต์สาวกนั่น

รายการทีวี..ได้เรตติ้ง พระที่โลกวัชชะ..ได้แสง ผู้รับเชิญร่วม..ได้แสง แสดงภูมิ ผู้ชม..ได้ความสะใจ พระพุทธศาสนา..ไม่ได้อะไรเลย แถมยังสร้างความเสื่อมศรัทธาแก่ผู้ที่ศรัทธาแล้ว และแก่ผู้ที่ยังไม่ศรัทธา

เมื่อในพระไตรปิฏก ฉบับดั้งเดิม ทั้งไทยและบาลี มีบันทึกไว้ชัดเจนและผ่านการตรวจสอบ มาแล้วว่าเชื่อถือได้ ๑. เพราะเหตุใดจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ๒. เพราะเหตุใดจึงมองว่าไม่จำเป็นต้องรุ้ ๓. เ