เพิ่งดูจบมาสดๆร้อนๆเมื่อวานกับเพื่อนคนเกาหลี ตอนแรกไม่รู้จักหนังเรื่องนี้เลยจนเพื่อนแนะนำให้ดู
แรกๆก็งงว่าทำไมอยากดูด้วยกันเพราะมันเคยดูมาแล้ว
แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่านอกจากมันจะอยากเห็นปฏิกริยาอกสั่นขวัญแขวนของคนที่ไม่เคยดู
แล้วมันยังเข้าใจว่าจะต้องมีคำถามมากมายตามมาแน่นอนอย่างที่มันบอกไว้ว่านักวิจารณ์ที่เกาหลีคนหนึ่งบอกว่า
'เป็นหนังที่คนดูได้คำถามมากกว่าคำตอบ' กันเลยทีเดียว
เลยดูด้วยกันเพื่อจะได้ตอบคำถามตรงนั้นเลยกันเพื่อนอกแตกตาย
คราวนี้ หนังเรื่องนี้นี่พอดูจบแล้วมันยังอึดอัดอยากระบายอย่างละเอียดกับใครก็ตามเพราะเนื้อหาแน่นมากๆ
ขนาดผู้เขียนใช้เวลาหาข้อมูลเพื่อสร้างเรื่องนี้นานถึงสองปีด้วยกัน ไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน แต่ชอบหนังเรื่องนี้มากจริงๆ
เตือนอีกครั้งว่าสปอยละเอียดมาก หมดไส้หมดพุง ตั้งแต่ต้นยันจบ
ใครยังไม่เคยดูแนะนำเลยว่าไปดูมาก่อน ถ้าไม่เข้าใจค่อยมาอ่านนะ
*ถ้าขี้เกียจดูแล้วอยากได้สปอยก็อ่านเลย พยายามบรรยายแบบให้ได้อารมณ์ตอนดูหนัง*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังเป็นหนังผีแนวภาพยนต์เขย่าขวัญ ต้องเรียกว่าเป็นหนังผีเพราะมีผีจริงๆ และมันก็เขย่าขวัญจริงๆ เขย่าจนนอนไม่ได้ต้องมานั่งเขียนสปอย
ขึ้นชื่อว่าหนังผีแต่คอหนังสะดุ้งคงต้องผิดหวังกับจังหวะก้นลอยจากที่นั่งเพราะมันไม่ใช่หนังผีแนวสะดุ้ง
(คือนั่งๆอยู่แล้วผีก็โผล่มาแฮร่ให้ตกใจเล่น ไม่ใช่แบบนั้น แถมผีก็ไม่ได้หน้าตาน่าขยะแขยงน่ากลัวอะไรขนาดนั้น)
แต่นี่คือหนังผีแบบกดประสาทโดยนำเสนอความโหดร้ายในการฆ่าด้วยน้ำมือของคนในครอบครัวเดียวกัน
และปวดประสาทเพราะหนังทำให้งงว่าสรุปใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดโดยหลอกแทบทั้งเรื่องแล้วมาเฉลยตอนจบอารมณ์หนังหักมุม
ชื่อของหนังในภาษาเกาหลีคือ 곡성 (Gokseong) ที่ความจริงเป็นชื่อหมู่บ้านในเกาหลี
และสามารถมีความหมายได้เหมือนชื่อภาษาอังกฤษ คือ The Wailing หรือ “เสียงร่ำไห้โหยหวญ”
เรื่องเริ่มด้วยประโยคจากหนังสือไบเบิลจาก Luke 24:37-39 เป็นตอนที่พระเยซูได้คืนชีพจากการถูกตรึงกางเขน
“They were startled and frightened, thinking they saw a ghost. He said to them,
“Why are you troubled, and why do doubts rise in your minds?
Look at my hands and my feet. It is I myself! Touch me and see;
a ghost does not have flesh and bones, as you see I have.”
แปลได้ว่า
“เจ้าจะหวาดหวั่นไปเพื่อเหตุใด? ไฉนจึงยังมีความเคลือบแคลงในใจของเจ้า?
จงพินิจหัตถ์แลบาทแห่งข้า เป็นข้าเอง สัมผัสข้าและเพ่งดู เหตุเพราะผีนั้นหามีเนื้อแลกระดูกดั่งข้าไม่”
หนังเล่าเรื่องราวของการฆาตกรรมในหลายๆบ้านโดยคนในครอบครัวอย่างโหดเหี้ยม ส่วนใหญ่จะโดนแทง
คนที่ก่อเหตุฆาตกรรมจะตกอยู่ในสภาพคล้ายๆซอมบี้ซึ่งในภายหลังก็ตายในที่สุดโดยตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเพราะเห็ด
นายตำรวจจงกู ตัวดำเนินเรื่องก็มีหน้าที่สืบสวนไปตามะเบียบ แต่คราวนี้ก็ได้มีการคุยกับเพื่อนกันว่า
ตั้งแต่มีชายแก่ชาวญี่ปุ่นย้ายเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านในกระท่อมบนภูเขานี้ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้น
เช่นคนเข้าป่าไปเจอชายแก่คนนี้นุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียวกินซากวางอยู่บ้างหรือชายแก่คนนี้ลวนลามผู้หญิงบ้างจน
ลามไปถึงการแซวว่าชายแก่คนี้อาจอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็เป็นได้
แต่เมื่อเรื่องเล่าสยองขวัญคืบคลานตามไปถึงในฝันของจงกูและเหตุฆาตกรรมยังเกิดขึ้นไม่หยุด
ข่าวที่ดูเหมือนจะโคมลอยนี้ก็ดูไม่น่าตลกอย่างที่คิดเสียแล้ว
ในระหว่างนั้นจงกูก็ได้พบกับหญิงสาวชุดขาวที่อ้างว่าเห็นเหตุฆาตกรรมครั้งล่าสุด
และบอกเขาว่าชายแก่ชาวญี่ปุ่นคนนั้นคือผีที่ดูดเลือดและฆ่าคน
หญิงสาวเตือนจงกูให้ระหวังตัวไว้เพราะถ้าเขาเห็นชายแก่นี้บ่อยๆแสงว่าเขากำลังถูกชายแก่คนนี้ติดตาม
จงกูยังคงฝันเห็นชายแก่คนนี้ประกอบกับโฮยจิน ลูกสาวคนเดียวของเขาล้มป่วยและมีอาการแปลกๆเช่นกินอาหารเยอะผิดปกติ
ทำให้แม่ยายและภรรยาของเขาเป็นห่วงมาก จงกูเลยตัดสินใจไปสอบสวนบ้านของชายแก่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ด้วยตัวเองแบบไม่มีหมายศาล
โดยนำเพื่อนร่วมงานและล่ามแปลภาษาญี่ปุ่นพ่วงกับตำแหน่งบาทหลวงฝึกหัดไปด้วย(ล่ามคนนี้เป็นญาติของเพื่อนร่วมงาน)
จงกูค้นเจอห้องที่ดูเหมือนห้องทำพิธีกรรมแต่สุดท้ายก็โดนสุขัขตัวใหญ่เข้าทำร้าย
แต่ชายแก่ชาวญี่ปุ่นก็เข้ามาเจอก่อนที่สุนัขจะทำร้ายพวกเขาไปมากกว่านั้น
ทั้งสามตัดสินใจกลับแต่เพื่อนร่วมงานของจงกูก็ได้บอกว่าเขาเจอรูปถ่ายของคนที่ติดเชื้อเต็มผนังและเจอรองเท้าของโฮยจินในบ้านหลังนั้น
เขาบอกจงกูอย่างตื่นกลัวขณะขับรถกลับมา จงกูที่ตื่นตระหนกได้ตั้งคำถามกับลูกสาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน
แต่กลับโดนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายและเสียงกรี๊ดที่น่าตกใจ
จงกูแอบเข้าไปในห้องลูกตอนกลางดึกคืนนั้นและได้เห็นสมุดภาพที่เต็มไปด้วยคำสาปแช่งและรูปวาดอันน่าสะพรึงกลัว
จงกูเริ่มพยายามหารอยแผลตามตัวลูกสาวเหมือนคนที่โดนสันนิษฐานว่าโดนเห็ดพิษมี และต้องช๊อคเมื่อเจอมันในที่สุด
โดยฮโยจินได้ตื่นมาและเริ่มด่าทอสาปแช่งเขาอีกครั้ง
ถึงจุดนี้ ครอบครัวก็ได้รู้แล้วว่าเด็กโดนเข้าสิงโดยสิ่งชั่วร้ายจึงทำการเรียกหมอผีมาปราบ
แต่จงกูไม่อาจนั่งรอเฉยๆเลยเดินทางไปคาดคั้นความจริงกับชายแก่อีกครั้งโดยพาล่ามไปด้วย
แต่ชายแก่กลับบอกว่าเผารูปบนผนังไปหมดแล้วและอ้อมค้อมเมื่อถามว่ามที่นี่ทำไมด้วยการบอกว่า “พูดไปก็ไม่เชื่อ”
ทำให้จงกูเหลืออดและทำลายข้าวของในห้องพิธี(ตั้งใจ)
และฆ่าสุนัขของชายแก่(โดยไมได้ตั้งใจเพราะสุนัขพุ่งเข้าใส่จงกูขณะที่เขาทำลายห้องพิธี)
และขู่ให้ชายแก่ย้ายออกไปซะก่อนจะกลับมาซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หมอผีมาถึงบ้านของเขา
หมอผีประเมิณสถานการณ์และสรุปว่านี่คือผีที่ชั่วที่สุดที่เขาเจอมา
และจะทำพิธีปราบให้โดยมีข้อบังคับว่าจงกูห้ามเข้ามาขัดขวางพิธีเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จงกูตกลงแต่เมื่อเวลามาถึงจริงๆเขากลับผิดคำพูด
เพราะขณะพิธีดำเนินไปเรื่อยๆลูกสาวของเขากลับกรีดร้องอย่างทรมานและเหมือนจะขาดใจตาย
เพราะทนดูไม่ได้ที่ลูกจะต้องเจ็บปวดต่อไปเลยไล่หมอผีออกไปและพาลูกไปโรงพยาบาลแทน(ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไร)
ในขณะที่หมอผีทำพิธีที่บ้านจงกูเราก็จะเห็นภาพตัดไปตัดมากับชายแก่ชาวญี่ปุ่นที่ก็ดูเหมือนกำลังทำพิธีอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน
แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนจะล้มเหลวและชายแก่ก็ดูเหมือนจะบาดเจ็บในตอนท้าย
(ตอนนี้งงมากว่าใครสู้กับใคร ใครพยายามทำอะไร แต่ลึกๆเดาไว้ว่าหมอผีเป็นตัวร้ายและชายแก่พยายามจะช่วยเด็ก)
จงกูที่ทนไม่ได้อีกต่อไปตัดสินใจไปฆ่าชายแก่ด้วยตนเองและพาพรรคพวกไปด้วย
ซึ่งสุดท้ายก็ดูเหมือนจะล้มเหลวเพราะไล่ตามจับชายแก่ไม่ทัน
แต่ระหว่างขับรถกลับ ชายแก่กลับตกลงมาจากเขาและโดนรถของจงกูชน
จงกูและเพื่อนตัดสินใจโยนร่างชายแก่ทิ้งและพอกงจูกลับไปก็ดูเหมือนลูกสาวของเขาหายเป็นปกติแล้ว
เรื่องดูเหมือนจะจบ แต่นี่คือการหักปมครั้งใหญ่ที่สุด
แม้จะกำจัดชายแก่ไปแล้ว แต่เหยื่อรายต่อไปก็เกิดขึ้นและคราวนี้คือเพื่อนร่วมงานของจงกู ญาติของล่ามบาทหลวงฝึกหัดคนนั้น
หมอผีที่โดนไล่เหมือนจะไม่สบายใจอะไรบางเรื่องเลยพยายามโทรหาและกลับมาหาจงกูที่บ้าน
แต่อยู่ๆก็อาเจียนเป็นเลือดและเผยให้เห็นในที่สุดว่าหญิงสาวชุดขาวที่เคยมาเตือนจงกูคนนั้นคือวิญญาณและสั่งให้หมอผีกลับไป
หมอผีวิ่งหนีสุดชีวิตและขนของขับรถหนีไป (อ้าว? สรุปหญิงชุดขาวเป็นตัวร้าย??)
จงกูที่ตัดสินใจมาหาหมอผีที่บ้านเพราะสงสัยในการโทรหาอย่างไม่ลดละของหมอผีในขณะเดียวกันบาทหลวงฝึกหัดก็เดินทางเข้าไปในป่า
หมอผีที่ตอนแรกขับรถหนีอยู่ๆก็ชนเข้ากับฝูงแมลงจนต้องหยุดรถ
และด้วยบางอย่างทำให้หมอผีตัดสินใจขับรถกลับมาและโทรหาจงกูอีกครั้งซึ่งในครั้งนี้จงกูรับสาย
หมอผีถามว่าจงกูอยู่ไหนและพบว่าเขาไม่อยู่บ้าน หมอผีก็เตือนจงกูให้รีบกลับบ้านทันทีโดยบอกว่าเขาเข้าใจผิดมาตลอด
หมอผีบอกว่าชายแก่คนนั้นความจริงคือหมอผีที่พยายามจะช่วยคนเหมือนเขา และผีจริงๆเป็นผู้หญิง
จงกูรู้ทันทีว่านั่นคือหญิงเสื้อขาวที่เขาเจอเลยรีบกลับไปที่บ้านและลูกสาวของเขาได้หายไป
เขาวิ่งตามหาแต่ระหว่างวิ่งก็เจอหญิงชุดขาวปรากฏตัวขึ้น เขาถามว่าลูกสาวเขาอยู่ไหน
หญิงสาวตอบว่าลูกสาวของเขาโดนปีศาจล่อลวงและทำร้าย แต่เธอได้กลับไปบ้านแล้ว แต่เขายังกลับไม่ได้
เพราะถ้าเขากลับไปครอบครัวเขาจะตายทั้งหมด จงรออยู่นี่อย่างอดทนจนกว่าไก่จะขันสามครั้ง
เพราะเธอวางกับดักเอาไว้และกับดักจะใช้ไม่ได้ถ้าจงกูเข้าไปในบ้าน
จงกูได้รับโทรศัพท์จากหมอผีอีกครั้งให้รีบกลับบ้านและอย่าเชื่อหญิงสาวคนนั้น
จงกูตอนนี้สติแตกจะเป็นบ้า(พอๆกับคนดูในตอนนั้น)
จะอยู่หรือไปก็ไม่รู้ว่าครอบครัวจะตายหรือไม่ ควรจะเชื่อใคร
ในฉากที่จงกูต้องทำการตัดสินใจนั้น ภาพก็ได้ตัดสลับไปสลับมากับบาทหลวงฝึกหัด
ที่ได้เจอชายแก่ชาวญี่ปุ่นที่ยังไม่ตายนั่งผิงไฟอยู่ในถ้ำกลางป่าและคาดคั้นว่าชายแก่เป็นใครกันแน่
ชายแก่ยังคงยืนยันว่าเขาพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ เขาเป็นคนนอก
แต่บาทหลวงฝึกหัดก็บอกว่าถ้าชายแก่ไม่ใช่ปีศาจจริงๆเขาจะเชื่อและปล่อยชายแก่ไปโดยไม่ทำอะไร
(ตอนนี้อยากบอกว่าลุ้นฉี่จะราด คือลุ้นกว่าหวยออก ลุ้นกว่า Game of Thrones ออกซีซั่นใหม่
และประเด็นคือมันตัดได้น่าระทึกมาก จะเค้นจะรีดประสาทจนวินาทีสุดท้าย
ว่าจงกูจะเลือกทางไหน และจะเลือกทางที่ถูกหรือเปล่า และชายแก่คือใคร หญิงสาวคือดีหรือไม่ดีกันแน่)
เสียงไก่ขันแรกได้ดังขึ้น ภาพตัดกลับมาที่ชายแก่หัวเราะร่าใส่บาทหลวงและบอกว่า
แล้วใครบอกว่าเขาจะปล่อยบาทหลวงไป? (โอเค ตอนนั้นก็คิดว่าชายแก่เป็นปีศาจแน่ๆ)
แต่สุดท้ายพอจงกูเห็นกิ๊บสีชมพูของลูกสาวตกอยู่ใกล้ๆและเสื้อคนที่ติดเชื้ออยู่บนตัวหญิงสาว
เขาเลยตัดสินใจว่าเธอเป็นต้นเหตุ (เอ้า สรุปยังไง? หรือมันร่วมมือกัน? สรุปแกดีหรือไม่ดี คุณผู้หญิง!?)
จงกูวิ่งกลับเข้าไปในบ้านก่อนที่ไก่จะขันครบสามครั้ง
จงกูเดินเข้าไปและเห็นภาพอันน่าสยดสยองของภรรยาและแม่ยายของเขาโดนฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยฝีมือลูกสาวของเขาเอง
ซึ่งเขาก็ได้แต่กรีดร้องดั่งคนเสียสติโดยหญิงสาวชุดขาวทำได้เพียงยืนพิงกำแพงที่มีแต่ “เสียงร่ำไห้โหยหวญ” ของจงกูดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย
และนี่ก็เป็นการเฉลยในที่สุดโดยที่ภาพตัดไปที่ชายแก่เอื้อมมือไปหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นนมาถ่ายบาทหลวงฝึกหัด
และเล็บของชายแก่ก็ค่อยๆงอกขึ้นมาพร้อมกับพูดประโยคตามที่เห็นครั้งแรกตอนหนังฉาย แต่ในวิธีที่แปลกไป
และสุดท้ายเผยร่างจริงดวงตาแดงก่ำ
“What you perceive to be that is flesh and bone, go ahead, touch it.
A ghost cannot be flesh or bone, but as you can clearly see … this one is.
Why would you be afraid? Why is there still doubt in your heart?
As you see my hands, my feet… Do you see … what I am?”
“สิ่งที่เจ้าเห็นนั้นคือเนื้อและกระดูก จงสัมผัสมัน
เพราะผีนั้นหามีเลือดแลกระดูกไม่ ดั่งที่เจ้าประจักษ์ชัดเจนว่าข้ามี
เจ้าจะหวาดหวั่นไปเพื่อเหตุใด? ไฉนจึงยังมีความเคลือบแคลงในใจของเจ้า?
ดั่งที่เจ้าประจักษ์หัตถ์แห่งข้า บาทแห่งข้า เจ้าเห็นหรือไม่ ... ว่าข้าเป็นอะไร?”
‘ชายแก่คือปีศาจ’
แต่มันยังมีอีกปมหนึ่ง ฉากสุดท้ายที่กงยูนอนใกล้ตายอยู่ในบ้านเพราะโดนลูกแทง
หมอผีที่มาถึงบ้านจงกูในที่สุดหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปจงกูและเดินจากไป
เผยให้เห็นว่าภาพถ่ายบนฝาผนังบ้านของชายแก่ไม่ได้ถูกเผาทำลายไปแต่อย่างใด
แต่อยู่กับหมอผีคนนี้มาโดยตลอด และตอนนี้ก็ถึงบางอ้อกันเป็นแถบๆ หมอผีร่วมมือกับปีศาจมาตั้งแต่ต้น
นั่นคือการพิมพ์ด้วยอารมณ์อยากระบายล้วนๆ ขออภัยจริงๆ ร่ายมานาน
แต่กลัวไม่ได้การอ้างอิงแบบเป๊ะๆเพราะนี่เป็นแค่มุมมองของเรากับเพื่อนชาวเกาหลีเท่านั้นเลยไม่กล้าฟันธงว่าถูกหรือผิดอะไร
เพราะมันก็บอกว่านี่เป็นตอนจบปลายเปิด คือเปิดให้ถกเถียงกัน แต่มีข้อมูลบางอย่างที่ผู้กำกับออกมาบอกด้วยตัวเอง
ต่อข้างล่างจะเป็นเฉลยและอธิบาย
[CR] SPOIL หมดไส้หมดพุง The Wailing หรือ 곡성 (Gokseong)
แรกๆก็งงว่าทำไมอยากดูด้วยกันเพราะมันเคยดูมาแล้ว
แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่านอกจากมันจะอยากเห็นปฏิกริยาอกสั่นขวัญแขวนของคนที่ไม่เคยดู
แล้วมันยังเข้าใจว่าจะต้องมีคำถามมากมายตามมาแน่นอนอย่างที่มันบอกไว้ว่านักวิจารณ์ที่เกาหลีคนหนึ่งบอกว่า
'เป็นหนังที่คนดูได้คำถามมากกว่าคำตอบ' กันเลยทีเดียว
เลยดูด้วยกันเพื่อจะได้ตอบคำถามตรงนั้นเลยกันเพื่อนอกแตกตาย
คราวนี้ หนังเรื่องนี้นี่พอดูจบแล้วมันยังอึดอัดอยากระบายอย่างละเอียดกับใครก็ตามเพราะเนื้อหาแน่นมากๆ
ขนาดผู้เขียนใช้เวลาหาข้อมูลเพื่อสร้างเรื่องนี้นานถึงสองปีด้วยกัน ไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน แต่ชอบหนังเรื่องนี้มากจริงๆ
เตือนอีกครั้งว่าสปอยละเอียดมาก หมดไส้หมดพุง ตั้งแต่ต้นยันจบ
ใครยังไม่เคยดูแนะนำเลยว่าไปดูมาก่อน ถ้าไม่เข้าใจค่อยมาอ่านนะ
*ถ้าขี้เกียจดูแล้วอยากได้สปอยก็อ่านเลย พยายามบรรยายแบบให้ได้อารมณ์ตอนดูหนัง*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นั่นคือการพิมพ์ด้วยอารมณ์อยากระบายล้วนๆ ขออภัยจริงๆ ร่ายมานาน
แต่กลัวไม่ได้การอ้างอิงแบบเป๊ะๆเพราะนี่เป็นแค่มุมมองของเรากับเพื่อนชาวเกาหลีเท่านั้นเลยไม่กล้าฟันธงว่าถูกหรือผิดอะไร
เพราะมันก็บอกว่านี่เป็นตอนจบปลายเปิด คือเปิดให้ถกเถียงกัน แต่มีข้อมูลบางอย่างที่ผู้กำกับออกมาบอกด้วยตัวเอง
ต่อข้างล่างจะเป็นเฉลยและอธิบาย