เจอลูกน้องแบบนี้ ควรพอ หรือ ให้ไปต่อดีค่ะ?

เนื่องจากทางร้านเป็นร้านขายส่งเปิดกิจการมาได้ประมาณ 3 เดือนคะ ซึ่งพอเข้าเดือนที่ 2 เราก็เริ่มมองหาลูกน้องมาช่วยงานในร้านคะ
ธุรกิจเราเป็นขายส่งเล็กๆที่เพิ่งเปิดตัวค่ะ เราให้ 10,000 บาท+เบี้ยขยัน+โบนัสทุกไตรมาส ซึ่งงานหลักๆ ที่ให้ลูกน้องที่รับมาทำ คือ

1.ดูแลลูกค้าที่เข้ามาในร้านและช่วยดูหน้าร้านเมื่อเราออกไปส่งของ
2. ช่วยเราแพ็คสินค้าที่ลูกค้าสั่งออนไลน์เข้ามา  
3. ช่วยจัดระเบียบ ปัด กวาด เช็ด ถู ในร้านตามปกติ (ซึ่งไม่ได้ทำทุกวันคะ)

ตอนนี้ธุรกิจเราเริ่มเข้าเดือนที่ 4 คะ ลูกน้องคนนี้ที่เรารับมาเป็นญาติกับคนขับรถแท็กซี่ที่เราใช้บริการอยู่ประจำซึ่งเค้าแนะนำมาเพราะเห็นว่าเราต้องการคน. ลูกน้องคนนี้ทำงานกับเรามาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ก็มาขอลาออก ให้เหตุผลว่า ไม่สบายใจที่จะทำงาน เพราะปัญหาที่เราว่ากล่าวตักเตือนดังนี้ค่ะ

ปัญหาที่เกิดขึ้น 1. ช่วงแรกๆของการทำงานมีการจัดสินค้าให้ลูกค้าผิด ขาด ไปหลายรายครั้ง ก็ว่ากล่าวตักเตือนกันไปพร้อมทั้งคิดระบบการจัดของที่รัดกุมขึ้นมาให้เค้าทำโดยให้เขียนจำนวนสินค้าบนถุงบรรจุภัณฑ์ ก่อนบรรจุลงกล่องทุกครั้ง กลายเป็นว่าทำบ้างไม่ทำบ้างค่ะ

ปัญหาที่เกิดขึ้น 2. มาสายไม่โทรแจ้ง บางครั้งลูกน้องมาสาย 5 นาที 10 นาที เราไม่เคยว่ากล่าว แต่มีอยู่ครั้งนึง มาสายครึ่งชั่วโมง ลูกค้ามายืนรอหน้าร้านค่ะ ประมาณ 30 นาที ว่าทำไมร้านยังไม่เปิด เพราะลูกค้ามาจากต่างจังหวัดค่ะ เราพยายามโทรหาลูกน้องคนนี้แต่ไม่ติด เมื่อตามตัวได้ เราจึงถามว่าทำไมมาสาย และไม่โทรแจ้งเรา เค้าบอกว่า "ไม่สบาย" เราก็โอเค ตักเตือนไปว่าคราวหน้ามาสาย ให้โทรบอกเราหน่อย เพราะเราจะได้มาเปิดร้านก่อน

หลังจากลาออกไปได้ 1 วัน โทรมาขอกลับมาทำงานใหม่ ทั้งๆ ที่เราก็มีคนใหม่พร้อมเริ่มงานต่อจากเค้าแล้ว แต่เราเห็นใจเค้า เพราะเค้าอายุเยอะเกือบ 50 แล้ว และเพราะเค้าบอกเหตุผลมาว่า เค้าคิดว่าเราจะไล่เค้าออก เนื่องจากเห็นเราถามหาพนักงานใหม่กับเจ้าของกิจการอื่น (คือคุณลุกน้องมโนไปเองค่ะ) เลยชิงลาออกก่อนค่ะ เราจึงคิดว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน ก็ให้โอกาสกันไป

หลังจากกลับมาทำงาน ก็ทำงานดีขึ้น แต่มาช่วงอาทิตย์นี้ที่เรารู้สึกว่าเค้าดื้อแพ่ง และเริ่มพูดจากับลูกค้าไม่ดี เราพูดอะไรไปก็เถียงกลับ ขอยกตัวอย่างนะคะ

ครั้งที่ 1.
เรา: ถามว่า ทำไมวันนี้ถึงไม่เปลี่ยนนำชาไหว้เจ้า?
ลุกน้อง: ก็ว่าจะเปลี่ยนพอดี แต่อินัง (ชื่อลุกค้า) มาร้านก่อน
เรา: เงียบ!!!!

ครั้งที่2. สายๆ วันนี้มีลูกค้าเข้ามาร้านพร้อมกันสองคน ค่อนข้างวุ่นวายนิดหน่อย เพราะสินค้าเพิ่งลง และ ต้องแพ็คสินค้าส่งออกตอนบ่ายด้วย ประมาณ 5 กล่อง
เรา: ลูกค้าค่ะ รอแป็บนึงนะคะ เดี๋ยวพี่(ชื่อพนักงาน) แพ็คของเสร็จแล้ว จะให้หยิบสินค้าที่ต้องการมาให้นะคะ
ลูกน้อง: โอ้ย ! ไม่เดี๋ยวหรอก อีกสักพักนึงนั่นแหละ (เสียงกระแทกและชักสีหน้า) แต่ก่อนหน้านี่คุณพนักงานรับโทรศัพท์ในเวลาทำงาน เพื่อนโทรมายืมเงินกว่า 5 นาที ทั้งที่มีลูกค้ายืนรออยู่ในร้าน
เรา: เงียบ!!!!

    ตกบ่ายลูกค้าทางร้านโทรมาหาเราตอนออกไปส่งของ บอกว่า ลูกน้อง บอกว่าเราไปเร่งเค้า งานก็เยอะ เหนื่อยก็เหนื่อย ..... ซึ่งหลายวันที่ผ่านมาก่อนวันนี้ร้านเงียบมากค่ะ มีลูกค้ามาร้านไม่ถึง 5 คนด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเราคุยกับลูกค้าคนสนิท เค้าก็มาบอกเราอีกว่า ลูกน้องคนนี้ไปพูดถึงเรากับลุงของเค้าว่า งานหนัก เหนื่อย มาสายเราก็ไปว่าเค้า ข้าวปลาไม่ได้กิน (ซึ่งเรากินอะไรเราก็ซื้อมาเผื่อเค้าทุกครั้งเหมือนกัน).

ตกเย็นเราเรียกพนักงานคนนี้มาคุย ว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เห็นสีหน้าไม่ดี บอกมาได้นะคะ เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่เราก็บอกเค้าไปว่า แต่หนูมีนะคะ เราก็บอกพนักงานไปว่า เราไม่โอเค กับน้ำเสียงที่ใช้พูดกับลูกค้าวันนี้ และ เรื่องการใช้โทรศัพท์เวลางานค่ะ ซึ่งดูเหมือนเค้าจะเข้าใจระดับนึง แต่ความรู้สึกเราตอนนี้ไม่โอเคกับพนักงานคนนี้แล้วเพราะเรารู้สึกว่าเหมือนเค้าอยู่กับเราเพราะยังไม่มีที่หมายใหม่ และเรารู้สึกไม่โอเคที่เค้าเอาเราไปพูดให้ลุกค้าในร้านฟังค่ะ

   เพื่อนๆ คิดว่าเราควรทำยังไงกับความรู้สึกที่ไม่โอเครกับเรา และ ควรจะจัดการกับพนักงานคนนี้ยังไงดีคะ เพราะเรารู้สึกว่าหากปล่อยไปแบบนี้อีกหน่อยเค้าน่าจะเป็นมากกว่านี้คะ เรากำลังตัดสินใจให้ออก แล้วหาคนใหม่มาแทนดี หรือ ว่าลองให้โอกาสดูอีกครั้งคะ (เราไม่เคยมีลูกน้องคนไทยเลยไม่ทราบว่าจะจัดการยังไงดีคะ)

PS: ขอขอบพระคุณทุกความคิดเห็นไว้ล่วงหน้านะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่