เช่น
ถ้าไม่มีลูกสักคน ไม่ได้สวัสดิการใดๆเพิ่มเติมเลย
ุ้ถ้ามีลูกหนึ่งคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราฟรี
ถ้ามีลูกสองคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี
ถ้ามีลูกสามคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี พร้อมเบิกค่ารักษาโรคได้ใน รพ รัฐ
ถ้ามีลูกสี่คนขึ้นไป ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี พร้อมเบิกค่ารักษาโรคได้ใน รพ รัฐ บวกเงินที่เพิ่มไปตามจำนวนลูก
โดยสามารถเอาสิทธิ์นี้ไปซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้
เหตุที่เสนอเกิดจากความเห็นนี้
http://ppantip.com/topic/35584490/comment50
เรื่องที่สองคือเรื่องหน้าที่พลเมือง
เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ป่า หรืออยู่แบบสันโดษประเภททำมาหากินด้วยตัวเองได้ทั้งหมด
เราแบ่งงานกันทำ แปลว่าคุณต้องมีเพื่อร่วมสังคมมาทำงานอย่างอื่นๆ ที่คุณทำไม่ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่คิดจะกลับไปอยู่ป่า ผมว่าแต่ละคนมีหน้าที่ในการสร้างประชากร เพื่อให้โลกมีแรงงานในการผลิดสินค้า และบริการต่อๆไป
นี่เป็นคนละเรื่องกับการเก็บเงินไว้ใช้ในยามชรา จริงอยู่ว่านั่นเป็นเงินของคุณ คุณทำงานจึงได้ผลตอบแทนตามนั้น
แต่นั่นเป็นเพียงการบริโภคสิ่งที่คุณหามาได้ในวัยหนุ่มสาว แต่ยังไม่ได้รวมถึงตัวแรงงานที่จะมาผลิตสินค้า หรือบริการที่คุณต้องการเอาเงินไปแลก
เหตุผลเรื่องการเงิน หรือเรื่องความต้องการใช้จ่ายซะเองนั้นจริงกับทุกๆคน
คนในประเทศร่ำรวย หลายๆ ประเทศก็มีลูกน้อย และกำลังประสบปัญหาคนแก่ล้นเมือง เช่น ญี่ปุ่น
ประเทศไทยก็กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุในไม่ช้า เพราะเรามีลูกกันน้อย และช้าลงกว่าเดิมมาก
ในอนาคตคนที่ยังทำงานได้ก็ต้องรับภาระหนักขึ้นในการอุ้มสังคมนั้นๆ
นี่ไงถึงบอกว่าผลักภาระให้กับรุ่นลูกๆ ของคนอื่นๆ
ถ้าการไม่สร้างประชากรเป็นเรื่องยั่งยืน เราคงไม่เห็นนักเศรษศาสตร์มองเรื่องสังคมผู้สูงอายุเป็นปัญหาหรอกครับ
ดังนั้นการไม่มีลูก แต่ยังเลือกบริโภคสิ่งที่สังคมผลิตได้จึงไม่ได้ส่งเสริมการดำรงอยู่ของสังคมในระยะยาว แต่เป็นเพียงแต่การบริโภคสิ่งที่เคยผลิตไว้
ผมอยากให้รัฐให้สวัสดิการคนแก่ ที่มีลูกมีหลานอยู่ในระบบภาษี มากกว่าคนแก่ปกติ
เพราะอย่างน้อยคนกลุ่มนี้ได้เสียสละความสุขในวัยหนุ่มสาวมาสร้าง และพัฒนาประชากรรุ่นใหม่
ผมเสนอว่ารัฐควรอุดหนุนสวัสดิการคนแก่ตามจำนวนลูกหลานที่มี
ถ้าไม่มีลูกสักคน ไม่ได้สวัสดิการใดๆเพิ่มเติมเลย
ุ้ถ้ามีลูกหนึ่งคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราฟรี
ถ้ามีลูกสองคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี
ถ้ามีลูกสามคน ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี พร้อมเบิกค่ารักษาโรคได้ใน รพ รัฐ
ถ้ามีลูกสี่คนขึ้นไป ได้สวัสดิการบ้านพักคนชราคุณภาพดีฟรี พร้อมเบิกค่ารักษาโรคได้ใน รพ รัฐ บวกเงินที่เพิ่มไปตามจำนวนลูก
โดยสามารถเอาสิทธิ์นี้ไปซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้
เหตุที่เสนอเกิดจากความเห็นนี้ http://ppantip.com/topic/35584490/comment50
เรื่องที่สองคือเรื่องหน้าที่พลเมือง
เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ป่า หรืออยู่แบบสันโดษประเภททำมาหากินด้วยตัวเองได้ทั้งหมด
เราแบ่งงานกันทำ แปลว่าคุณต้องมีเพื่อร่วมสังคมมาทำงานอย่างอื่นๆ ที่คุณทำไม่ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่คิดจะกลับไปอยู่ป่า ผมว่าแต่ละคนมีหน้าที่ในการสร้างประชากร เพื่อให้โลกมีแรงงานในการผลิดสินค้า และบริการต่อๆไป
นี่เป็นคนละเรื่องกับการเก็บเงินไว้ใช้ในยามชรา จริงอยู่ว่านั่นเป็นเงินของคุณ คุณทำงานจึงได้ผลตอบแทนตามนั้น
แต่นั่นเป็นเพียงการบริโภคสิ่งที่คุณหามาได้ในวัยหนุ่มสาว แต่ยังไม่ได้รวมถึงตัวแรงงานที่จะมาผลิตสินค้า หรือบริการที่คุณต้องการเอาเงินไปแลก
เหตุผลเรื่องการเงิน หรือเรื่องความต้องการใช้จ่ายซะเองนั้นจริงกับทุกๆคน
คนในประเทศร่ำรวย หลายๆ ประเทศก็มีลูกน้อย และกำลังประสบปัญหาคนแก่ล้นเมือง เช่น ญี่ปุ่น
ประเทศไทยก็กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุในไม่ช้า เพราะเรามีลูกกันน้อย และช้าลงกว่าเดิมมาก
ในอนาคตคนที่ยังทำงานได้ก็ต้องรับภาระหนักขึ้นในการอุ้มสังคมนั้นๆ
นี่ไงถึงบอกว่าผลักภาระให้กับรุ่นลูกๆ ของคนอื่นๆ
ถ้าการไม่สร้างประชากรเป็นเรื่องยั่งยืน เราคงไม่เห็นนักเศรษศาสตร์มองเรื่องสังคมผู้สูงอายุเป็นปัญหาหรอกครับ
ดังนั้นการไม่มีลูก แต่ยังเลือกบริโภคสิ่งที่สังคมผลิตได้จึงไม่ได้ส่งเสริมการดำรงอยู่ของสังคมในระยะยาว แต่เป็นเพียงแต่การบริโภคสิ่งที่เคยผลิตไว้
ผมอยากให้รัฐให้สวัสดิการคนแก่ ที่มีลูกมีหลานอยู่ในระบบภาษี มากกว่าคนแก่ปกติ
เพราะอย่างน้อยคนกลุ่มนี้ได้เสียสละความสุขในวัยหนุ่มสาวมาสร้าง และพัฒนาประชากรรุ่นใหม่