ต่อจากเดิมที่เราไปแพร่-น่าน
แพร่-น่าน
http://ppantip.com/topic/35574052/comment3-1
บ่อเกลือ
http://ppantip.com/topic/35574386
หลังจากคุณสามีฝุดไอเดียไปดูเงาพระธาตุขึ้นมา เช้านี้เราก็ออกเดินทางแต่เช้ามุ่งหน้าไปลำปางกันเลยคร่า
เราใช้ถนนเล้นทาง 101 ต่อไปเส้นทาง 11 และ1 ใช้เวลาประมาณ3ชม.ครึ่ง
ระหว่างเส้นทางที่จะไป เราจะแวะเที่ยววัดสวยแห่งหนึ่งก่อน นั่นก็คือวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม เป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่บนถนนสายแพร่-ลำปาง ช่วงอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ห่างจากแยกเด่นชัยประมาณ 5 กม.
วัดนี้สังเกตุไม่ยากค่ะ เพราะจะเห็นพระนอนองค์โตเด่นมาแต่ไกล ศิลปะของวัดนี้มองดูเหมือนมาพม่าเลยค่ะ
ทางขึ้นวัดมีสิงห์สีทองตัวใหญ่มากๆ 2 ตัวเฝ้าอยู่ตรงบันไดพญานาค7เศียรทางขึ้นวัด
ขึ้นมาด้านบนใต้ฝ่าพระบาทของพระนอนมีลวดลายสวยงามมาก
เดินขึ้นบันไดกลางนี้ พบว่าประตูทางกลางทางเข้าวัดปิด เพราะวัดนี้มีความเชื่อว่า ประตูทางกลางทางเข้าวัดมีไว้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ และผู้มีบุญบารมีเท่านั้น ส่วนคนธรรมดาก็ให้เดินเข้าวัดทางประตูฝั่งซ้าย-ขวาตามความสะดวก
พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ”ที่เป็นอาคารทรงล้านนาสร้างด้วยไม้สักทอง มีเสาทั้งหมด 101 ต้น เป็นจำนวนเท่ากับหมายเลขถนน(สาย 101) ที่ผ่านหน้าวัด ส่วนข้างในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยโบราณวัตถุ
ก่อนเข้าไปเราก็จะเจอยักษ์ 2 ตน ยืนเฝ้าประตู
ผ่านเข้าไปจะพบกับยอดเจดีย์สีทองที่มีมิติสูงต่ำสลับกันไปมา
อุโบสถ (แนะนำใส่ถุงเท้ามานิดนึงดีก่านะคะ กลางวันพื้นที่นี่ร้อนมากๆเลยค่ะ)
ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน พระพุทธชินเรศนวราชบพิตร ดูคล้ายพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก
บริเวณรอบๆวัดค่ะ รวมทั้งทางเดินที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปเรียงรายตลอดทาง
ออกเดินทางต่อค่ะ เราใช้เวลาเดินทางต่อไปอีกประมาณ ชม.ครึ่ง ก็เข้าเขตลำปาง จังหวัดที่ปกติเรามักจะผ่านตลอดแต่ไม่ได้แวะไหว้พระธษตุสักที
ขับไปสักพักก็ถึงแล้วค่ะจุดหมายของคุณสามี
พระธาตุลำปางหลวงวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู
ทางขึ้น ประตูโขง เป็นฝีมือช่างหลวงโบราณที่สวยงามก่ออิฐถือปูนทำเป็นซุ้มยอดแหลมเป็นชั้น ๆ มีสี่ทิศ
เราไปไหว้องค์พระที่วิหารหลวงก่อน ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ
องค์พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงล้านนา
ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น
เลยต้องให้สามีเข้าไปคนเดียว นี่คือรูปที่สามีถ่ายมาให้ดูค่ะ
ในบริเวณวัดยังมีอีกหลายที่ที่เก่าแก่ที่สวยงามมากนะคะ อย่างเช่นจิตรกรรมฝาผนัง วิหารน้ำแต้ม หอพระพุทธ วิหารพระพุทธ
ออกมาเราเจอรถม้าค่ะ สัญลักษณ์ของลำปางค่ะ
ออกจะวัดอากาศร้อนและเรื่มหิว ไม่ไกลจากวัดเราก็เจอกับร้านอาหาร log in café ร้านบรรยากาศดี มีห้องแอร์ อาหารอร่อย ไม่แพง พนักงานบริการดีด้วยค่ะ แนะนำเลยร้านนี้ เสียดายลืมถ่ายรูปอาหารมา ขอบอกราดหน้าต้มยำแซ่บสุดๆ
เราจะไปต่ออีกที่นึงของลำปางนะคะ วัดศรีชุม วัดพม่าในจังหวัดลำปางสร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยคหบดีชาวพม่าชื่อจองตะกาอูโย ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามทางด้าน ศิลปะของพม่ามีพระบรมธาตุ ซึ่งเป็นพระบรมธาตุสีทองเป็นศิลปะแบบพม่าและมอญ
วิหารเดิมถูกไฟไหม้เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2535 ได้รับความเสียหายมาก วิหารนี้สร้างขึ้นใหม่ตามรูป แบบเดิม
เดิมทีเราตั้งใจจะค้างคืนที่ลำปางสักคืน แต่คิดไปคิดมาเปลี่ยนใจ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้เที่ยวอุตรดิตถ์แต่เช้าแล้วรีบเข้ากรุงเทพก่อนหมดวันหยุดยาว ซึ่งกลัวว่ารถจะติด เลยตีรถกลับมาทางเส้นทางเดิมเพื่อค้างคืนที่อุตรดิตถ์
เราพักรร.good time เป็นบูติคโฮเตลราคาคืนนึงแค่600บาท แต่สะอาดดีมากค่ะ มื้อเย็นกะว่าจะไปทานอาหารร้านครัวชายน้ำที่ขึ้นชื่อของจังหวัด แต่...โทไปโต๊ะเต็มแว้ว อดเบย ไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาซะด้วย แถมที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่รู้เอาไงดี เลยตัดสินใจไปหาซื้ออาหารที่ตลาดกลางคืนมาทานดีกว่า
มาที่นี่ทั้งทีต้องลองข้าวพันอาหารประจำท้องถิ่น อืม...รสชาติแปลกดีนะคะ ออกเปรี้ยวๆนิดๆประมาณแป้งหมัก
รุ่งเช้าเราเริ่มออกเที่ยวก่อนเข้ากรุงเทพกันค่ะ
เริ่มด้วยไปเมืองลับแลก่อนเลย อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ ขับรถไปประมาณ6กิโลเราก็จะเจอ ซุ้มประตูเมืองลับแล
เมืองลับแลนั้นเป็นอำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่ง ที่อยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เดิมนั้นคงเป็นเมืองที่ยากต่อการเดินทางไปถึง ด้วยเส้นทางอันคดเคี้ยว ทำให้คนที่ไม่ชำนาญทางพลัดหลงได้ง่าย จึงเป็นที่มาของชื่อเมืองลับแล
รูปปั้นหญฺงสาวและชายหนุ่มในตำนาน และสโลแกนของเมือง
เที่ยวพิพิธภัณ์เมืองลับแลกันค่ะ ที่นี่รวบรวมวิถีชีวิต ประวัติของเมือง จำลองให้เห็นถึงวิถีการใช้ชีวิตของชาวเมืองลับแลในสมัยก่อน
ต่อไปที่อยากไปฝุดๆคือลองหมี่พันป้าหว่าง ซึ่งอยู่ในอำเภอลับแลเหมือนกัน ร้านนี้ขึ้นชื่อมาก แต่.....ไปถึงเจอป้ายร้านปิดวันพระ แป่ว....วันนี้เข้าพรรษา วันพระใหญ่เลยล่ะ อดเลย เค้าเสียใจ
มื้อเช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย ขับไปร้านนี้ก็ได้ ม่อนลับแล ร้านกาแฟและของฝากชื่อดังของที่นี่ ได้กาแฟกับขนมรองท้องสักหน่อย
อิ่มท้องแล้ว เราไปต่อกันที่ศาลพระยาพิชัยค่ะ อยู่หน้าศาลากลางจังหวัด มาถึงถิ่นท่านทั้งที ไม่ไปไหว้ท่านได้ยังไง
ต่อไปที่สุดของจังหวัดนี้แล้วค่ะ วัดพระแท่นศิลาอาสน์
เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น
ว่ากันว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์
พระแท่นอยู่ตรงกลางฐานที่สร้างครอบไว้นะคะ มีเจ้าหน้าที่ของอธิบายและช่วยถ่ายรูปให้เราได้เห็นกันค่ะ
เป็นบุญสุดๆ ได้มากราบพระแท่นในวันเข้าพรรษาเลย
ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ คุณสามีที่รักฝุดไอเดียอีกอย่างขึ้นมา เค้าอยากไปกราบ 'พระประธานท้องแตก’ งงเลยค่ะ รู้แค่ว่าอยู่อุตรดิตถ์ หาข้อมูลเดี๋ยวนั้นเลย พบว่าอยู่ที่ วัดบ้านแก่งใต้ หมู่ 3 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เอ้า...ไปกัน ตาม gps ไป
มาถึงแล้วค่ะ วัดบ้านแก่ง หลวงพ่อเพชรค่ะ ที่นี่เป็นวัดเล็กๆนะคะ ว่ากันว่า ระหว่างที่บูรณะช่วงบูรณะหลวงพ่อเพชรที่ชำรุดทั้งตัวองค์ สภาพอิฐและปูนที่เสื่อมลงจากการโดนฝนกัดกร่อนใส่เมื่อครั้งยังอยู่ในพระอุโบสถหลังไม้เก่า เกิดการแตกหักบางส่วนที่บริเวณพระเกศเหนือเศียร รวมไปถึงบริเวณอกท้องและฐานพระ โดยเฉพาะช่วงท้องเกิดการแตกหักจนเห็นพระพักต์ของพระพุทธรูปศิลาแลงทรงเครื่องคาดว่าสร้างในสมัยกรุงสุโขทัยโผล่ออกมา
กราบหลวงพ่อเพชรเรียบร้อย ถึงเวลาต้องกลับกรุงเทพแล้วค่ะ
ทริปนี้สนุกสนานน่าดู ขับรถตะลอนกันเต็มที่ ทริปนี้6คืน อิ่มบุญกับการไหว้พระ15วัดในวันเข้าพรรษา ไปกันแบบแพลนบ้างไม่แพลนบ้าง ทริปนี้ชิวๆหมดค่าใช้จ่ายไปหมื่นนิดๆ หลงบ้างมึนบ้าง แต่สุขสุด ได้ภาพถ่ายกลับบ้านเพรียบ เมืองไทยเรามีที่เที่ยวมากมายจริงๆ
ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาชมกระทู้นะคะ ถ้าหากมีข้อมูลอะไรที่ผิดพลาดก็ต้องขอโทษไว้ด้วยค่ะ ไว้พบกันใหม่กลับทริปหน้านะคะ
[CR] [CR]JR on Tour ตะลุยเที่ยว แพร่-น่าน แล้วชะแว๊บไปลำปาง แวะต่ออุตรดิตถ์ 3
แพร่-น่าน http://ppantip.com/topic/35574052/comment3-1
บ่อเกลือ http://ppantip.com/topic/35574386
หลังจากคุณสามีฝุดไอเดียไปดูเงาพระธาตุขึ้นมา เช้านี้เราก็ออกเดินทางแต่เช้ามุ่งหน้าไปลำปางกันเลยคร่า
เราใช้ถนนเล้นทาง 101 ต่อไปเส้นทาง 11 และ1 ใช้เวลาประมาณ3ชม.ครึ่ง
ระหว่างเส้นทางที่จะไป เราจะแวะเที่ยววัดสวยแห่งหนึ่งก่อน นั่นก็คือวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม เป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่บนถนนสายแพร่-ลำปาง ช่วงอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ห่างจากแยกเด่นชัยประมาณ 5 กม.
วัดนี้สังเกตุไม่ยากค่ะ เพราะจะเห็นพระนอนองค์โตเด่นมาแต่ไกล ศิลปะของวัดนี้มองดูเหมือนมาพม่าเลยค่ะ
ทางขึ้นวัดมีสิงห์สีทองตัวใหญ่มากๆ 2 ตัวเฝ้าอยู่ตรงบันไดพญานาค7เศียรทางขึ้นวัด
ขึ้นมาด้านบนใต้ฝ่าพระบาทของพระนอนมีลวดลายสวยงามมาก
เดินขึ้นบันไดกลางนี้ พบว่าประตูทางกลางทางเข้าวัดปิด เพราะวัดนี้มีความเชื่อว่า ประตูทางกลางทางเข้าวัดมีไว้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ และผู้มีบุญบารมีเท่านั้น ส่วนคนธรรมดาก็ให้เดินเข้าวัดทางประตูฝั่งซ้าย-ขวาตามความสะดวก
พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ”ที่เป็นอาคารทรงล้านนาสร้างด้วยไม้สักทอง มีเสาทั้งหมด 101 ต้น เป็นจำนวนเท่ากับหมายเลขถนน(สาย 101) ที่ผ่านหน้าวัด ส่วนข้างในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยโบราณวัตถุ
ก่อนเข้าไปเราก็จะเจอยักษ์ 2 ตน ยืนเฝ้าประตู
ผ่านเข้าไปจะพบกับยอดเจดีย์สีทองที่มีมิติสูงต่ำสลับกันไปมา
อุโบสถ (แนะนำใส่ถุงเท้ามานิดนึงดีก่านะคะ กลางวันพื้นที่นี่ร้อนมากๆเลยค่ะ)
ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน พระพุทธชินเรศนวราชบพิตร ดูคล้ายพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก
บริเวณรอบๆวัดค่ะ รวมทั้งทางเดินที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปเรียงรายตลอดทาง
ออกเดินทางต่อค่ะ เราใช้เวลาเดินทางต่อไปอีกประมาณ ชม.ครึ่ง ก็เข้าเขตลำปาง จังหวัดที่ปกติเรามักจะผ่านตลอดแต่ไม่ได้แวะไหว้พระธษตุสักที
ขับไปสักพักก็ถึงแล้วค่ะจุดหมายของคุณสามี
พระธาตุลำปางหลวงวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู
ทางขึ้น ประตูโขง เป็นฝีมือช่างหลวงโบราณที่สวยงามก่ออิฐถือปูนทำเป็นซุ้มยอดแหลมเป็นชั้น ๆ มีสี่ทิศ
เราไปไหว้องค์พระที่วิหารหลวงก่อน ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ
องค์พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงล้านนา
ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น
เลยต้องให้สามีเข้าไปคนเดียว นี่คือรูปที่สามีถ่ายมาให้ดูค่ะ
ในบริเวณวัดยังมีอีกหลายที่ที่เก่าแก่ที่สวยงามมากนะคะ อย่างเช่นจิตรกรรมฝาผนัง วิหารน้ำแต้ม หอพระพุทธ วิหารพระพุทธ
ออกมาเราเจอรถม้าค่ะ สัญลักษณ์ของลำปางค่ะ
ออกจะวัดอากาศร้อนและเรื่มหิว ไม่ไกลจากวัดเราก็เจอกับร้านอาหาร log in café ร้านบรรยากาศดี มีห้องแอร์ อาหารอร่อย ไม่แพง พนักงานบริการดีด้วยค่ะ แนะนำเลยร้านนี้ เสียดายลืมถ่ายรูปอาหารมา ขอบอกราดหน้าต้มยำแซ่บสุดๆ
เราจะไปต่ออีกที่นึงของลำปางนะคะ วัดศรีชุม วัดพม่าในจังหวัดลำปางสร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยคหบดีชาวพม่าชื่อจองตะกาอูโย ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามทางด้าน ศิลปะของพม่ามีพระบรมธาตุ ซึ่งเป็นพระบรมธาตุสีทองเป็นศิลปะแบบพม่าและมอญ
วิหารเดิมถูกไฟไหม้เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2535 ได้รับความเสียหายมาก วิหารนี้สร้างขึ้นใหม่ตามรูป แบบเดิม
เดิมทีเราตั้งใจจะค้างคืนที่ลำปางสักคืน แต่คิดไปคิดมาเปลี่ยนใจ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้เที่ยวอุตรดิตถ์แต่เช้าแล้วรีบเข้ากรุงเทพก่อนหมดวันหยุดยาว ซึ่งกลัวว่ารถจะติด เลยตีรถกลับมาทางเส้นทางเดิมเพื่อค้างคืนที่อุตรดิตถ์
เราพักรร.good time เป็นบูติคโฮเตลราคาคืนนึงแค่600บาท แต่สะอาดดีมากค่ะ มื้อเย็นกะว่าจะไปทานอาหารร้านครัวชายน้ำที่ขึ้นชื่อของจังหวัด แต่...โทไปโต๊ะเต็มแว้ว อดเบย ไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาซะด้วย แถมที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่รู้เอาไงดี เลยตัดสินใจไปหาซื้ออาหารที่ตลาดกลางคืนมาทานดีกว่า
มาที่นี่ทั้งทีต้องลองข้าวพันอาหารประจำท้องถิ่น อืม...รสชาติแปลกดีนะคะ ออกเปรี้ยวๆนิดๆประมาณแป้งหมัก
รุ่งเช้าเราเริ่มออกเที่ยวก่อนเข้ากรุงเทพกันค่ะ
เริ่มด้วยไปเมืองลับแลก่อนเลย อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ ขับรถไปประมาณ6กิโลเราก็จะเจอ ซุ้มประตูเมืองลับแล
เมืองลับแลนั้นเป็นอำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่ง ที่อยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เดิมนั้นคงเป็นเมืองที่ยากต่อการเดินทางไปถึง ด้วยเส้นทางอันคดเคี้ยว ทำให้คนที่ไม่ชำนาญทางพลัดหลงได้ง่าย จึงเป็นที่มาของชื่อเมืองลับแล
รูปปั้นหญฺงสาวและชายหนุ่มในตำนาน และสโลแกนของเมือง
เที่ยวพิพิธภัณ์เมืองลับแลกันค่ะ ที่นี่รวบรวมวิถีชีวิต ประวัติของเมือง จำลองให้เห็นถึงวิถีการใช้ชีวิตของชาวเมืองลับแลในสมัยก่อน
ต่อไปที่อยากไปฝุดๆคือลองหมี่พันป้าหว่าง ซึ่งอยู่ในอำเภอลับแลเหมือนกัน ร้านนี้ขึ้นชื่อมาก แต่.....ไปถึงเจอป้ายร้านปิดวันพระ แป่ว....วันนี้เข้าพรรษา วันพระใหญ่เลยล่ะ อดเลย เค้าเสียใจ
มื้อเช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย ขับไปร้านนี้ก็ได้ ม่อนลับแล ร้านกาแฟและของฝากชื่อดังของที่นี่ ได้กาแฟกับขนมรองท้องสักหน่อย
อิ่มท้องแล้ว เราไปต่อกันที่ศาลพระยาพิชัยค่ะ อยู่หน้าศาลากลางจังหวัด มาถึงถิ่นท่านทั้งที ไม่ไปไหว้ท่านได้ยังไง
ต่อไปที่สุดของจังหวัดนี้แล้วค่ะ วัดพระแท่นศิลาอาสน์
เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น
ว่ากันว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์
พระแท่นอยู่ตรงกลางฐานที่สร้างครอบไว้นะคะ มีเจ้าหน้าที่ของอธิบายและช่วยถ่ายรูปให้เราได้เห็นกันค่ะ
เป็นบุญสุดๆ ได้มากราบพระแท่นในวันเข้าพรรษาเลย
ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ คุณสามีที่รักฝุดไอเดียอีกอย่างขึ้นมา เค้าอยากไปกราบ 'พระประธานท้องแตก’ งงเลยค่ะ รู้แค่ว่าอยู่อุตรดิตถ์ หาข้อมูลเดี๋ยวนั้นเลย พบว่าอยู่ที่ วัดบ้านแก่งใต้ หมู่ 3 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เอ้า...ไปกัน ตาม gps ไป
มาถึงแล้วค่ะ วัดบ้านแก่ง หลวงพ่อเพชรค่ะ ที่นี่เป็นวัดเล็กๆนะคะ ว่ากันว่า ระหว่างที่บูรณะช่วงบูรณะหลวงพ่อเพชรที่ชำรุดทั้งตัวองค์ สภาพอิฐและปูนที่เสื่อมลงจากการโดนฝนกัดกร่อนใส่เมื่อครั้งยังอยู่ในพระอุโบสถหลังไม้เก่า เกิดการแตกหักบางส่วนที่บริเวณพระเกศเหนือเศียร รวมไปถึงบริเวณอกท้องและฐานพระ โดยเฉพาะช่วงท้องเกิดการแตกหักจนเห็นพระพักต์ของพระพุทธรูปศิลาแลงทรงเครื่องคาดว่าสร้างในสมัยกรุงสุโขทัยโผล่ออกมา
กราบหลวงพ่อเพชรเรียบร้อย ถึงเวลาต้องกลับกรุงเทพแล้วค่ะ
ทริปนี้สนุกสนานน่าดู ขับรถตะลอนกันเต็มที่ ทริปนี้6คืน อิ่มบุญกับการไหว้พระ15วัดในวันเข้าพรรษา ไปกันแบบแพลนบ้างไม่แพลนบ้าง ทริปนี้ชิวๆหมดค่าใช้จ่ายไปหมื่นนิดๆ หลงบ้างมึนบ้าง แต่สุขสุด ได้ภาพถ่ายกลับบ้านเพรียบ เมืองไทยเรามีที่เที่ยวมากมายจริงๆ
ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาชมกระทู้นะคะ ถ้าหากมีข้อมูลอะไรที่ผิดพลาดก็ต้องขอโทษไว้ด้วยค่ะ ไว้พบกันใหม่กลับทริปหน้านะคะ