ต้นเหตุของเรื่องเกิดจากที่ผมอยากลองเปลี่ยนเหล็กกันโคลงหน้าครับ ซึ่งโตโยต้าอัลติสตัว 01-03 เหล็กกันโคลงหน้าที่ติดมากับรถจะมีขนาด 19 มม. ตัว 04-07 จะมีขนาด 22 มม. ส่วนถ้าเป็นนิวอัลติสจะมีขนาด 24 มม. (ขนาดที่เขียนบอกไว้ยังไม่ชัวร์นะครับ วัดจริงอาจจะเล็กกว่าประมาณ 0.5-1 มม. หามาจากหลายๆแหล่ง ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้างครับ)
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis โฉมหน้าหมู
เครื่อง : 2zz-ge
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว Monroe Reflex (Twin tube)
ยาง : Bridgestone Turanza GR100
ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับกันโคลงได้สักพัก ก็มีพี่คนหนึ่งที่หน้าตาหล่อน้อยกว่าผมนิดหน่อย แนะนำผมว่าเอาตังไปใส่ค้ำโช๊คดีกว่า เห็นผลกว่า กระนั้นผมก็ยังดื้อครับยังจะเปลี่ยนกันโคลงเหมือนเดิม แต่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับค้ำโช๊คควบคู่ไปด้วย และเท่าที่หาได้มันก็ดูมีประโยชน์เหมือนกัน เพียงแต่คนละส่วน นั่นคือ กันโคลง (Stabilizer Bar หรืออีกชื่อ Anti-sway Bar) หลักๆแล้วจะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นในตอนเข้าโค้ง ส่วนค้ำโช๊ค (Struts Bar หรือ Struts Brace หรือ Struts Tower Brace) จะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นในทางขรุขระหรือพวกคอสะพานเป็นหลัก
สุดท้ายตัดสินใจโทรนัดอู่ T เพื่อติดตั้งเหล็กกันโคลงครับ อู่บอกว่าเป็นกันโคลงติดรถ 2zz มา ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็น Toyota RunX ครับถ้าผิดต้องขออภัย เข้าไปถึงอู่ อู่ชี้ของใหม่ให้ดู และจัดการรื้อขอเดิมเพื่อที่จะเปลี่ยน ที่ไหนได้ รถผมเหล็กกันโคลงเป็นเบอร์ 22 มม. อยู่แล้ว!! เวรกรรม ผิดคาดเสียแล้ว ระหว่างที่ช่างกำลังถอนสมอ ผมเลยชวนเจ้าของอู่คุย ว่ามีเบอร์ใหญ่กว่านี้ไหม ใส่ใหญ่ไปจะเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วมีค้ำโช๊คไหม เจ้าของอู่เลยไปค้นมาให้ดู ภาพที่ผมนึกเป็นแบบนี้
ความเป็นจริง ผ่างงงงง.....
ค้ำโช๊คหน้าตัวนี้อู่บอกว่าเป็นของรถ 2zz ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นของ RunX หรือเปล่า แต่มีพี่ที่รู้จักบอกว่าเป็นของ XRS ซึ่ง ออกแบบโดย Yamaha เป็นค้ำโช๊คที่ไม่ได้เป็นเหล็กแท่งยาวๆเพื่อเชื่อมหัวโช๊คสองข้างเท่านั้น แต่ยังมีโช๊คตรงกลางเพื่อให้มีการยืดหยุ่นและให้ตัวได้เล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้มันแพงและเป็นจุดขายเลยทีเดียว สมมติถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ฝั่งซ้ายทำให้ช่วงล่างด้านซ้ายพัง ค้ำโช๊คตัวอื่นอาจจะดึงให้อีกฝั่งพังตามไปด้วย แต่สำหรับตัวนี้เขาว่ากันว่า อีกข้างจะปลอดภัยไร้กังวล ราคาตลาด ณ ตอนนี้น่าจะอยู่ราวๆ 4500-6000 บาท (เดานะครับ)
พอล้างทำความสะอาดแล้ว ก็ดูดีขึ้นนะครับ..
ไม่รอช้า ติดตั้งเลยแล้วกัน ไต้กระโปรงผมเขรอะหน่อยครับ ขออภัย ไม่ได้เก้บให้เรียบร้อย..
Before
ผมได้ติดตั้งสตรัท Monroe reflex มาได้หลายปีแล้วครับ โดยหลักๆแล้วข้อดีคือการเกาะถนน ความสั่นสะเทือนเข้าห้องโดยสาร การเข้าโค้ง การทรงตัวตอนเบรคแรงๆ และการเปลี่ยนเลนส์กระทันหัน ดีขึ้นกว่าโช๊คเดิมสแตนดาร์ดมาก จะบอกว่าดีขึ้นแบบเท่าตัวเลยก็อาจจะเว่อร์วังไปนิด แต่ผมจำความรู้สึกได้ว่าเมื่อก่อนทางตรงๆแค่ขับเกิน 80 ก็เริ่มหวิวๆแล้ว ตอนนี้ขับ 160 ก็ยังรู้สึกสบายครับถ้าเป็นทางตรงหรือโค้งเล็กๆ ส่วนการเข้าโค้งเดิมๆถ้าเป็นโค้งที่เคยเสียวตอนขับ 60 ตอนนี้จะเข้าได้ราว 80 ครับ สตรัทชุดนี้โดดคอสะพาน 80-120 แล้วลงมาตึงเดียวอยู่ (แบบแน่นๆ เฟิร์มๆ แต่แข็งครับ) ขณะที่เมื่อก่อนแค่หยอดเนินหลังเต่าแบบมาช้าๆเบาๆแล้วล้อลงมาสัมผัสพื้นแบบตึ้งเบาๆ รถยังแกว่งไปมา 2-3 ครั้ง ทุกเน้นผมจำได้แม่น ใครที่ขับหน้าหมูน่าจะประสบปัญหานี้กันหลายคันครับ เท่าที่เล่ามาก็ถือว่า Monroe Reflex ดีขึ้นกว่าโช๊คเดิมมากๆแล้วครับ และที่สำคัญที่สุดมันเซฟชีวิตผมได้หลายครั้งแล้ว ทั้งตอนที่เบรคตัวโก่ง ถ้าเป็นโช้คเดิมคงแกว่งไปแกว่งมาบังคับทิศทางได้ยาก ตอนที่ขับมาเลนส์ขวาสุดแล้วเจอแอ่งน้ำกว้างๆลงน้ำเต็มๆล้อเดียว อีกล้อน้ำตื้นๆ ถ้าเป็นช่วงล่างเดิมคงส่ายและปลิวอาจจะลงข้างทางได้ และอีกครั้งที่ผมขับมากลางคืนมืดๆความเร็ว 120 แล้วหักหลบซากหมาตายเมื่อเห็นมันลิบๆปลายแสงไฟในระยะกระชั้น ผมผ่านมาด้วยความปลอดภัยและอาจจะมีความโชคดีปนกันด้วยครับ
แต่หลังจากที่ผมได้วางเครื่อง 2zz-ge มา แรงม้าที่เพิ่มขึ้นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าช่วงล่างด้านหน้ามันยังนุ่มและยวบไปนิดในช่วงจังหวะเลี้อย ตอนเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆก็ยังยุบมากอยู่ แต่ก็ยังอดทนใช้มาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มันยังไม่ได้ดั่งใจเท่านั้นเองครับ
After
หลังจากที่ผมติดตั้งค้ำโช๊คตัวนี้แล้ว ตั้งแต่ที่ผมขับออกจากอู่ ออกมาจากซอยที่ค่อนข้างเรียบแต่เป็นคลื่น ผมก็พอจะรู้สึกได้ว่ารถมันกระด้างขึ้นครับ แต่ก็สามารถแยกได้ว่ายางยังแน่นๆ โช๊คยังย้วยๆ แต่ความรู้สึกใหม่นี้มันรู้สึกเหมือนช่วงล่างมันจะตึงๆ กระด้างๆ ไม่ค่อยยืดหยุน โดยที่ไม่ รู้สึกทุกครั้งเวลาขับช้าๆผ่านทางที่มันลุ่มๆดอนในซอย หลังจากนั้นผมก็ไปรับน้องมา 1 คน และไปลองรถที่เขาใหญ่กันครับ
ด้วยระยะทางทดสอบหลายร้อย กม. ไป-กลับ ผ่านเส้นสระบุรีที่เป็นคอนกรีตและลาดยาง ขึ้นเขาทางเรียบมีโค้งเยอะ และลงเขาที่ปราจีนทางตรงยาวๆ ขับมาผ่านคลองรังสิตฝนตกถนนลื่น จนกลับมาถึง กทม. พอจะสรุปได้ว่า หลังจากติดตั้งค้ำโช๊คมา สัมผัสได้ชัดว่าแรงสั่นสะเทือนของพวงมาลัยมากขึ้น แม้แต่รอยต่อของคอนกรีตถ้าจับความรู้สึกดีๆก็ยังรู้สึกได้ ทางขรุขระต่างๆ หลุม คอสะพาน สามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังเหยียบตรงทางขรุขระอยู่ หรือได้จากมันมาแล้วชัดขึ้น และทุกความรู้สึกมันส่งมาที่พวงมาลัยครับ ไม่ได้ส่งมาที่ห้องโดยสารเหมือนก่อน ส่วนตัวคิดว่ารถมันกระด้างขึ้นพอตัวเลย แต่ผมถามน้องที่นั่งไปด้วยกันแล้วน้องบอกว่าไม่รู้สึกว่าแตกต่าง นั่นอาจจะแปลว่าการสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารอาจจะเหมือนเดิม แต่ที่ผมรู้สึกมาจากพวงมาลัยล้วนๆ
สิ่งที่ผมชอบมากเรื่องนึงคือ เวลาขับผ่านทางขรุขระหรือโดดคอสะพาน ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นสะพาน หรือขาลงสะพาน ตอนที่ล้อกระแทกลงพื้นเมื่อก่อนบางครั้งมันจะมีจังหวะแฉลบๆ หรือเป๋ๆหน่วงๆบ้าง แต่หลังจากติดค้ำโช๊คมามันแน่นครับ ลงมา ตึ้งเดียว แล้วไปต่อได้โดยที่ไม่มีอาการเป๋ให้เสียว เวลาขับผ่านทางขรุขระเมื่อก่อนอาจมีโยกมีย้วยบ้าง แต่ตอนนี้ไถพรวดตรงๆไปได้ง่ายขึ้น ถึงแม้จะเป็นอาการที่รู้สึกได้แค่นิดๆหน่อยๆ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าใครก็ตามได้ลองใช้จะรู้สึกแบบผมได้แน่นอน ช่วงล่างที่เฟิร์มชึ้นและนิ่งขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่อู่ก็ได้บอกผมก่อนจะติดตั้ง รวมถึงสิ่งที่ผมหามาในเน็ตก็บอกไว้ตรงกันครับ
อีกเรื่องที่ผมเจอกับตัวเอง แต่อู่ไม่ได้โฆษณาเลย และหาในเน็ตก็ไม่ได้กล่าวถึงเช่นกัน ก็คือทุกครั้งที่เข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนส์กระทันหัน รถจะเอียงน้อยกว่าเดิมครับ ไม่ได้มากมายอะไร แต่รู้สึกได้จริงๆทุกโค้ง เข้าโค้งได้เนียนขึ้น ลดอาการเต้นไปมาเวลาเข้าโค้ง หรือที่เขาใช้คำว่า "เข้าโค้งคมขึ้น" ก็น่าจะใช่ครับ พี่ที่ออฟฟิซผม ที่เขาแนะนำให้ผมติดค้ำโช๊คตัวนี้ ได้อธิบายว่าอาการนี้มันเกี่ยวกับค้ำโช๊คแน่นอน เพราะค้ำโช๊คมันทำให้ตัวถังบิดตัวได้น้อยลง พอบิดตัวน้อยลงก็โคลงน้อยลงและให้ความรู้สึกที่แน่นขึ้นเป็นธรรมดา
สรุปผลการทดลอง
สิ่งที่ผมได้และเสีย หลังจากติดค้ำโช๊ค
1. รับรู้แรงสั่นสะเทือนมาถึงพวงมาลัยได้ชัดเจน (ตรงนี้บางคนอาจชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบนะครับ)
2. ได้ช่วงล่างที่แน่นขึ้น ผ่านทางขรุขระหรือคอสะพานทรงตัวได้ดีขึ้น อาการแฉลบที่เคยมีลดลงมากจนแทบไม่มีเลย
3. เข้าโค้งได้คมขึ้น เอียงและโคลงน้อยลง แม้จะไม่มาก แต่พอสัมผัสได้ครับ
4. สิ่งที่ผมไม่ชอบคือมันกระด้างขึ้นชัดเจนเช่นกัน เหมือนขับๆไปแล้วรถมันไม่ค่อยยืดหยุ่น ตรงนี้คนที่ขับรถบ้านๆที่ชอบขับรถแบบสบายๆนุ่มๆ รับรองว่าต้องไม่ชอบความรู้สึกนี้แน่นอน
สุดท้ายนี้โดยส่วนตัวผมชอบครับ ช่วงล่างดีขึ้นพอสมควร สิ่งที่ไม่ชอบมีนิดๆหน่อยๆ ใช้ๆไปก็คงชินไปเองครับ ประมาณว่า ได้ 3 เสีย 1 เห็นจะได้ ถ้าตอนนี้จะให้ถอดแล้วไปใช้แบบเดิม ผมก็คงไม่เอาแน่นอน ขอขอบคุณท่านที่ติดตามอ่านครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ส่วนจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือไม่นั้น ต้องแล้วแต่การใช้งานของแต่ละคนครับ ลองเวทดูนะครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิว Before & After ทดลองใช้ ค้ำโช๊คหน้า XRS
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis โฉมหน้าหมู
เครื่อง : 2zz-ge
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว Monroe Reflex (Twin tube)
ยาง : Bridgestone Turanza GR100
ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับกันโคลงได้สักพัก ก็มีพี่คนหนึ่งที่หน้าตาหล่อน้อยกว่าผมนิดหน่อย แนะนำผมว่าเอาตังไปใส่ค้ำโช๊คดีกว่า เห็นผลกว่า กระนั้นผมก็ยังดื้อครับยังจะเปลี่ยนกันโคลงเหมือนเดิม แต่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับค้ำโช๊คควบคู่ไปด้วย และเท่าที่หาได้มันก็ดูมีประโยชน์เหมือนกัน เพียงแต่คนละส่วน นั่นคือ กันโคลง (Stabilizer Bar หรืออีกชื่อ Anti-sway Bar) หลักๆแล้วจะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นในตอนเข้าโค้ง ส่วนค้ำโช๊ค (Struts Bar หรือ Struts Brace หรือ Struts Tower Brace) จะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นในทางขรุขระหรือพวกคอสะพานเป็นหลัก
สุดท้ายตัดสินใจโทรนัดอู่ T เพื่อติดตั้งเหล็กกันโคลงครับ อู่บอกว่าเป็นกันโคลงติดรถ 2zz มา ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็น Toyota RunX ครับถ้าผิดต้องขออภัย เข้าไปถึงอู่ อู่ชี้ของใหม่ให้ดู และจัดการรื้อขอเดิมเพื่อที่จะเปลี่ยน ที่ไหนได้ รถผมเหล็กกันโคลงเป็นเบอร์ 22 มม. อยู่แล้ว!! เวรกรรม ผิดคาดเสียแล้ว ระหว่างที่ช่างกำลังถอนสมอ ผมเลยชวนเจ้าของอู่คุย ว่ามีเบอร์ใหญ่กว่านี้ไหม ใส่ใหญ่ไปจะเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วมีค้ำโช๊คไหม เจ้าของอู่เลยไปค้นมาให้ดู ภาพที่ผมนึกเป็นแบบนี้
ความเป็นจริง ผ่างงงงง.....
ค้ำโช๊คหน้าตัวนี้อู่บอกว่าเป็นของรถ 2zz ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นของ RunX หรือเปล่า แต่มีพี่ที่รู้จักบอกว่าเป็นของ XRS ซึ่ง ออกแบบโดย Yamaha เป็นค้ำโช๊คที่ไม่ได้เป็นเหล็กแท่งยาวๆเพื่อเชื่อมหัวโช๊คสองข้างเท่านั้น แต่ยังมีโช๊คตรงกลางเพื่อให้มีการยืดหยุ่นและให้ตัวได้เล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้มันแพงและเป็นจุดขายเลยทีเดียว สมมติถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ฝั่งซ้ายทำให้ช่วงล่างด้านซ้ายพัง ค้ำโช๊คตัวอื่นอาจจะดึงให้อีกฝั่งพังตามไปด้วย แต่สำหรับตัวนี้เขาว่ากันว่า อีกข้างจะปลอดภัยไร้กังวล ราคาตลาด ณ ตอนนี้น่าจะอยู่ราวๆ 4500-6000 บาท (เดานะครับ)
พอล้างทำความสะอาดแล้ว ก็ดูดีขึ้นนะครับ..
ไม่รอช้า ติดตั้งเลยแล้วกัน ไต้กระโปรงผมเขรอะหน่อยครับ ขออภัย ไม่ได้เก้บให้เรียบร้อย..
Before
ผมได้ติดตั้งสตรัท Monroe reflex มาได้หลายปีแล้วครับ โดยหลักๆแล้วข้อดีคือการเกาะถนน ความสั่นสะเทือนเข้าห้องโดยสาร การเข้าโค้ง การทรงตัวตอนเบรคแรงๆ และการเปลี่ยนเลนส์กระทันหัน ดีขึ้นกว่าโช๊คเดิมสแตนดาร์ดมาก จะบอกว่าดีขึ้นแบบเท่าตัวเลยก็อาจจะเว่อร์วังไปนิด แต่ผมจำความรู้สึกได้ว่าเมื่อก่อนทางตรงๆแค่ขับเกิน 80 ก็เริ่มหวิวๆแล้ว ตอนนี้ขับ 160 ก็ยังรู้สึกสบายครับถ้าเป็นทางตรงหรือโค้งเล็กๆ ส่วนการเข้าโค้งเดิมๆถ้าเป็นโค้งที่เคยเสียวตอนขับ 60 ตอนนี้จะเข้าได้ราว 80 ครับ สตรัทชุดนี้โดดคอสะพาน 80-120 แล้วลงมาตึงเดียวอยู่ (แบบแน่นๆ เฟิร์มๆ แต่แข็งครับ) ขณะที่เมื่อก่อนแค่หยอดเนินหลังเต่าแบบมาช้าๆเบาๆแล้วล้อลงมาสัมผัสพื้นแบบตึ้งเบาๆ รถยังแกว่งไปมา 2-3 ครั้ง ทุกเน้นผมจำได้แม่น ใครที่ขับหน้าหมูน่าจะประสบปัญหานี้กันหลายคันครับ เท่าที่เล่ามาก็ถือว่า Monroe Reflex ดีขึ้นกว่าโช๊คเดิมมากๆแล้วครับ และที่สำคัญที่สุดมันเซฟชีวิตผมได้หลายครั้งแล้ว ทั้งตอนที่เบรคตัวโก่ง ถ้าเป็นโช้คเดิมคงแกว่งไปแกว่งมาบังคับทิศทางได้ยาก ตอนที่ขับมาเลนส์ขวาสุดแล้วเจอแอ่งน้ำกว้างๆลงน้ำเต็มๆล้อเดียว อีกล้อน้ำตื้นๆ ถ้าเป็นช่วงล่างเดิมคงส่ายและปลิวอาจจะลงข้างทางได้ และอีกครั้งที่ผมขับมากลางคืนมืดๆความเร็ว 120 แล้วหักหลบซากหมาตายเมื่อเห็นมันลิบๆปลายแสงไฟในระยะกระชั้น ผมผ่านมาด้วยความปลอดภัยและอาจจะมีความโชคดีปนกันด้วยครับ
แต่หลังจากที่ผมได้วางเครื่อง 2zz-ge มา แรงม้าที่เพิ่มขึ้นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าช่วงล่างด้านหน้ามันยังนุ่มและยวบไปนิดในช่วงจังหวะเลี้อย ตอนเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆก็ยังยุบมากอยู่ แต่ก็ยังอดทนใช้มาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มันยังไม่ได้ดั่งใจเท่านั้นเองครับ
After
หลังจากที่ผมติดตั้งค้ำโช๊คตัวนี้แล้ว ตั้งแต่ที่ผมขับออกจากอู่ ออกมาจากซอยที่ค่อนข้างเรียบแต่เป็นคลื่น ผมก็พอจะรู้สึกได้ว่ารถมันกระด้างขึ้นครับ แต่ก็สามารถแยกได้ว่ายางยังแน่นๆ โช๊คยังย้วยๆ แต่ความรู้สึกใหม่นี้มันรู้สึกเหมือนช่วงล่างมันจะตึงๆ กระด้างๆ ไม่ค่อยยืดหยุน โดยที่ไม่ รู้สึกทุกครั้งเวลาขับช้าๆผ่านทางที่มันลุ่มๆดอนในซอย หลังจากนั้นผมก็ไปรับน้องมา 1 คน และไปลองรถที่เขาใหญ่กันครับ
ด้วยระยะทางทดสอบหลายร้อย กม. ไป-กลับ ผ่านเส้นสระบุรีที่เป็นคอนกรีตและลาดยาง ขึ้นเขาทางเรียบมีโค้งเยอะ และลงเขาที่ปราจีนทางตรงยาวๆ ขับมาผ่านคลองรังสิตฝนตกถนนลื่น จนกลับมาถึง กทม. พอจะสรุปได้ว่า หลังจากติดตั้งค้ำโช๊คมา สัมผัสได้ชัดว่าแรงสั่นสะเทือนของพวงมาลัยมากขึ้น แม้แต่รอยต่อของคอนกรีตถ้าจับความรู้สึกดีๆก็ยังรู้สึกได้ ทางขรุขระต่างๆ หลุม คอสะพาน สามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังเหยียบตรงทางขรุขระอยู่ หรือได้จากมันมาแล้วชัดขึ้น และทุกความรู้สึกมันส่งมาที่พวงมาลัยครับ ไม่ได้ส่งมาที่ห้องโดยสารเหมือนก่อน ส่วนตัวคิดว่ารถมันกระด้างขึ้นพอตัวเลย แต่ผมถามน้องที่นั่งไปด้วยกันแล้วน้องบอกว่าไม่รู้สึกว่าแตกต่าง นั่นอาจจะแปลว่าการสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารอาจจะเหมือนเดิม แต่ที่ผมรู้สึกมาจากพวงมาลัยล้วนๆ
สิ่งที่ผมชอบมากเรื่องนึงคือ เวลาขับผ่านทางขรุขระหรือโดดคอสะพาน ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นสะพาน หรือขาลงสะพาน ตอนที่ล้อกระแทกลงพื้นเมื่อก่อนบางครั้งมันจะมีจังหวะแฉลบๆ หรือเป๋ๆหน่วงๆบ้าง แต่หลังจากติดค้ำโช๊คมามันแน่นครับ ลงมา ตึ้งเดียว แล้วไปต่อได้โดยที่ไม่มีอาการเป๋ให้เสียว เวลาขับผ่านทางขรุขระเมื่อก่อนอาจมีโยกมีย้วยบ้าง แต่ตอนนี้ไถพรวดตรงๆไปได้ง่ายขึ้น ถึงแม้จะเป็นอาการที่รู้สึกได้แค่นิดๆหน่อยๆ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าใครก็ตามได้ลองใช้จะรู้สึกแบบผมได้แน่นอน ช่วงล่างที่เฟิร์มชึ้นและนิ่งขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่อู่ก็ได้บอกผมก่อนจะติดตั้ง รวมถึงสิ่งที่ผมหามาในเน็ตก็บอกไว้ตรงกันครับ
อีกเรื่องที่ผมเจอกับตัวเอง แต่อู่ไม่ได้โฆษณาเลย และหาในเน็ตก็ไม่ได้กล่าวถึงเช่นกัน ก็คือทุกครั้งที่เข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนส์กระทันหัน รถจะเอียงน้อยกว่าเดิมครับ ไม่ได้มากมายอะไร แต่รู้สึกได้จริงๆทุกโค้ง เข้าโค้งได้เนียนขึ้น ลดอาการเต้นไปมาเวลาเข้าโค้ง หรือที่เขาใช้คำว่า "เข้าโค้งคมขึ้น" ก็น่าจะใช่ครับ พี่ที่ออฟฟิซผม ที่เขาแนะนำให้ผมติดค้ำโช๊คตัวนี้ ได้อธิบายว่าอาการนี้มันเกี่ยวกับค้ำโช๊คแน่นอน เพราะค้ำโช๊คมันทำให้ตัวถังบิดตัวได้น้อยลง พอบิดตัวน้อยลงก็โคลงน้อยลงและให้ความรู้สึกที่แน่นขึ้นเป็นธรรมดา
สรุปผลการทดลอง
สิ่งที่ผมได้และเสีย หลังจากติดค้ำโช๊ค
1. รับรู้แรงสั่นสะเทือนมาถึงพวงมาลัยได้ชัดเจน (ตรงนี้บางคนอาจชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบนะครับ)
2. ได้ช่วงล่างที่แน่นขึ้น ผ่านทางขรุขระหรือคอสะพานทรงตัวได้ดีขึ้น อาการแฉลบที่เคยมีลดลงมากจนแทบไม่มีเลย
3. เข้าโค้งได้คมขึ้น เอียงและโคลงน้อยลง แม้จะไม่มาก แต่พอสัมผัสได้ครับ
4. สิ่งที่ผมไม่ชอบคือมันกระด้างขึ้นชัดเจนเช่นกัน เหมือนขับๆไปแล้วรถมันไม่ค่อยยืดหยุ่น ตรงนี้คนที่ขับรถบ้านๆที่ชอบขับรถแบบสบายๆนุ่มๆ รับรองว่าต้องไม่ชอบความรู้สึกนี้แน่นอน
สุดท้ายนี้โดยส่วนตัวผมชอบครับ ช่วงล่างดีขึ้นพอสมควร สิ่งที่ไม่ชอบมีนิดๆหน่อยๆ ใช้ๆไปก็คงชินไปเองครับ ประมาณว่า ได้ 3 เสีย 1 เห็นจะได้ ถ้าตอนนี้จะให้ถอดแล้วไปใช้แบบเดิม ผมก็คงไม่เอาแน่นอน ขอขอบคุณท่านที่ติดตามอ่านครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ส่วนจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือไม่นั้น ต้องแล้วแต่การใช้งานของแต่ละคนครับ ลองเวทดูนะครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/