ควรจัดการอย่างไรกับความรู้สึกนี้ดี ส่วนตัวผมยอมรับว่าค่อนข้างจะเป็นพวก introverted แต่ไม่ถึงกับเข้าสังคมไม่ได้
แต่เหมือนว่าเวลาอยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆ เราเป็นคนมีพลัง ทำอะไรทุกอย่างมีชีวิตชีวา แต่เมื่อกลับมาอยู่ในพื้นที่ตัวเองปุ๊บ ก็กลายเป็นอีกคนที่บุคลิกตรงกันข้ามกับความสนุกสนาน
ไม่รู้เพราะผมจมกับความรู้สึกหรือเหตุผลมากเกินไป มันซับซ้อนเกิน ผมพยายามหาว่าตัวเองทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ แต่คิดไม่ตกสักที
ผมเป็นทั้งคนเอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่ในทางหนึ่งก็เป็นคนที่คิดมาก คิดไปไกลเช่นกัน
ผมคิดถึงตัวผมที่เคยสนุกสนาน สามารถคุยกับใครก็ได้ ไม่ว่าเป็นพ่อแม่ เพื่อน แต่ผมตอนนี้มันเหมือนมีอะไรมาทำให้เราต้องกันคนที่เข้ามา
แม้จะเป็นคนในครอบครัว เหมือนว่าเรากำลังคุยกันแบบเดิม แต่การกระทำของผมมันเหมือนการปิดกั้น (คุยกันข้ามกำแพงห้อง)
หลังๆผมใช้เวลาอยู่ในห้องเกือบตลอดเวลา ขนาดที่ว่าต้องหิ้วข้าวเข้ามากินในห้องของตัวเอง ไม่ค่อยได้กินกับครอบครัว
แล้วพออยู่แบบนี้บ่อยๆ ผมพยายามทบทวนตัวเองซ้ำๆว่าทำไมต้องอยู่แบบนี้วะ แต่มันไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรเลย มันทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ผมดาวน์ เครียด บางครั้งก็เดินไปกอดแม่เฉยๆ แล้วก็หันหลังกลับห้อง
บางทีผมก็ต้องทนฟังความคิดด้านลบของตัวเองที่อยู่ในหัวตลอดเวลา....
จะมีบางครั้ง ชั่วขณะเดียวเท่านั้นที่ผมไม่รู้สึกถึงเป้าหมายชีวิตใดๆเลย มันว่างเปล่านะ...ทุกอย่างมันดูสีเทาไปหมด และมันไม่สนุกหรือน่าสนใจเอาเสียเลย
ผมไม่ค่อยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ใครฟัง เพราะผมไม่ค่อยเจอคนที่ฟังจริงๆ หลายๆคนที่เจอมีแต่คนที่พูด และในเมื่อทุกคนพูดกันหมด ก็ไม่มีคนฟัง (อันนี้ก็เข้าใจดีว่ามันเป็นความคิดด้านลบ แต่มันก็ทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไปมาก)
ผมกลัวว่าการที่ผมเป็นแบบนี้จะทำให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ต่างๆที่จะเข้ามาหนะครับ
ปล. ผมทำทุกอย่างที่แบบ ออกไปหาอะไรใหม่ๆ ทำ ไปหาเพื่อนฝูง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาตรงที่เราอยู่ใช่ไหมครับ มันเหมือนแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น
ปล.2 พิมพ์งงๆ ไม่เข้าใจก็ขออภัยด้วยเน้อ บางทีก็อธิบายอะไรไม่ถูก
จะทำอย่างไรไม่ให้ความรู้สึกดาวน์เวลาอยู่คนเดียว @ @
แต่เหมือนว่าเวลาอยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆ เราเป็นคนมีพลัง ทำอะไรทุกอย่างมีชีวิตชีวา แต่เมื่อกลับมาอยู่ในพื้นที่ตัวเองปุ๊บ ก็กลายเป็นอีกคนที่บุคลิกตรงกันข้ามกับความสนุกสนาน
ไม่รู้เพราะผมจมกับความรู้สึกหรือเหตุผลมากเกินไป มันซับซ้อนเกิน ผมพยายามหาว่าตัวเองทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ แต่คิดไม่ตกสักที
ผมเป็นทั้งคนเอื่อยๆ เรื่อยๆ แต่ในทางหนึ่งก็เป็นคนที่คิดมาก คิดไปไกลเช่นกัน
ผมคิดถึงตัวผมที่เคยสนุกสนาน สามารถคุยกับใครก็ได้ ไม่ว่าเป็นพ่อแม่ เพื่อน แต่ผมตอนนี้มันเหมือนมีอะไรมาทำให้เราต้องกันคนที่เข้ามา
แม้จะเป็นคนในครอบครัว เหมือนว่าเรากำลังคุยกันแบบเดิม แต่การกระทำของผมมันเหมือนการปิดกั้น (คุยกันข้ามกำแพงห้อง)
หลังๆผมใช้เวลาอยู่ในห้องเกือบตลอดเวลา ขนาดที่ว่าต้องหิ้วข้าวเข้ามากินในห้องของตัวเอง ไม่ค่อยได้กินกับครอบครัว
แล้วพออยู่แบบนี้บ่อยๆ ผมพยายามทบทวนตัวเองซ้ำๆว่าทำไมต้องอยู่แบบนี้วะ แต่มันไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรเลย มันทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ผมดาวน์ เครียด บางครั้งก็เดินไปกอดแม่เฉยๆ แล้วก็หันหลังกลับห้อง
บางทีผมก็ต้องทนฟังความคิดด้านลบของตัวเองที่อยู่ในหัวตลอดเวลา....
จะมีบางครั้ง ชั่วขณะเดียวเท่านั้นที่ผมไม่รู้สึกถึงเป้าหมายชีวิตใดๆเลย มันว่างเปล่านะ...ทุกอย่างมันดูสีเทาไปหมด และมันไม่สนุกหรือน่าสนใจเอาเสียเลย
ผมไม่ค่อยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ใครฟัง เพราะผมไม่ค่อยเจอคนที่ฟังจริงๆ หลายๆคนที่เจอมีแต่คนที่พูด และในเมื่อทุกคนพูดกันหมด ก็ไม่มีคนฟัง (อันนี้ก็เข้าใจดีว่ามันเป็นความคิดด้านลบ แต่มันก็ทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไปมาก)
ผมกลัวว่าการที่ผมเป็นแบบนี้จะทำให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ต่างๆที่จะเข้ามาหนะครับ
ปล. ผมทำทุกอย่างที่แบบ ออกไปหาอะไรใหม่ๆ ทำ ไปหาเพื่อนฝูง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาตรงที่เราอยู่ใช่ไหมครับ มันเหมือนแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น
ปล.2 พิมพ์งงๆ ไม่เข้าใจก็ขออภัยด้วยเน้อ บางทีก็อธิบายอะไรไม่ถูก