ดีเอสไอนำหมายศาล เข้าตรวจค้นสำนักงานทนายความธรรมกาย พัวพันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น พร้อมกระจายค้นเป้าหมายรวม 3 จุด
ดีเอสไอบุกค้น! สำนักงานทนายธรรมกาย พัวพันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น
จ.ปทุมธานี / 6 ก.ย. 59 พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมายคดีพิเศษที่ 99/2558 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ซึ่งนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นำเงินสหกรณ์กว่า 320 ล้านบาทไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ก่อนโอนให้นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย กับพวกถือหุ้นแทน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้อง 7 คน ก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินไปแล้ว ในวันนี้(6ก.ย.) ดีเอสไอลงพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้อง 3 จุด ประกอบด้วย 1.สำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯ เลขที่ 30/6 ม.1 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.สำนักงานทนายความของนายสัมพันธ์ ย่านลาดพร้าว และ 3.สำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ย่านตลาดไอยรา ซึ่งปิดทำการไปแล้ว
โดยจุดที่เป็นสำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯปัจจุบันพบเป็นใช้บ้านพักนายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล หนึ่งในผู้บริหาร เป็นที่ทำการบริษัทด้วย การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปประกอบการสรุปสำนวนสั่งฟ้องภายในเดือนก.ย. ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยอายัดทรัพย์สินเป็นที่ดินของบริษัทฯไว้ประมาณ 10 แปลง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
ด้านนายธวัชกิตตน์ กล่าวว่า ตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2555 โดยการว่าจ้างของนายศุภชัย เพราะตนทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 30 ปี พื้นที่ใกล้เคียงกับสำนักงานปัจจุบันก็เป็นของตน เป้าหมายที่รับงานนี้ก็เพื่อมาเคลียร์ปัญหากับสหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งมีการตกลงทำยอมกับผู้บริหารสหกรณ์ฯ แล้วว่าจะคืนเงิน 320 ล้านบาทให้สหกรณ์ฯ แต่ต้องรอให้ดีเอสไอถอนอายัดที่ดินก่อนเพื่อนำที่ดินไปขายแล้วนำเงินไปคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ที่ระบุว่ามีหนี้เสียจำนวนมากจนต้องมีการเทคโอเวอร์ แต่ในการสอบสวนของดีเอสไอพบว่ามีที่ดินมีมูลค่าในความครอบครองอยู่หลายแปลง
ดีเอสไอบุกค้น! สำนักงานทนายธรรมกาย พัวพันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น
ดีเอสไอบุกค้น! สำนักงานทนายธรรมกาย พัวพันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น
จ.ปทุมธานี / 6 ก.ย. 59 พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมายคดีพิเศษที่ 99/2558 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ซึ่งนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นำเงินสหกรณ์กว่า 320 ล้านบาทไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ก่อนโอนให้นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย กับพวกถือหุ้นแทน
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้อง 7 คน ก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินไปแล้ว ในวันนี้(6ก.ย.) ดีเอสไอลงพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้อง 3 จุด ประกอบด้วย 1.สำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯ เลขที่ 30/6 ม.1 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.สำนักงานทนายความของนายสัมพันธ์ ย่านลาดพร้าว และ 3.สำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ย่านตลาดไอยรา ซึ่งปิดทำการไปแล้ว
โดยจุดที่เป็นสำนักงานบริษัท เอ็ม-โฮมฯปัจจุบันพบเป็นใช้บ้านพักนายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล หนึ่งในผู้บริหาร เป็นที่ทำการบริษัทด้วย การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปประกอบการสรุปสำนวนสั่งฟ้องภายในเดือนก.ย. ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยอายัดทรัพย์สินเป็นที่ดินของบริษัทฯไว้ประมาณ 10 แปลง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
ด้านนายธวัชกิตตน์ กล่าวว่า ตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2555 โดยการว่าจ้างของนายศุภชัย เพราะตนทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 30 ปี พื้นที่ใกล้เคียงกับสำนักงานปัจจุบันก็เป็นของตน เป้าหมายที่รับงานนี้ก็เพื่อมาเคลียร์ปัญหากับสหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งมีการตกลงทำยอมกับผู้บริหารสหกรณ์ฯ แล้วว่าจะคืนเงิน 320 ล้านบาทให้สหกรณ์ฯ แต่ต้องรอให้ดีเอสไอถอนอายัดที่ดินก่อนเพื่อนำที่ดินไปขายแล้วนำเงินไปคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ที่ระบุว่ามีหนี้เสียจำนวนมากจนต้องมีการเทคโอเวอร์ แต่ในการสอบสวนของดีเอสไอพบว่ามีที่ดินมีมูลค่าในความครอบครองอยู่หลายแปลง