### ดีเอสไอบุกค้นบ้าน จนท.สหกรณ์คลองจั่น พบเช็คจ่ายธรรมกายเพิ่มอีก 600 กว่าล้าน ###

อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096463

ดีเอสไอบุกค้นบ้านพักเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์คลองจั่น พบหลักฐานเอกสารเอี่ยวโกงสหกรณ์ฯ จ่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม 13 ราย เผยพบซุกธรรมกายเพิ่มอีก 600 กว่าล้านบาท
       
       วันนี้ (25 ส.ค.)เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผบ.สำนักการเงินและการธนาคาร ร่วมกันแถลงผลการเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวน 7 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันนี้
       
       นางสุวณากล่าวว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีสหกรณ์ฯคลองจั่น 3 คดี คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 คดีพิเศษที่ 63/2557 และคดีพิเศษที่ 64/2557 ซึ่งต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้มีการเพิ่มข้อหาฟอกเงินอีก 1 คดี เฉพาะนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น โดยขณะนี้ทางดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการแล้ว 2 สำนวน คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 และคดีพิเศษที่ 64/2557
       
       นางสุวณากล่าวต่อว่า ดีเอสไอเตรียมเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีต่อพระจำนวน 3 รูป เนื่องจากขัดหมายเรียกของดีเอสไอ ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม เจ้าอาวาสวัดแม่สะนาม และเจ้าอาวาสวัดบ้านขุน จ.เชียงใหม่ ทั้ง 3 รูปนี้เป็นผู้มีรายชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ทั้งนี้ ดีเอสไอได้มีการออกหมายเรียกเจ้าอาวาสทั้ง 3 รูปเพื่อเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มาพบตามนัดหมาย และไม่มีเหตุอันควร ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมายโดยถือว่าพระทั้ง 3 รูปไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง
       
       ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวว่า ทางดีเอสไอได้ขอหมายค้นจากศาลอาญาเพื่อดำเนินการเข้าตรวจค้น 7 จุดเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร 5 จุด จ.นนทบุรี 1 จุด และ จ.สมุทรปราการ 1 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ฯคลองจั่น ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันกระทำความผิดกับนายศุภชัย หรือมีส่วนในการสนับสนุนการกระทำความผิดในเรื่องของการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยผลการตรวจค้นพบสำเนาสัญญาที่ดินรวม 3 โฉนด, สำเนาหนังสือจะซื้อจะขายที่ดิน, ใบรับฝากเช็ค สำเนาสั่งจ่ายพระราชภาวนาวิสุทธิ์, วัดพระธรรมกาย, มูลนิธิรัตนคีรี และหลักฐานเกี่ยวกับการจ่ายเงินทดรองจ่ายของนายศุภชัย ในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีต่อไป
       
       พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีพิเศษที่ 63/2557 หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบเอกสารที่ตรวจค้นได้ พร้อมทั้งเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ อีกจำนวน 13 ราย โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯคลองจั่น อย่างไรก็ตามกรณีนี้พบมูลความผิดที่เกิดขึ้นจากการทำรายงานประจำปีอันเป็นเท็จ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบทางบัญชีพบว่าในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2551-2555 ทางสหกรณ์ฯคลองจั่นขาดทุนมาโดยตลอด แต่สหกรณ์ฯคลองจั่นก็ยังจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 ให้กับสมาชิกได้ เป็นเหตุให้สมาชิกหลงเชื่อสถานะของสหกรณ์ฯคลองจั่น
       
       พ.ต.ท.ปกรณ์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการรับเงินของวัดพระธรรมกาย รับเช็ค 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 642 ล้านบาท พระเทพญาณมหามุนี รับเช็ค 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 431 ล้านบาท และมูลนิธิรัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง รับเช็ค 5 ฉบับ รวมเป็นเงิน 143 ล้านบาท โดยรวมเช็คทั้งหมด 23 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งจากเดิมพบยอดเพียง 600 ล้านบาท ส่วนการตรวจสอบสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 9 สหกรณ์ ได้แก่ 1. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฟรีเทรด จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 3.6 ล้านบาท 2. สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 14.4 ล้านบาท 3. สหกรณ์ออมทรัพย์ ปปส. จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 6.9 ล้านบาท 4. ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 7.4 แสนบาท
       
       5. สหกรณ์ร้านค้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 3.6 ล้านบาท 6. สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำกัด รับเงินตามเช็ค 2 ฉบับ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท 7. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนา จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 30.9 ล้านบาท 8. สหกรณ์ออมทรัพย์ครูฉะเชิงเทรา จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 35 ล้าน และ 9. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมอู่ทหารเรือ จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 35.9 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่าทั้ง 9 สหกรณ์ดังกล่าวมีมูลหนี้จริง โดยไม่พบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่