ผู้เข้าไปหา เป็นผู้ไม่หลุดพ้น ผู้ไม่เข้าไปหา ย่อมเป็นผู้หลุดพ้น

ภิกษุ ทั้งหลาย ! ผู้เข้าไปหา เป็นผู้ไม่หลุดพ้น ;
ผู้ไม่เข้าไปหา เป็นผู้หลุดพ้น.
ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอารูป ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้,
เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์ 
มีรูปเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;
ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาเวทนา ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้,
เป็นวิญญาณที่มีเวทนาเป็นอารมณ์ 
มีเวทนาเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;
ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาสัญญา
ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, 
เป็นวิญญาณที่มีสัญญาเป็นอารมณ์ 
มีสัญญาเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้ ;ภิกษุ ทั้งหลาย ! วิญญาณ ซึ่ง 
เข้าถือเอาสังขารตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, 
เป็นวิญญาณที่มีสังขารเป็นอารมณ์ 
มีสังขารเป็นที่ตั้งอาศัย 
มี นันทิ (ความเพลิน) เป็นที่เข้าไปส้องเสพ 
ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้.
ภิกษุ ทั้งหลาย ! ผู้ใดจะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า 
“เราจักบัญญัติ ซึ่งการมา การไป
การจุติ การอุบัติ ความเจริญความงอกงาม 
และความไพบูลย์ของวิญญาณ
โดย เว้นจากรูป เว้นจากเวทนา เว้นจากสัญญา และเว้นสังขาร”
ดังนี้นั้น, 
นี่ ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.
ภิกษุ ทั้งหลาย ! ถ้าราคะในรูปธาตุ ในเวทนาธาตุ
ในสัญญาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุ
เป็นสิ่งที่ ภิกษุละได้แล้ว ;
เพราะละราคะได้ อารมณ์สำหรับวิญญาณก็ขาดลง 
ที่ตั้งของวิญญาณก็ไม่มี.
วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้นก็ไม่งอกงาม 
หลุดพ้นไปเพราะไม่ถูกปรุงแต่ง ;
เพราะหลุดพ้นไปก็ตั้งมั่น 
เพราะตั้งมั่นก็ยินดีในตนเอง ;
เพราะยินดีในตนเองก็ไม่หวั่นไหว ;
เมื่อไม่หวั่นไหวก็ปรินิพพานเฉพาะตน ;
ย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว 
กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่