ผมเพิ่งไปดูแฟนเดย์มาวัน พฤ ครับ จบแล้วก็กลับบ้านนอน รอให้ความคิดตกผลึกก่อนค่อยมาพิมพ์กระทุ้ สิ่งที่ได้จากหนังนอกจากอารมณ์ที่หนังมอบให้แล้วก็รู้สึกดีที่มีคนเอาอาชีพนี้ไปทำเป็นหนัง เล่าเรื่องคนอาชีพนี้ออกไป แต่ด้วยความเป็นหนัง และเหตุผลต่างๆ นาๆ ภาพลักษณ์ในหนังและความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกันเสมอไป กระทู้นี้เลยอยากมาแชร์ความคิดของคนทำ IT ให้เพื่อนๆรับทราบกันนะครับ
- ลักษณะงาน IT
สิ่งที่เด่นชัยทำ ดูเหมือนจะเป็น IT support ก็คือช่วย user ในบริษํทแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ IT แบบที่เราเห็นในหนัง แต่ความเป็นจริงแล้ว วงการ IT มันแยกย่อยลงไปอีกมากกว่าการซ่อมคอม มันมีทั้ง programmer / System Analysyst / DBA / Network / Wintel Admin / Unix Admin / Network Engineer / System engineer / Cloud Engineer / Security / Project manager และอิ่นๆอีกมากมาย ซึ่งรับบทบาทแตกต่างกันออกไป ดังนั้น อย่าหวังว่า IT 1 คนจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ อาจจะใช่ครับ แต่ถ้าใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจน
-คน IT พูดไม่รู้เรื่อง
ตามที่ได้เห็น จะเห็นว่าเด่นชัยเวลาอธิบายจะพูดภาษาเทคนิคล้วนๆ ซึ่งบางคนในความเป็นจริงๆทีทำด้าน IT ก็เป็นแบบนั้นจริงๆแหละครับ แต่ไม่เสมอไป ยิ่งฝ่ายที่ต้องติดต่อกับ user โดยตรงแล้ว ถ้าพูดไม่รู้เรื่องจบเลยครับ บางบริษัทมีฝ่าย helpdesk หรือ support เนี่ยทักษะแรกๆ นอกจากด้านเทคนิคที่ดีแล้วก็คือทักษะด้านการอธิบาย เพราะ งานด้าน support ต้องคุยกับคน ไม่ใช่คุยกับระบบ เพราะปัญหามักมาจากคนมากกว่ามาจากระบบหรือเครื่อง ดังนั้นการเป็น support ที่ดีหลายๆบริษัทก็จะคัดกรองเอาคนที่มีทักษะอธิบายสิ่งต่างๆ ด้านเทคนิค ให้เป็นภาษาทั่วไปได้ง่ายขึ้น ทักษะพวกนี้ helpdesk/service desk จะมีกันเยอะครับ เพราะเป็นทักษะบังคับเลยแหละ ถ้าพูดจาไม่รู้เรื่อง ก็คงไม่ได้เข้าทำงาน
- คน IT มักจะ nerd และไม่ทำอย่างอื่นเลย
อันนี้คงแล้วแต่บุคคลเลยครับ จะเห็นว่าในหนัง แลดูเด่นชัยจะ nerd หนักสุดในกลุ่มของทีม IT เพราะดูคนอื่นแล้วเขาเหมือนจะมีชีวิตปกติ ในขณะที่เด่นชัยกลับบ้านไปก็เปิดคอม ซึ่งในความเป็นจริง หลายๆคนที่มีเพื่อนทำ IT คงรู้ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่แล้ว บ้าเกม กับ บ้าบอล เอามากๆ ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าเดินไปหา IT ตอนเย็นๆหลังเลิกงานจะเจอพวกพี่แกนั่งเล่น วินนิ่ง หรือ ฟีฟ่า กันอยู่
จริงๆมีอีกหลายอย่างแหละครับแต่คิดไม่ออกมันยังตกผลึกไม่พอ ก็ขอแชร์แค่นี้แล้วกัน เพื่อนๆเจอ IT ในบริษัทเป็นยังไงบ้างครับ ดีร้ายยังไงก็มาแชร์กันครับ
อีกส่วนนึงที่ผมชอบมากๆและขอชมทีมเขียนบทของหนังก็คือ อธิบายเรื่อง tick tok ของคอมพิวเตอร์ให้คนทั่วไปรับทราบครับ ตามที่หนังบอกไว้เลยครับ
ขอยกตัวอย่าง CPU แล้วกันนะครับเห็นภาพง่ายดี [ตัว cpu ที่เป็นชิปอยู่ภายในตู้เคสนะครับ ไม่ใช่ตู้เคส ที่หลายคนเรียก cpu]
ปี tick คือช่วงปี[ซึ่งจริงๆอาจจะไม่ถึงหรือเกินปี ผมขอใช้คำว่าช่วงปีแทนแล้วกัน] ที่มีการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพวก chip และ ic แผงวงจรต่างๆ จะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ครับ อาจจะมีคำถามแล้วเล็กลงมันดียังไง ก็พอมันเล็กลงทำไมมันกินไฟน้อยลงครับและประสิทธิภาพก็เพิ่มขึ้น เพราะหลักๆของพวกแผงวงจร โดยเฉพาะ CPU ก็จะผลิตได้เล็กลงกินไฟน้อยลง ร้อนน้อยลงเพราะขนาดหน่อยการผลิตที่เล็กลงไปอีกเรื่อยๆ
ปี tok คือ ช่วงปีที่เอาสิ่งที่วิจัยค้นคว้ามาได้ใน tick มาต่อยอดและผลิตออกมาจะทำให้ได้ cpu ที่เร็วขึ้นกินไฟน้อยลงและทำงานประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทและทุกปีจะเป็นไปตามนี้ อย่างที่บอกว่าบางครั้งช่วง tick ก็นานกว่าปีนึงก็มีครับ
http://www.intel.com/content/www/us/en/silicon-innovations/intel-tick-tock-model-general.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Tick-Tock_model
ขอเกาะกระแสแฟนเดย์หน่อย เด่นชัย ไอทีในหนัง vs คนไอที ในความเป็นจริง
- ลักษณะงาน IT
สิ่งที่เด่นชัยทำ ดูเหมือนจะเป็น IT support ก็คือช่วย user ในบริษํทแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ IT แบบที่เราเห็นในหนัง แต่ความเป็นจริงแล้ว วงการ IT มันแยกย่อยลงไปอีกมากกว่าการซ่อมคอม มันมีทั้ง programmer / System Analysyst / DBA / Network / Wintel Admin / Unix Admin / Network Engineer / System engineer / Cloud Engineer / Security / Project manager และอิ่นๆอีกมากมาย ซึ่งรับบทบาทแตกต่างกันออกไป ดังนั้น อย่าหวังว่า IT 1 คนจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ อาจจะใช่ครับ แต่ถ้าใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจน
-คน IT พูดไม่รู้เรื่อง
ตามที่ได้เห็น จะเห็นว่าเด่นชัยเวลาอธิบายจะพูดภาษาเทคนิคล้วนๆ ซึ่งบางคนในความเป็นจริงๆทีทำด้าน IT ก็เป็นแบบนั้นจริงๆแหละครับ แต่ไม่เสมอไป ยิ่งฝ่ายที่ต้องติดต่อกับ user โดยตรงแล้ว ถ้าพูดไม่รู้เรื่องจบเลยครับ บางบริษัทมีฝ่าย helpdesk หรือ support เนี่ยทักษะแรกๆ นอกจากด้านเทคนิคที่ดีแล้วก็คือทักษะด้านการอธิบาย เพราะ งานด้าน support ต้องคุยกับคน ไม่ใช่คุยกับระบบ เพราะปัญหามักมาจากคนมากกว่ามาจากระบบหรือเครื่อง ดังนั้นการเป็น support ที่ดีหลายๆบริษัทก็จะคัดกรองเอาคนที่มีทักษะอธิบายสิ่งต่างๆ ด้านเทคนิค ให้เป็นภาษาทั่วไปได้ง่ายขึ้น ทักษะพวกนี้ helpdesk/service desk จะมีกันเยอะครับ เพราะเป็นทักษะบังคับเลยแหละ ถ้าพูดจาไม่รู้เรื่อง ก็คงไม่ได้เข้าทำงาน
- คน IT มักจะ nerd และไม่ทำอย่างอื่นเลย
อันนี้คงแล้วแต่บุคคลเลยครับ จะเห็นว่าในหนัง แลดูเด่นชัยจะ nerd หนักสุดในกลุ่มของทีม IT เพราะดูคนอื่นแล้วเขาเหมือนจะมีชีวิตปกติ ในขณะที่เด่นชัยกลับบ้านไปก็เปิดคอม ซึ่งในความเป็นจริง หลายๆคนที่มีเพื่อนทำ IT คงรู้ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่แล้ว บ้าเกม กับ บ้าบอล เอามากๆ ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าเดินไปหา IT ตอนเย็นๆหลังเลิกงานจะเจอพวกพี่แกนั่งเล่น วินนิ่ง หรือ ฟีฟ่า กันอยู่
จริงๆมีอีกหลายอย่างแหละครับแต่คิดไม่ออกมันยังตกผลึกไม่พอ ก็ขอแชร์แค่นี้แล้วกัน เพื่อนๆเจอ IT ในบริษัทเป็นยังไงบ้างครับ ดีร้ายยังไงก็มาแชร์กันครับ
อีกส่วนนึงที่ผมชอบมากๆและขอชมทีมเขียนบทของหนังก็คือ อธิบายเรื่อง tick tok ของคอมพิวเตอร์ให้คนทั่วไปรับทราบครับ ตามที่หนังบอกไว้เลยครับ
ขอยกตัวอย่าง CPU แล้วกันนะครับเห็นภาพง่ายดี [ตัว cpu ที่เป็นชิปอยู่ภายในตู้เคสนะครับ ไม่ใช่ตู้เคส ที่หลายคนเรียก cpu]
ปี tick คือช่วงปี[ซึ่งจริงๆอาจจะไม่ถึงหรือเกินปี ผมขอใช้คำว่าช่วงปีแทนแล้วกัน] ที่มีการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพวก chip และ ic แผงวงจรต่างๆ จะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ครับ อาจจะมีคำถามแล้วเล็กลงมันดียังไง ก็พอมันเล็กลงทำไมมันกินไฟน้อยลงครับและประสิทธิภาพก็เพิ่มขึ้น เพราะหลักๆของพวกแผงวงจร โดยเฉพาะ CPU ก็จะผลิตได้เล็กลงกินไฟน้อยลง ร้อนน้อยลงเพราะขนาดหน่อยการผลิตที่เล็กลงไปอีกเรื่อยๆ
ปี tok คือ ช่วงปีที่เอาสิ่งที่วิจัยค้นคว้ามาได้ใน tick มาต่อยอดและผลิตออกมาจะทำให้ได้ cpu ที่เร็วขึ้นกินไฟน้อยลงและทำงานประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทและทุกปีจะเป็นไปตามนี้ อย่างที่บอกว่าบางครั้งช่วง tick ก็นานกว่าปีนึงก็มีครับ
http://www.intel.com/content/www/us/en/silicon-innovations/intel-tick-tock-model-general.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Tick-Tock_model