เรื่องสั้นจากเพลง...ยิ่งกว่าการฆ่า

กระทู้สนทนา

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต

เรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งขึ้นจากเพลง เหตุการณ์ในเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลใด



ยิ่งกว่าการฆ่า




โดย...ลายลิขิต


เสียงรถจักรยานยนต์แล่นเข้ามาจอดพรืดหน้าที่ทำงาน ร่างท้วมของสตรีคนหนึ่งละทิ้งรถเอาไว้โดยไม่สนใจจะถอดกุญแจ ปล่อยให้เสียบคา ก่อนแล่นถลาเข้ามาข้างในห้องตรวจคนไข้

"หมอไปกับฉันเดี๋ยวนี้"

"เฮ้ย อะไรกัน จะให้ไปไหน"

ฉันตกใจที่จู่ ๆ เธอก็เข้ามาคว้าข้อมือที่กำลังจัดยาใส่ซองให้คนไข้อีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ถามอย่างงุนงง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนในหมู่บ้านถัดไปที่ฉันคุ้นหน้ากันดี

"นังหมวยมันถือมีดคัตเตอร์กรีดแขนตัวเองอยู่ข้างในห้องนอน ใครห้ามก็ไม่ฟัง มันเชื่อหมอ ช่วยไปห้ามมันทีเถอะ กรีดตัวเองหลายแผลแล้วเลือดท่วมแขนเลย มันบอกว่าอยากคุยกับหมอ"

ฉันตกใจหนักมากขึ้นไปอีก หมวยคือเด็กสาววัยสิบแปดที่ชอบมาอยู่เป็นเพื่อนเวลาฉันมาเข้าเวรสถานีอนามัยในวันหยุด เธอมักมาขลุกอยู่ด้วย พร้อมเล่าเรื่องราวความรักของเธอให้ฟัง ประกายตาของสาวน้อยบอกถึงฝันหวาน

คู่รักวัยรุ่นมักวุ่นวาย ฉันฟังยิ้ม ๆ พยักหน้าเชิงว่าได้ฟัง แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ท้วงเธอด้วยเหตุผล หมวยบอกว่าถึงฉันแย้งแต่เธอยินดีรับฟัง ไม่เหมือนแม่ที่เอาแต่ดุ ฉันยิ้มให้อีกก่อนบอกเธอเรียบ ๆ ว่า คนที่ตายแทนเธอได้มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้น

และผู้หญิงท่าทางร้อนรนที่กำลังยื้อยุดฉุดฉันให้รีบตามเธอออกไปก็คือมาลี แม่ของหมวยนั่นเอง

"เรื่องเดิมล่ะสิ"

มาลีที่ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือฉันพยักหน้า พึ่งสังเกตเห็นว่าสองตาของหล่อนแดงช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พี่หัวหน้าซึ่งกำลังล้างแผลให้คนไข้อยู่ในห้องปฐมพยาบาลโผล่หน้าเข้ามาดู แล้วบอกให้ฉันรีบไป ทางนี้เดี๋ยวเธอจะจัดการเอง

ฉันซ้อนจักรยานยนต์ของมาลีมายังบ้านชั้นเดียวหลังเล็กของเธอ ที่นั่นมีคนแก่สองสามคนยืนอยู่ข้างในบ้านซึ่งมีห้องนอนเพียงห้องเดียว และตอนนี้ประตูถูกปิดอยู่ มีหยดเลือดสด ๆ แดงฉานเลอะพื้นห้องเป็นจุด ๆ เต็มบริเวณหน้าประตูห้องนอน

"หมวย หมอมาแล้วลูก" มาลีตะโกนเสียงดัง หมายให้ลูกสาวได้ยิน แต่ข้างในห้องยังเงียบ ฉันมองหน้ามาลีก่อนร้องเรียกหมวยขึ้นบ้าง

"หมวย หมอมาหา เปิดประตูให้เข้าไปข้างในได้ไหมจ๊ะ หมอเป็นห่วง" ไร้เสียงตอบรับ แต่ฉันยังพยายามต่อไป

"มีเรื่องอะไรค่อยพูดค่อยจา จำได้ไหมที่เราเคยคุยกัน ปัญหามีไว้แก้ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก" ลองเรียกเธออีกหลายครั้ง จนสุดท้ายจึงบอกเธอว่า

"ถ้าหมวยไม่ยอมบอกหมอว่ากลุ้มใจเรื่องอะไรหมอก็จนใจจะคุยด้วยเพราะไม่รู้ปัญหาที่ทำให้หมวยทุกข์ใจจนเป็นแบบนี้ เราคุยกันได้ไหม ถ้าคุยกันบางทีเราอาจช่วยกันคิดหาทางออกได้นะ" คราวนี้ถ้าหมวยยังไม่ออกมาฉันคิดว่าคงต้องหาหนทางอื่นช่วยเหลือเธอและแม่ของเธอ อาจต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ห้องสุขภาพจิตหรือตำรวจที่ทำหน้าที่แบบนี้โดยตรง

แต่แล้วเสียงถอดกลอนประตูก็ดังขึ้น ร่างผอมบางทรุดโทรมของเด็กสาวปรากฏตัวตรงหน้าประตูที่ถูกเปิดออก ในมือเธอยังถือมีดคัตเตอร์เล่มเขื่อง แขนข้างซ้ายมีรอยแผลจากการกรีดแขนตัวเองหลายรอย บางแผลเลือดหยุดไหลไปแล้ว บางแผลก็ยังมีเลือดไหลย้อย

"โธ่ หมวย..."

ฉันครางออกมาอย่างนึกสังเวช พิษของความรักทำให้เด็กสาวคนหนึ่งกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ ฉันอ้าแขนสองข้างออกก่อนก้าวเข้าไปหา ไม่นึกหวั่นเกรงใบมีดคมกริบในมือของเธอสักนิด...หมวยยืนนิ่งขึงไม่กระดุกกระดิกแต่ยอมเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของฉันโดยดี ฉันกอดเธอไว้ ไม่พูดอะไรเพียงกอดเธอไว้นิ่ง ๆ ค่อย ๆ ปลดมีดออกจากมือเธอ ซึ่งหมวยยอมปล่อยง่ายดาย มีเสียงร่ำไห้ดังขึ้นข้างหลัง แม่ของหมวยกับบรรดาญาติ ๆ ที่ต่างยืนมองไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวเธอจะคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองหนักขึ้น ฉันยื่นมีดส่งให้ แล้วเอ่ยปากบอก

"ขอคุยส่วนตัวกับหมวยสักครู่นะจ๊ะ"

แล้วเราสองคนก็เข้าไปในห้องโดยไม่ปิดประตู ฉันหาผ้าสะอาดมาปิดแผลและห้ามเลือด เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังหมวยก็ปล่อยโฮ ร้องไห้สะอึกสะอื้น พร่ำรำพันถึงความรักที่เธอมีต่อคนรัก ทุกสิ่งที่เธอเล่าราวกับบทเพลง ๆ นี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อานุภาพของความรักมีทั้งสร้างสรรค์และทำลายล้าง ซึ่งในขณะนี้หัวใจของเด็กสาวแหลกยับลงเพราะคนรักของเธอมีหญิงคนใหม่ และเขากำลังจะไปจากเธอ ฉันนิ่งฟังเธอเงียบ ๆ ไม่พูดสอดแทรก ปล่อยให้เธอระบายออกมาทั้งหมดพร้อม ๆ กับสายน้ำตาที่ไหลหลั่ง บางครั้งความเศร้าจนเกินกักเก็บก็ควรได้ระบายออกมาทางน้ำตา สุดท้ายฉันไม่ได้หาทางออกใด ๆ ให้กับเธอ เรื่องของหัวใจมันซับซ้อนราวเขาวงกต และยิ่งเธอเป็นเพียงหญิงอายุน้อย เป้าหมายของฉันมาเพื่อยุติการทำร้ายตัวเองของเธอ...และมาช่วยรับฟังเป็นเพื่อนยามเศร้า ฉันทำได้เพียงเท่านี้

หมวยถูกส่งตัวไปรับการรักษาบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจในโรงพยาบาล ซึ่งเธอยินยอมโดยดี



เลิกงานตามหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคนอื่นเสร็จสิ้นไปอีกวันหนึ่ง ฉันกลับมาถึงบ้านซึ่งแสนเงียบเหงา วันนี้ฉันอาบน้ำแต่งตัวทันทีที่กลับมาถึง ไม่รออ้อยอิ่งอยู่หน้าโทรศัพท์หรือหน้าจอโน้ตบุคอีก

...เพราะฉันรู้ดีว่าเธอจะไม่ยอมติดต่อมา คำพูดสุดท้ายดังก้อง เมื่อก่อนเคยรัก แต่เดี๋ยวนี้รักมันจืดจาง รักได้ก็เลิกรักได้ ตัดใจเสียเถอะ อย่าติดต่อมาอีกเลย...

คำเอ่ยปากจากลามีค่าเท่ากับตายจากกัน

แต่งแต้มหน้าตาด้วยสีสันให้สวยงามเลิศ ปล่อยผมยาวสยายอย่างที่เขาชอบ สวมชุดที่เขาเคยชมว่าสุดเซ็กซี่ จากนั้นฉันปิดประตูหน้าต่างทุกบานให้สนิท กลืนยานอนหลับลงไปหนึ่งกำมือพร้อมวิสกี้หลายแก้ว เสร็จแล้วฉันเดินเข้าไปในครัว หมุนเปิดวาล์วถังแก๊สหุงต้มที่เติมเอาไว้เต็มถัง ไม่ได้เขียนสั่งเสียอะไรไว้เพราะฉันมันตัวคนเดียว ทรัพย์สินมีเพียงน้อยนิดญาติห่าง ๆ อาจได้ครอบครอง...ส่วนร่างกายนี้ฉันบริจาคให้โรงพยาบาลไว้นานแล้ว

หมวยคงรอดปลอดภัยดี แต่ฉันรอบคอบกว่าเธอ...ฉันคิดว่าฉันไม่รอด



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พยายามแล้ว พยายามอย่างถึงที่สุด ทำทุกวิถีทางเพื่อประคองความรักเอาไว้ แต่โอ้...ความรักเจ้าเอย ยิ่งวิ่งไล่ตามกลับยิ่งหนีห่าง ระยะทางระหว่างเราถ่างกว้างออกไปทุกที...ฉันแพ้แล้ว


จบบริบูรณ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่