ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ฮัลโหล ว่าไงแจน หายไปนานเลยนะมีอะไร”
“หยก กุมีเรื่องจะปรึกษา”
“ว่ามา”
“กุฝันเห็นไอ่แป้งอีกแล้ว”
“ฝันว่าพรือล่ะ”
“มันมายืนร้องไห้ เสื้อผ้าไม่มีใส่ ตัวมันมีแต่แผลเลือดไหลเต็มตัว น่ากลัวเหลือเกินมืงเอ๊ย”
......การโทรมาของแจน เพื่อนสมัย ม.ต้น เอ่ยถึงแป้ง เพื่อนอีกคนผู้ล่วงลับไปได้เกือบ2ปีแล้ว ผุดเรื่องราวของเธอขึ้นมาในหัวดิฉัน ทำให้ดิฉันรู้สึกกังวล สงสาร เป็นห่วง เพื่อนที่ชื่อว่าแป้ง ถึงเราจะไม่ได้สนิทอะไรกับแป้งมากมาย ตามประสาเพื่อนสนิทของเพื่อนสมัย ม.ต้น ที่เคยเจอเคยคุยกันสมัยยังเป็นๆ ก็พอทำให้ดิฉันได้รับรู้เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ปากกัดเท้าถีบ พยายามเชิดหน้าอยู่ในสังคมไม่ยอมจม ก่อกรรมทำเข็ญไม่เคยเกรงกลัวบาป จนวันที่เธอต้องจากทรัพย์สมบัติที่เธอสร้างมันขึ้นมาจากการทำบาปไปอย่างไม่มีวันกลับ และต่อไปนี้คือเรื่องราวของเธอค่ะ
......ดิฉันกับแจน เคยเรียนด้วยกันสมัย ม.ต้น ที่โรงเรียนควนขนุน จ.พัทลุง พอจบ ม.ต้น เราก็ต้องแยกกัน เพราะดิฉันต้องย้ายเรียนที่โรงเรียนสตรีพัทลุง ที่เป็นโรงเรียนระดับจังหวัด ส่วนแจนกลับไปเรียนที่ป่าพะยอม เราติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างนานๆครั้ง สอบถามเรื่องราวความเป็นไปของชีวิต ม.ปลาย
แต่หลักๆคือจะกดไลค์ ส่งข้อความหากันทางเฟสเอา
.....ดิฉันมีเพื่อนใหม่ๆที่สตรีพัทลุง แจนก็มีเพื่อนใหม่ๆ และคนที่เข้ามาสนิทกับแจนในช่วง ม.ปลาย คือแป้ง
เราเคยนัดเจอกันบ้าง พากันไปดูหนังบ้าง เป็นครั้งคราว ทำให้ดิฉันได้เจอแป้งในตอนนั้น แป้งเป็นผู้หญิงอวบค่อนไปทางอวบระยะสุดท้าย แต่แป้งตัวขาวและหน้าสวย แล้วก็มีแฟน (สามี) โดยพฤตินัย เป็นนักเลงหัวไม้ ขายยา
ค้าปืนเถื่อน เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นละแวกนั้นพอสมควร พี่ดิฉันเองก็รู้จัก และมักเตือนดิฉันเสมอว่า อย่าไปมั่วกับมันไอ่พวกนั้น ระวังมันจะปล้ำเอา
……พอได้พบได้พูดคุยกัน แป้งก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนของดิฉันไปด้วยอีกคน แต่ก็ไม่สนิทอะไรมากมาย เพราะดิฉันไม่ต้องการสนิท เหตุเพราะ ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับกลุ่มแฟนของแป้ง ดิฉันนานๆทีถึงจะเข้าไปดูเฟซสักครั้ง เพราะตอนนั้นอยากตั้งใจเรียนให้เกรดออกมาดีๆ เตรียมตัวเพื่อการไปต่อมหาลัยด้วย เราเลยห่างๆกันไปพอสมควร แล้วดิฉันก็มีเรื่องราวเข้ามาให้ต้องคิดเยอะเกินจะสนใจเพื่อนผู้เริ่มไกล
...ปี2557 ดิฉันลงมาอยู่ที่สงขลา เรียนราชภัฏ พอเช็คอินสงขลา แจนก็ทักมาทางเฟซ
“หยก อยู่สงขลาออ”
“ใช่ เราเรียนราชภัฏ ...แจนอ่ะ เรียนที่ไหนไมได้คุยกันนานเลย”
“เราเรียน ม.หาดใหญ่ กับแป้ง ว่างๆมาเที่ยวที่เรามั่งนะ”
“เครๆเลย”
หลังจากนั้นจนขึ้นปี2แล้ว ดิฉันก็หาโอกาสไปหาแจนที่หาดใหญ่ ก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปหา พร้อมก้อย
(ก้อยคนนี้ที่ผูกคอตายไปในกระทู้...ศัตรู____มิตรภาพ___อาฆาต_____ความตาย)
ดิฉันไปเจอแจน ที่บ้านเช่า ใกล้ๆมหาลัยที่แจนเรียน เพราะแจนโทรบอกทาง แจนอยู่กับแป้ง 2คน
แต่วันที่ไปตอนนั้นแจนอยู่คนเดียว ดิฉันจึงขึ้นไปนอนคุยกับแจนที่เตียงนอน เลยเผือกถามถึงแป้ง
“แจน แป้งมันไปไหนหละ”
“ไปอยู่กับลูกค้ามันมั้ง”
“ลูกค้า ??? แป้งมันขายของหรอ หรือทำอะไร ขายประกันเปล่า”
.....แจน ไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นไปล๊อกประตูห้อง ก่อนจะมาพูดเบาเสียงว่า
“แป้ง มันเป็นไซด์ไลน์”
“หะห๊า อะไรนะ”
“เบามืง กุเองก็อึดอัด มันก็เพื่อน มืงก็เพื่อน กุจะเล่าให้ฟังแล้วกัน แต่มืงอย่าเอาไปคุยนะ กุไม่อยากทะเลาะกับไอ่แป้งมัน “
“เออ ว่ามาดิ”
......แจน ก็เริ่มเล่าว่า ตอนเข้ามาเรียนปี1 ที่หาดใหญ่ เนี่ย แจนน่ะมาเรียนสบายๆ เพราะที่บ้านมีเงินส่งเรียน ส่วนแป้งน่ะ สามีที่เป็นแก๊งค์ขี้ยา ส่งเงินให้มาเรียน ปี1เรียนไปได้3เดือน แป้งมันก็ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก เพราะไม่ต้องหาเอง
ใช้แต่ของดีๆ กินอาหารหรูๆ โพสต์ลงเฟสบ่อยๆ ใครๆก็อิจฉาแป้ง แล้วตัวแป้งเอง ก็ลดน้ำหนักลงจนหุ่นเช้งมาก
เพราะแป้งเคยอวบเกือบอ้วน พอลดได้ ก็เลยกลายเป็นสาวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลย คือ ขาว สวย รวย(เงินสามี)
และเป็นนักศึกษาด้วย
.....แต่ชีวิตดี๊ดีของแป้งก็มีวันจบ เพราะแฟนคนที่ส่งเงินจากการทำผิดกฎหมายน่ะ โดนตำรวจเมืองลุง จับยัดเข้าห้องขังข้อหาค้ายา แป้งก็ขาดท่อน้ำเลี้ยง แรกๆแป้งก็เอาพวกทองที่ซื้อๆเก็บไว้นั่นแหละขายกิน ไม่ยอมจมเด็ดขาด แป้งเคยบอกแจนว่า มันอาย ถ้าจะให้คนอื่นมาเห็นว่ามันกำลังจม ทีนี้แป้งก็ไปสมัครงาน ทำงานร้านเหล้า แต่งตัววับๆแวมๆ แต่รายได้ดี กลางวันเรียน กลางคืนทำงาน ก็รายได้ดี เพราะแป้งหน้าตาสวย ขาว ถูกใจนักเที่ยว เลยได้ทิปเยอะ
....แต่จุดเริ่มต้นของการเป็นไซด์ไลน์ของแป้ง มันเริ่มมาจาก การไปทำงาน แล้วมีคนของนักการเมืองท้องถิ่นมาติดต่อบอก มีท่าน....สนใจ อยากให้ไปกินข้าวด้วยสักคืน จะช่วยค่าเทอมสักหมื่นสองหมื่น สนใจไหม แป้งเองก็ไม่ใช่สาวใสๆมาจากไหน เงินเป็นหมื่นๆในคืนเดียว แป้งก็ไป กลับห้องมาก็เช้าของอีกวัน เอาเงินมาอวดเป็นฟ่อนๆ แต่ตามเหนืออก กับคอของแป้งน่ะ มีรอยดูดเป็นจ้ำแดงๆ
.....แจนก็รู้แล้วว่าแป้งไปทำอะไรมา แจนก็ได้แต่บอกแป้งว่า อย่าไปทำแบบนี้อีกนะ มืงกำลังลดศักดิ์ศรีในตัวมืง
แต่แป้งก็ตอบกลับแบบแจนต้อง สะอึกว่า
“ศักดิ์ศรี มันทำให้กุอิ่มหรอ ศักดิ์ศรีจ่ายค่าห้อง ให้กูหรือเปล่า “
(เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะคะ)
เพื่อน.....................เปรต
ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ฮัลโหล ว่าไงแจน หายไปนานเลยนะมีอะไร”
“หยก กุมีเรื่องจะปรึกษา”
“ว่ามา”
“กุฝันเห็นไอ่แป้งอีกแล้ว”
“ฝันว่าพรือล่ะ”
“มันมายืนร้องไห้ เสื้อผ้าไม่มีใส่ ตัวมันมีแต่แผลเลือดไหลเต็มตัว น่ากลัวเหลือเกินมืงเอ๊ย”
......การโทรมาของแจน เพื่อนสมัย ม.ต้น เอ่ยถึงแป้ง เพื่อนอีกคนผู้ล่วงลับไปได้เกือบ2ปีแล้ว ผุดเรื่องราวของเธอขึ้นมาในหัวดิฉัน ทำให้ดิฉันรู้สึกกังวล สงสาร เป็นห่วง เพื่อนที่ชื่อว่าแป้ง ถึงเราจะไม่ได้สนิทอะไรกับแป้งมากมาย ตามประสาเพื่อนสนิทของเพื่อนสมัย ม.ต้น ที่เคยเจอเคยคุยกันสมัยยังเป็นๆ ก็พอทำให้ดิฉันได้รับรู้เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ปากกัดเท้าถีบ พยายามเชิดหน้าอยู่ในสังคมไม่ยอมจม ก่อกรรมทำเข็ญไม่เคยเกรงกลัวบาป จนวันที่เธอต้องจากทรัพย์สมบัติที่เธอสร้างมันขึ้นมาจากการทำบาปไปอย่างไม่มีวันกลับ และต่อไปนี้คือเรื่องราวของเธอค่ะ
......ดิฉันกับแจน เคยเรียนด้วยกันสมัย ม.ต้น ที่โรงเรียนควนขนุน จ.พัทลุง พอจบ ม.ต้น เราก็ต้องแยกกัน เพราะดิฉันต้องย้ายเรียนที่โรงเรียนสตรีพัทลุง ที่เป็นโรงเรียนระดับจังหวัด ส่วนแจนกลับไปเรียนที่ป่าพะยอม เราติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างนานๆครั้ง สอบถามเรื่องราวความเป็นไปของชีวิต ม.ปลาย
แต่หลักๆคือจะกดไลค์ ส่งข้อความหากันทางเฟสเอา
.....ดิฉันมีเพื่อนใหม่ๆที่สตรีพัทลุง แจนก็มีเพื่อนใหม่ๆ และคนที่เข้ามาสนิทกับแจนในช่วง ม.ปลาย คือแป้ง
เราเคยนัดเจอกันบ้าง พากันไปดูหนังบ้าง เป็นครั้งคราว ทำให้ดิฉันได้เจอแป้งในตอนนั้น แป้งเป็นผู้หญิงอวบค่อนไปทางอวบระยะสุดท้าย แต่แป้งตัวขาวและหน้าสวย แล้วก็มีแฟน (สามี) โดยพฤตินัย เป็นนักเลงหัวไม้ ขายยา
ค้าปืนเถื่อน เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นละแวกนั้นพอสมควร พี่ดิฉันเองก็รู้จัก และมักเตือนดิฉันเสมอว่า อย่าไปมั่วกับมันไอ่พวกนั้น ระวังมันจะปล้ำเอา
……พอได้พบได้พูดคุยกัน แป้งก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนของดิฉันไปด้วยอีกคน แต่ก็ไม่สนิทอะไรมากมาย เพราะดิฉันไม่ต้องการสนิท เหตุเพราะ ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับกลุ่มแฟนของแป้ง ดิฉันนานๆทีถึงจะเข้าไปดูเฟซสักครั้ง เพราะตอนนั้นอยากตั้งใจเรียนให้เกรดออกมาดีๆ เตรียมตัวเพื่อการไปต่อมหาลัยด้วย เราเลยห่างๆกันไปพอสมควร แล้วดิฉันก็มีเรื่องราวเข้ามาให้ต้องคิดเยอะเกินจะสนใจเพื่อนผู้เริ่มไกล
...ปี2557 ดิฉันลงมาอยู่ที่สงขลา เรียนราชภัฏ พอเช็คอินสงขลา แจนก็ทักมาทางเฟซ
“หยก อยู่สงขลาออ”
“ใช่ เราเรียนราชภัฏ ...แจนอ่ะ เรียนที่ไหนไมได้คุยกันนานเลย”
“เราเรียน ม.หาดใหญ่ กับแป้ง ว่างๆมาเที่ยวที่เรามั่งนะ”
“เครๆเลย”
หลังจากนั้นจนขึ้นปี2แล้ว ดิฉันก็หาโอกาสไปหาแจนที่หาดใหญ่ ก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปหา พร้อมก้อย
(ก้อยคนนี้ที่ผูกคอตายไปในกระทู้...ศัตรู____มิตรภาพ___อาฆาต_____ความตาย)
ดิฉันไปเจอแจน ที่บ้านเช่า ใกล้ๆมหาลัยที่แจนเรียน เพราะแจนโทรบอกทาง แจนอยู่กับแป้ง 2คน
แต่วันที่ไปตอนนั้นแจนอยู่คนเดียว ดิฉันจึงขึ้นไปนอนคุยกับแจนที่เตียงนอน เลยเผือกถามถึงแป้ง
“แจน แป้งมันไปไหนหละ”
“ไปอยู่กับลูกค้ามันมั้ง”
“ลูกค้า ??? แป้งมันขายของหรอ หรือทำอะไร ขายประกันเปล่า”
.....แจน ไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นไปล๊อกประตูห้อง ก่อนจะมาพูดเบาเสียงว่า
“แป้ง มันเป็นไซด์ไลน์”
“หะห๊า อะไรนะ”
“เบามืง กุเองก็อึดอัด มันก็เพื่อน มืงก็เพื่อน กุจะเล่าให้ฟังแล้วกัน แต่มืงอย่าเอาไปคุยนะ กุไม่อยากทะเลาะกับไอ่แป้งมัน “
“เออ ว่ามาดิ”
......แจน ก็เริ่มเล่าว่า ตอนเข้ามาเรียนปี1 ที่หาดใหญ่ เนี่ย แจนน่ะมาเรียนสบายๆ เพราะที่บ้านมีเงินส่งเรียน ส่วนแป้งน่ะ สามีที่เป็นแก๊งค์ขี้ยา ส่งเงินให้มาเรียน ปี1เรียนไปได้3เดือน แป้งมันก็ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก เพราะไม่ต้องหาเอง
ใช้แต่ของดีๆ กินอาหารหรูๆ โพสต์ลงเฟสบ่อยๆ ใครๆก็อิจฉาแป้ง แล้วตัวแป้งเอง ก็ลดน้ำหนักลงจนหุ่นเช้งมาก
เพราะแป้งเคยอวบเกือบอ้วน พอลดได้ ก็เลยกลายเป็นสาวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเลย คือ ขาว สวย รวย(เงินสามี)
และเป็นนักศึกษาด้วย
.....แต่ชีวิตดี๊ดีของแป้งก็มีวันจบ เพราะแฟนคนที่ส่งเงินจากการทำผิดกฎหมายน่ะ โดนตำรวจเมืองลุง จับยัดเข้าห้องขังข้อหาค้ายา แป้งก็ขาดท่อน้ำเลี้ยง แรกๆแป้งก็เอาพวกทองที่ซื้อๆเก็บไว้นั่นแหละขายกิน ไม่ยอมจมเด็ดขาด แป้งเคยบอกแจนว่า มันอาย ถ้าจะให้คนอื่นมาเห็นว่ามันกำลังจม ทีนี้แป้งก็ไปสมัครงาน ทำงานร้านเหล้า แต่งตัววับๆแวมๆ แต่รายได้ดี กลางวันเรียน กลางคืนทำงาน ก็รายได้ดี เพราะแป้งหน้าตาสวย ขาว ถูกใจนักเที่ยว เลยได้ทิปเยอะ
....แต่จุดเริ่มต้นของการเป็นไซด์ไลน์ของแป้ง มันเริ่มมาจาก การไปทำงาน แล้วมีคนของนักการเมืองท้องถิ่นมาติดต่อบอก มีท่าน....สนใจ อยากให้ไปกินข้าวด้วยสักคืน จะช่วยค่าเทอมสักหมื่นสองหมื่น สนใจไหม แป้งเองก็ไม่ใช่สาวใสๆมาจากไหน เงินเป็นหมื่นๆในคืนเดียว แป้งก็ไป กลับห้องมาก็เช้าของอีกวัน เอาเงินมาอวดเป็นฟ่อนๆ แต่ตามเหนืออก กับคอของแป้งน่ะ มีรอยดูดเป็นจ้ำแดงๆ
.....แจนก็รู้แล้วว่าแป้งไปทำอะไรมา แจนก็ได้แต่บอกแป้งว่า อย่าไปทำแบบนี้อีกนะ มืงกำลังลดศักดิ์ศรีในตัวมืง
แต่แป้งก็ตอบกลับแบบแจนต้อง สะอึกว่า
“ศักดิ์ศรี มันทำให้กุอิ่มหรอ ศักดิ์ศรีจ่ายค่าห้อง ให้กูหรือเปล่า “
(เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะคะ)