สวัสดีครับ ผมเพิ่งจะตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก หลังจากที่เห็นหลายๆคนแชร์ประสบการณ์ลึกลับกันหลายกระทู้
เลยอยากแชร์ประสบการณ์ของผมบ้าง กว่าจะผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ผมต้องเจออะไรมาเยอะพอสมควร
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ผมอาจใช้ชื่อสมมุติ เพราะกลัวจะไปพาดพิงถึงใครเข้า ขอให้ทุกคนที่อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
เรื่องเกิดขึ้นที่จังหวัดนึงในภาคใต้ ตอนนั้นผมอายุ 21 ปี ผมหนีออกจากบ้าน กับความรู้แค่ ม.3 ไปทำงานเองด้วยเหตุผลส่วนตัว
เมื่อก่อนบ้านผมอยู่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ ผมเลยหนีเข้ามาทำงานรับจ้างอยู่ในอำเภอเมือง
ทำทุกอย่างที่ได้เงินพอประทังชีวิตไปเรื่อยๆ ผมเก็บขวดไปขาย บวกกับทำงานเป็นเด็กปั้มแห่งหนึ่ง ทำอยู่ประมาณเกือบ 3 ปี
ก็เก็บเงินได้ก้อนนึง แล้วก็คิดว่าอยากจะมีที่อยู่เป็นของตัวเองบ้าง
(ผมอาศัยอยู่ที่พักคนงานของเถ้าแก่ปั้ม เขาให้ผมอยู่ฟรี) ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงด้วยความที่ความรู้น้อย
ผมเลยไปปรึกษาเถ้าแก่ ผมก็บอกเขาไปว่าผมเก็บเงินได้ 2 หมื่นแล้ว เถ้าแก่ค่อนข้างมีฐานะ เขาเอ็นดูเพราะผมซื่อๆ ขยันทำงาน
เถ้าแก่เขาเลยบอกว่า “กูมีแพเหล็กเก่าๆอยู่ลำนึง จะเอาไหม? ถ้าเอาไปแล้วก็เอาไปทำมาหากินได้เลย
มาเอาน้ำมันจากกูไปขายแล้วค่อยหักเอาก็ได้" (คือแพเหล็ก หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก
มันเป็นเหมือนแท้งเก็บน้ำมันเคลื่อนที่ลักษณะเหมือนแพ ลอยอยู่ในน้ำ) เถ้าแก่ให้แพผมมาฟรีๆ ตอนนั้นดีใจมาก
แพไม่ใหญ่มากขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร ผมใช้เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งที่ทำงาน เพราะด้านหน้าแพมีหัวจ่ายน้ำมันอยู่หัวนึง
ไว้ใช้ขายน้ำมันให้กับเรือหางยาวกับเรือประมงในแม่น้ำ กลายเป็นว่าผมจะอาศัยอยู่ริมน้ำตลอดเวลา
ก็เงินดีพอสมควร จนผมก็พอจะเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แล้วก็ไปเจอกับเมียผม เขาทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ร้านอาหารแห่งนึง
คบกันได้สักพักเลยชวนกันมาอยู่กินด้วยกันจนมีลูกชายคนนึง ตอนนั้นก็เลี้ยงลูกแล้วก็ทำงานทุกอย่างอยู่บนแพนั้นแหละ
แต่ผมยอมรับว่าผมเริ่มมีนิสัยเจ้าชู้ คือจะออกไปเที่ยวคาเฟ่เกือบทุกคืน บ่อยครั้งที่ลูกกับเมียต้องอยู่กันตามลำพัง
จนมีอยู่วันนึง ผมก็ออกไปเที่ยวตามประสาของผม
ตอนนั้นลูกชายอายุ 5 ขวบได้ เด็กมันก็เอาสวิงมาช้อนปลาเล่นตามปกติของมัน แต่พลาดตกน้ำซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม
จะมีแค่ไฟจากหน้าแพแค่ดวงเดียว เมียผมได้ยินเสียงก็รีบโดดลงไปช่วย เมียผมเล่าว่าตอนลงไปช่วยมันเห็นเหมือนเส้นผมดำๆ
ดึงขามันไว้ (ซึ่งมันก็อาจจะเป็นสาหร่ายอะไรสักอย่างก็ได้ เวลากลางคืนมันจะมืดจนแถบมองไม่เห็นอะไร)
พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่หลุด ต้องขึ้นมาหายใจแล้วดำลงไปดึงใหม่ จนพาขึ้นมาได้ แล้วเมียผมก็อุ้มพาดบ่าให้น้ำออก
ผมกลับมาบ้านแบบเมาๆ มาเจอเมียร้องไห้ที่ผมไม่อยู่บ้านเพราะเกือบจะเสียลูกไปแล้ว ตอนนั้นรู้สึกผิดมากๆ ทั้งกลัวทั้งโล่งใจ
ที่อย่างน้อยลูกยังไม่เป็นอะไรไป ผมเลยคิดว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้คงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูก แต่ก็ยังไม่รวยถึงขึ้นจะไปหาซื้อที่บนบกอยู่ได้
เลยพยายามสอนลูกว่ายน้ำแทน จนมันก็พอว่ายน้ำได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ผมก็กลับไปเที่ยวเสเพลไปวันๆ เหมือนเดิมอีก
จนกระทั่งวันนึงผมกลับบ้านประมาณเที่ยงคืน ผมไม่ได้เมามาก เป็นคนที่ไม่เคยเมาขาดสติจนต้องให้ใครพากลับบ้าน
วันนั้นขณะกำลังจะเดินไปที่แพ (ปกติผมมัดแพกับเสาไว้ริมท่า) ผมก็เห็นผ้าสีขาวคล้ายชุดผู้หญิงลอยอยู่กลางแม่น้ำ
ห่างจากแพผมอยู่ไม่ไกล พยายามเพ่งมองให้แน่ว่ามันคืออะไรเพราะมันค่อนข้างมืด แต่สีขาวทำให้มันยิ่งดูชัดเจนในความมืด
ผมสาบานว่าผมเห็นมันเคลี่อนที่ช้าๆ ไปที่แพ ตอนนั้นมีแต่ความสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มีความกลัวใดๆ เลยเดินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงแพ
ตาของผมจ้องมองผ้าสีขาวนั้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งผมเข้าใกล้แพเท่าไหร่ ดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้แพมากขึ้นเท่านั้น
แล้วอยู่ดีๆ ผ้าขาวๆนั้นก็ลอยเข้ามาใส่หน้าผมอย่างเร็ว แว็ปสุดท้ายก่อนที่ผมจะหลับตาเพราะตกใจ
สาบานว่าเห็นเป็นผู้หญิงผมดำยาวมากๆใส่ชุดสีขาว แล้วก็หายไป ผมยังจำได้แม่นไม่เคยลืมมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ลูกเมียฟังเพราะไม่อยากให้คิดมากกันเปล่าๆ แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอีก...
ผีพรายทำลายชีวิตผม
เลยอยากแชร์ประสบการณ์ของผมบ้าง กว่าจะผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ผมต้องเจออะไรมาเยอะพอสมควร
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ผมอาจใช้ชื่อสมมุติ เพราะกลัวจะไปพาดพิงถึงใครเข้า ขอให้ทุกคนที่อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
เรื่องเกิดขึ้นที่จังหวัดนึงในภาคใต้ ตอนนั้นผมอายุ 21 ปี ผมหนีออกจากบ้าน กับความรู้แค่ ม.3 ไปทำงานเองด้วยเหตุผลส่วนตัว
เมื่อก่อนบ้านผมอยู่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ ผมเลยหนีเข้ามาทำงานรับจ้างอยู่ในอำเภอเมือง
ทำทุกอย่างที่ได้เงินพอประทังชีวิตไปเรื่อยๆ ผมเก็บขวดไปขาย บวกกับทำงานเป็นเด็กปั้มแห่งหนึ่ง ทำอยู่ประมาณเกือบ 3 ปี
ก็เก็บเงินได้ก้อนนึง แล้วก็คิดว่าอยากจะมีที่อยู่เป็นของตัวเองบ้าง
(ผมอาศัยอยู่ที่พักคนงานของเถ้าแก่ปั้ม เขาให้ผมอยู่ฟรี) ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงด้วยความที่ความรู้น้อย
ผมเลยไปปรึกษาเถ้าแก่ ผมก็บอกเขาไปว่าผมเก็บเงินได้ 2 หมื่นแล้ว เถ้าแก่ค่อนข้างมีฐานะ เขาเอ็นดูเพราะผมซื่อๆ ขยันทำงาน
เถ้าแก่เขาเลยบอกว่า “กูมีแพเหล็กเก่าๆอยู่ลำนึง จะเอาไหม? ถ้าเอาไปแล้วก็เอาไปทำมาหากินได้เลย
มาเอาน้ำมันจากกูไปขายแล้วค่อยหักเอาก็ได้" (คือแพเหล็ก หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก
มันเป็นเหมือนแท้งเก็บน้ำมันเคลื่อนที่ลักษณะเหมือนแพ ลอยอยู่ในน้ำ) เถ้าแก่ให้แพผมมาฟรีๆ ตอนนั้นดีใจมาก
แพไม่ใหญ่มากขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร ผมใช้เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งที่ทำงาน เพราะด้านหน้าแพมีหัวจ่ายน้ำมันอยู่หัวนึง
ไว้ใช้ขายน้ำมันให้กับเรือหางยาวกับเรือประมงในแม่น้ำ กลายเป็นว่าผมจะอาศัยอยู่ริมน้ำตลอดเวลา
ก็เงินดีพอสมควร จนผมก็พอจะเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แล้วก็ไปเจอกับเมียผม เขาทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ร้านอาหารแห่งนึง
คบกันได้สักพักเลยชวนกันมาอยู่กินด้วยกันจนมีลูกชายคนนึง ตอนนั้นก็เลี้ยงลูกแล้วก็ทำงานทุกอย่างอยู่บนแพนั้นแหละ
แต่ผมยอมรับว่าผมเริ่มมีนิสัยเจ้าชู้ คือจะออกไปเที่ยวคาเฟ่เกือบทุกคืน บ่อยครั้งที่ลูกกับเมียต้องอยู่กันตามลำพัง
จนมีอยู่วันนึง ผมก็ออกไปเที่ยวตามประสาของผม
ตอนนั้นลูกชายอายุ 5 ขวบได้ เด็กมันก็เอาสวิงมาช้อนปลาเล่นตามปกติของมัน แต่พลาดตกน้ำซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม
จะมีแค่ไฟจากหน้าแพแค่ดวงเดียว เมียผมได้ยินเสียงก็รีบโดดลงไปช่วย เมียผมเล่าว่าตอนลงไปช่วยมันเห็นเหมือนเส้นผมดำๆ
ดึงขามันไว้ (ซึ่งมันก็อาจจะเป็นสาหร่ายอะไรสักอย่างก็ได้ เวลากลางคืนมันจะมืดจนแถบมองไม่เห็นอะไร)
พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่หลุด ต้องขึ้นมาหายใจแล้วดำลงไปดึงใหม่ จนพาขึ้นมาได้ แล้วเมียผมก็อุ้มพาดบ่าให้น้ำออก
ผมกลับมาบ้านแบบเมาๆ มาเจอเมียร้องไห้ที่ผมไม่อยู่บ้านเพราะเกือบจะเสียลูกไปแล้ว ตอนนั้นรู้สึกผิดมากๆ ทั้งกลัวทั้งโล่งใจ
ที่อย่างน้อยลูกยังไม่เป็นอะไรไป ผมเลยคิดว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้คงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูก แต่ก็ยังไม่รวยถึงขึ้นจะไปหาซื้อที่บนบกอยู่ได้
เลยพยายามสอนลูกว่ายน้ำแทน จนมันก็พอว่ายน้ำได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ผมก็กลับไปเที่ยวเสเพลไปวันๆ เหมือนเดิมอีก
จนกระทั่งวันนึงผมกลับบ้านประมาณเที่ยงคืน ผมไม่ได้เมามาก เป็นคนที่ไม่เคยเมาขาดสติจนต้องให้ใครพากลับบ้าน
วันนั้นขณะกำลังจะเดินไปที่แพ (ปกติผมมัดแพกับเสาไว้ริมท่า) ผมก็เห็นผ้าสีขาวคล้ายชุดผู้หญิงลอยอยู่กลางแม่น้ำ
ห่างจากแพผมอยู่ไม่ไกล พยายามเพ่งมองให้แน่ว่ามันคืออะไรเพราะมันค่อนข้างมืด แต่สีขาวทำให้มันยิ่งดูชัดเจนในความมืด
ผมสาบานว่าผมเห็นมันเคลี่อนที่ช้าๆ ไปที่แพ ตอนนั้นมีแต่ความสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มีความกลัวใดๆ เลยเดินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงแพ
ตาของผมจ้องมองผ้าสีขาวนั้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งผมเข้าใกล้แพเท่าไหร่ ดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้แพมากขึ้นเท่านั้น
แล้วอยู่ดีๆ ผ้าขาวๆนั้นก็ลอยเข้ามาใส่หน้าผมอย่างเร็ว แว็ปสุดท้ายก่อนที่ผมจะหลับตาเพราะตกใจ
สาบานว่าเห็นเป็นผู้หญิงผมดำยาวมากๆใส่ชุดสีขาว แล้วก็หายไป ผมยังจำได้แม่นไม่เคยลืมมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ลูกเมียฟังเพราะไม่อยากให้คิดมากกันเปล่าๆ แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอีก...