ขาดทุนไม่เป็นไร!!! ก.แรงงานจ่อปรับสวัสดิการ 12 รัฐวิสาหกิจเทียบเท่าราชการ!!!

กระทู้คำถาม

น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ 12 แห่งที่กำลังมีการปรับโครงสร้าง โดยกำหนดให้การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย และหลักเกณฑ์การจ่ายค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร มีหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเช่นเดียวกับข้าราชการ

นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าการปรับปรุงดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลมีความห่วงใยพนักงานรัฐวิสาหกิจในช่วงระหว่างที่จะมีการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจทั้ง 12 แห่ง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น จึงจะปรับปรุงสิทธิด้านสวัสดิการของพนักงานให้สูงขึ้นเป็นการทดแทนไปก่อน

โดยจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายเพื่อการตรวจสุขภาพ การเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคให้สอดคล้องและเป็นไปเช่นเดียวกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 ที่เป็นของข้าราชการ

ในส่วนของการศึกษาของบุตรจะมีการขยายสิทธิและอัตราการจ่ายค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตรให้จนถึงระดับปริญญาตรี เช่นเดียวกับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรข้าราชการด้วย

ทั้งนี้รัฐวิสาหกิจทั้ง 12 แห่งได้แก่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) การบินไทย ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ธ.กรุงไทย บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. บริษัทไปรษณีย์ไทย บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ บริษัท อู่กรุงเทพ และ บริษัท สหโรงแรมไทยฯ

อย่างไรก็ตามน่าสังเกตว่า ในรายชื่อรัฐวิสาหกิจทั้ง 12 แห่งมีหลายแห่งที่ยังคงประสบปัญหาการขาดทุน เช่น บริษัท การบินไทย ที่ปี 2558 มีอัตราการขาดทุนสูงกว่า 12,800 ล้านบาท ในขณะที่ปีนี้ไตรมาสที่ 2 ผลขาดทุนอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท ด้านบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เองก็มีการประมาณตัวเลขการขาดทุนของปี 2559 ไว้ที่ 11,000 ล้านบาท ในขณะที่ บริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน) ไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนไปแล้วกว่า 149 ล้านบาท เช่นเดียวกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด ที่คาดว่าปีนี้จะขาดทุนราว 100 ล้านบาท

และเป็นที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจของไทยในตอนนี้ ถือว่าอยู่ในภาวะชะลอตัว การเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหลายแห่งอยู่ในภาวะขาดทุน ให้เทียบเท่าข้าราชการ จะเป็นการเพิ่มรายจ่ายภาครัฐมากเกินไปหรือไม่??? อย่าลืมว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มีเงินเดือนไม่น้อยกว่าพนักงานบริษัทเอกชน รวมถึงมีโบนัส และฐานเงินเดือนที่สูงกว่าข้าราชการอยู่แล้ว

อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ล่าสุด ประชาชนไทยมีสิทธิในการเรียนฟรีจากภาครัฐเพียงแค่ 12 ปี หรือ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่านั้น ในขณะที่การปรับสวัสดิการพนักงานรัฐวิสาหกิจ 12 แห่งครั้งนี้ให้สิทธิบุตรพนักงานฯ ถึงชั้นปริญญาตรี???

เช่นเดียวกับการเพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาล ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 ที่ให้สิทธิรักษาพยาบาลกับ พนักงานรัฐวิสาหกิจ คู่สมรส บุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะ และบิดามารดา ในขณะที่ประชาชนทั่วไปได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เฉพาะผู้ยากไร้เท่านั้น

การเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ 12 แห่งมากมายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือไม่กับสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ และ เมื่อพิจารณาจากสิทธิของประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นผู้เสียภาษี ให้กับรัฐบาลซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในองค์กรรัฐวิสาหกิจ!!??