อย่าพูดเรื่องบินสูงในฝูงไก่ !

กระทู้คำถาม
อย่าพูดเรื่องบินสูงในฝูงไก่

เพราะนอกจากไก่จะไม่เข้าใจ

แล้วมันยังคอยทำให้คุณ

"เสียกำลังใจ"

ถ้าไปปรึกษาไก่เรื่องบินขึ้นต้นไม้ ไก่ก็จะบอกคุณว่า "ไอบ้า"  แกไปบินให้พ้นหลังคาก่อน !

ถ้าไปปรึกษาอินทรีเรื่องบินขึ้นต้นไม้ อินทรีก็จะบอกคุณว่า  "ก็ดีนะ"  แต่ทำไมไปแค่ต้นไม้ล่ะ

            " ทำไมไม่บินข้ามภูเขา "

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  เวลาที่คุณจะไปปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากใคร คุณควรคิดไตร่ตรองดูให้ดีซะก่อน

ว่าบุคคลที่คุณกำลังพูดด้วยอยู่นั้น เขาเป็นไก่ หรือเป็น อินทรีย์   แน่นอนถ้าคุณไปคุยเรื่องการเป็นนายตัวเองกับมนุษย์เงินเดือนผู้ยัง

ไม่เคยเป็นนายตัวเอง เค้าก็จะบอกคุณว่า มันยากนะ อย่าออกไปเสี่ยงเลย และหาเหตุผลต่างๆนาๆ มาสนับสนุนความเป็นไปไม่ได้เหล่านั้น

แล้วคุณก็จะหมดกำลังใจ จนไม่กล้าทำอะไร    กลับกันถ้าคุณไปถามเรื่องการเป็นนายตัวเอง กับ คนที่เป็นนายตัวเองคนที่ใช้ชีวิตรอดได้จากการไม่ต้องไปกิน

เงินเดือน แน่นอนว่าเค้าต้องมีคำแนะนำที่ดีให้กับคุณแน่    เคยได้ยินไหม  ตัวคุณคือ ค่าเฉลี่ย ของคน 5 คน ที่คุณคลุกคลีด้วยเป็นประจำ อยากเป็นคนแบบ

ไหน ก็เอาตัวเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนั้น  ถ้าคุณอยากจะป่วยคุณก็ต้องอยู่ในห้องเดียวกับคนที่ป่วย  ถ้าคุณอยากเป็นหวัดคุณก็ต้องอยู่ในห้อง

เดียวกับคนที่เป็นหวัด   แน่นอนว่าถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม  คุณก็ต้องไปคุยกับคนที่เค้าทำสำเร็จคนที่

เค้าทำได้มาแล้ว   เลือกคนคุยให้ถูกคนครับ มันเป็นส่วนที่สำคัญในการทำให้ชีวิตของคุณก้าวหน้า

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
บางครั้งก็ต้องมองตัวเองนะ ว่าเป็นไก่ หรือ นกอินทรีย์ หรือแค่ กบ
คุณอยากเป็นอย่างไหน ก็ไปอยู่กับคนกลุ่มนั้นน่ะ ใช่ส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องดูตัวเองด้วย ว่าทำได้อย่างเขาหรือเปล่า

คำว่า หัวหมา หรือ หางมังกร คำนี้ก็ใช้ได้
เพราะถ้าคุณอยากเป็นอินทรีย์ แต่ว่าความสามารถของคุณ เป็นได้แค่เป็ดหรือไก่
ก็เปลี่ยนจากหางมังกร มาเห็นหัวหมาดีกว่านะ คุณไปยืนขันบนหลังคาบ้าน ไก่ตัวอื่นชมว่าคุณเก่ง
แต่สำหรับอินทรีย์แล้ว คุณมันแค่ปลายหาง ที่เขาไม่เหลือบตาไปมองด้วยซ้ำ

ถ้าคุณทำธุรกิจเปิดร้านเล็กๆในสยาม ทำเลทอง ที่คู่แข่งมหาโหด เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ค่าใช้จ่ายสูง ลูกค้ามองไม่เห็นร้านของคุณหรอก
ใครๆก็ชมว่าคุณเก่ง หาที่ในสยามได้ เก่งจังคุณเปิดร้านได้ แต่มันถิ่นอินทรีย์ ที่ไก่อย่างคุณไม่มีวันเหนือกว่าเขา แค่เอาตัวรอดไปวันๆได้เก่งแล้ว
มันเหนื่อยมากทำตั้งนานอาจจะไม่ไปไหน อยู่ไปวันๆ

แต่ถ้าเปลี่ยนสถานที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หัวหิน ริมหาด หรือ เมืองปาย ริมเขา  ร้านเล็กๆของคุณอาจจะเด่นสวยสะดุดตา ที่ใครๆต้องแวะมา
เป็นไก่บ้านนอกที่โดดเด่นเหนือใคร ทำงานแล้วสบายใจ ขยายกิจการใหญ่โตได้ ลูกค้ามากมายต้องแวะมาเช็คอิน ได้ออกรายการทีวี
แต่กลายเป็นหนุ่นบ้านนอกไปซะงั้น ไม่ได้อยู่ท่ามกลางแสงสี แต่กลายเป็นอยู่ท่ามกลางขุนเขา เชยเหลือเกิน แต่รายได้ดีกว่าในเมืองซะอีก
บางครั้งไก่ ถ้ารู้จักตนเองว่าอยู่ถูกที่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพยายามทำตัวเองให้เป็นอินทรีย์นะ  
แต่ถ้าคุณมีศักยภาพมากกว่า การแปลงร่างจากป่าสู่เมือง เหยียบถิ่นอินทรีย์ก็ไม่แปลก วันหนึ่งไก่อาจจะกลายเป็นหงษ์ก็ได้ ถ้ามานะพอ
ความคิดเห็นที่ 6
วลีนี้ พวกขายตรงก็ชอบใช้
ความคิดเห็นที่ 30
คนไทย ขาดมากๆเลยคือเรื่องของการประเมินศักยภาพตัวเอง

ถ้าคุณเป็นไก่ อาหารของคุณคือหนอน ข้าวเปลือก ข้าวสาร บนพื้นดิน
ถามว่าถ้าบินได้สูงถึงระดับยอดต้นไม้ คุณจะสามารถมองเห็นอาหารของคุณรึไม่ รึจะบินเอาเท่ห์ครับ

แต่ถ้าคุณเป็นนกอินทรี อาหารของคุณคือพวกนก พวกหนู พวกหมาจิ้งจอก เลียงผา สัตว์ตัวขนาดกลางที่รวดเร็ว
คุณจะมาเดินหากินบนพื้นแบบไก่ทำไมละครับ แบบนั้นจะหาอาหารกินได้ยังงัย คุณก็ต้องบินให้สูงและเร็ว นั้นแหละถึงจะถูก

ถามหน่อยว่าตอนนี้ skill ของคุณเป็นสัตว์อะไร ไก่ หรือ นกอินทรี

ป.ล.แต่ถ้ามองอีกด้านนะ ถ้ามีคนมาบอกให้เราคิดแบบนี้โดยไม่ได้แนะนำให้มองดูศักยภาพตัวเองก่อนนะ ระวังคุณอะแหละคือไก่ที่กำลังถูกนกอินทรีหลอกให้พยายามบินจนเหนื่อยแล้วจับกิน
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ไปๆมาๆ ตอนนี้ผมแทบไม่มีเพื่อน
เพื่อนที่เรียนมา มันคุยกันไม่รู้เรื่อง
พูดกันคนละภาษา คุยกันเรากลับต้องเงียบ
เพราะ เดี๋ยวโดนมันแซะเอา

จริงๆ แม้แต่การเป็นพนักงาน ภาษาก็ไม่เหมือน
ลูกจ้างผม เงินเดือนหลักหมื่น เรื่องคุยกันก็แบบนึง
เพื่อนผมเงินเดือนหลักแสน เรื่องที่คุยกันก็อีกแบบ
แม้จะคุยเรื่องลูก ก็คุยกันในคนละมุมมอง

สรุปเห็นด้วย กับ จขกท นะครับ
และอยากเสริม ว่า ถ้าเราค้นพบว่าเราเหมาะกับอะไร
ทำแล้วมีความสุข นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่