เมื่อประมานต้นๆปีแล้ว ดิชั้นและเพื่อนและก็ลูกพี่ลูกน้องของดิชั้นอีกหนึ่งคนจะทำการบ้านกัน แต่ฝนตกเน็ตที่บ้านล่ม เลยอาศัยไวไฟที่ศาลาประจำหมู่บ้าน ซึ้งศาลานั้นตั้งอยู่หน้าวัด เราก็ทำรายงานปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั้งทำรายงานเสร็จก็กลับกัน ตอนกลับดิชั้นซ้อนท้ายดิชั้นลุกพี่ลูกน้องเป็นคนขับ เพื่อนอีกคนขับไปคนเดียวและออกไปก่อน ก่อนกลับเราก็เอ่ยชื่อนะ ว่าชวนใครกลับมั้ง (ประมาณว่าเวลาไปไหนมาไหนชวนใครให้เอ่ยชื่อคนนั้นอะ) แล้วลูกพี่ลูกน้องเราก็เอ่ยปิดท้ายเราว่า คนที่ไม่ได้ชวนก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละไม่ต้องตามมา พอได้ยินแบบนั้นเราก็กลัวนิดๆ ไม่ก็ไม่ได้ทักอะไร ขับออกมาได้นิดเดียวลูกพี่ลูกน้องเราเกิดอารการสั่นขับไม่ได้ เราเลยไปขับเเทน เราก็คงคิดว่าฝนตกนิดๆมันคงเย็น พอขับมาได้นิดเดียวมันบอกว่ารู้สึกเหมือนมีคนตามมาและมองเราตลอดเวลา เราก็หันไปมองกระจกหลังก็ไม่มีรถอะไรตามมาเลย เราก็ถามว่าอะไร พูดอะไร มันบอกว่ามันรู่สึกไม่ดีเลย เรามีพระประจำตัวอยู่เราจะพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เราเลยเอาพระให้มันถือ เเล้วเราก็ขับต่อ แล็วอยู่มันบอกว่ามันอยากกระโดรถและอยากโยนพระทิ้ง เราไดเยินเเบบนั้นก็ใจหายเเวบบ  นึกในใจว่านี่มันอะไรกันวะะ เลบบีบแจใหเพื่อนคนข้างหน้าจอด และบอกมันว่าเกิดอะไรขึ้นมันก็บอกว่าเนียจะถึงบ้านแล้วทนอีกนิด แล้วก็ขับต่อกันมา แล้วมาถึงทางข้างหน้าเป็นทางกันดารแล้วเราขับรถไม่เเข็งเราบอกลูกพี่ลูกน้องเราให้มาขับทั้งที่อาการมันไม่ปกติ55555 แต่มันก็มาขับเราถามว่าดีขึ้นยังไม่มองหน้าเรานิ่งและไม่พ
ูดอะไรพอถึงบ้านเพื่อนอีกคนเราก็อยูทำการบ้านต่อ ลูกพี่ลูกน้องเราก็นอนลงบนโซฟา ปล.เราสามคนสนิทกันมากเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน พ่อกับเเม่ก็สนิทกัน เพื่อนเราเข้าครัวไปยกกับข้าวมาเราก็ตามไปช่วย แล้วเเม่เพื่อนถามว่าลูกพี่ลูกน้องเป็นอะไรไม่สบายรึป่าวเห็นมาถึงก็นอนอยู่คนเดียวไม่คุยกะใคร เราเลยออกไปดูเราถามมันว่าหายยัง มันยังมองหน้าเรานิ่งๆเหมือนเดิมอะ555 แล้วจู่มันก็บอกว่ามมันหนักที่ต้นคอ เป็นอะไรไม่รู้เราก็นวดต้นคอให้มัน แล้วเพื่อนยกกำลังมาพอดีเราเลยไปนั่งตักข้าวแล้วลุกพี่ลูกน้องเราก็ลงตามมาแต่ไม่ค่อยเต็มใจมาแต่ขัดไม่ได้กับเพื่อนแม่ เรากับเพื่อนก็กินกันอย่างอร่อยเลยย55 เเต่ลูกพี่ลุกน้องเรา (ขอเรียกนามสมมุตว่า บีมนะ) บีมกินไปได้คำเดียวก็อ๊วก เรากับเพื่อนก็ตกใจ พออ๊วกเสร็จมันหันมาทำตาแปลกๆใส่เราแล้วบอกว่าอยากกินน้ำแดง เรากับเพื่อนตกใจมากเลยเพื่อนเราเลยไปเรียกพ่อกับเเม่เค้ามา เราเลยอยู่คนเดียวกับบีม  บีมมองสายตาแบบไม่เหมือนเดิมอะ แล้วตัวก็อยู่ไม่นิ่งบิดไปบิดมา สักพักก็กริ๊ดดร้อง เราตกใจวิ่งไปอยู่หน้าบ้านอะ แล้วพ่อกับเเม่เพื่อนก็มาแล้วเราก็ไปเอาน้ำแดง แล้วถามว่าเป็นอะไรก็ไม่พูด พูดอยูคำเดียวว่าอยากกินน้ำเเดงแล้วพ่อขอเพื่อนก็บอกว่าเอางี้ดีกว่าไปตามพ่อบีมมาที แล้วบีมก็ทำท่าท่างแบบไม่พอใจว่าไม่ต้อง แล้วเราเลยเเอบวิ่งไปตามพ่อบีมมา พอพ่อบีมมาบีมก็ไม่มองหน้าพ่อเอาแต่กริ๊ดร้องอย่างเดียวเเล้วพ่อของเพื่อนเราก็ไปเอาพระมาเเขวนที่คอเค้าก็กริ๊ดร้องใหญ่เลย ร้องดังจนกระทั้งยายของเพื่อนแกหูแกไม่ได้แกอยุ่ในห้องอะแกออกมาดุว่าใครร้องเมื่อกี้ พอสักพักก็หายใจไม่ออกตัวไม่อ่อนไปหมด เเล้วจะวิ่งออกนอกบ้านทีเดียวจนทุกคนต้องมัดเอาไว้ ระหว่างที่มัดนั้นพ่อบีมลุงของเรานั้นเองไปไหนสักแห่งเเล้วไม่บอกใครเลย แกหายไปสักพักจน บีมเริ่มสงบเราไม่กริ้ดร้องเเล้ว เเต่ยังต้องมัดไว้ แล้วพ่อบีมก็พาบีมไปที่วัดข้างเขา เราไม่ได้ไปด้วยเรา เราอยู่บ้ายกะเพื่อนเเล้วยายของเพื่อน แล้วเราก็โทรตามแม่ของเราให้มาแล้วโทรตามลุกพี่ลุกน้องอีกคนที่เป็นร่างทรงพระจีนว่าให้มาดูใหหน่อยว่าบีมเป็นอะไร แต่เค้ามาช้าไปแล้วลุกพี่ลุกน้องเราคนที่เป็นร่างทรงก็ขับรถตามพ่อบีมไปพร้อมกับแม่เรา เราก็อยู่บ้านกับเพื่อนเเบบกลัวๆ ตอนนั้มันดึกมาแล้วด้วยย ฝนก็ยังตก แล้วแม่ของเพื่อนโทรมาบอกว่าตอนนี้อยุ่ รพ แล้ว กลับจากวัดข้างเขาเเล้วพระเค้าบอกว่าไม่มีอะไร เลยพาไป รพ. หมดแค่ให้นอนพักสักแปบก็กลับบ้านได้ พอกลับมาบีมก็ดูงง นิ่งๆเหมือนเดิม แล้วเราก็เเยกย้ายกันกลับบ้าน จนมาถึงทุกวันนี้ยังไม่รุ้ว่าที่เกิดขึ้นคืออะไร ผีเข้าหรืออะไรยังๆไง แต่พ่อของเพื่อนบอกว่าถ้าอยู่ใกล้คนผีเข้าอะมันจะรุ้นึกพองจนหรือขนลุกแปลกๆ แต่นี่ไม่ได้ขนลุกอะไร แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยไปศาลาประจำหมู่บ้านนั้นอีกเลย ขับรถผ่านยังไม่กล้าดุ
ู