ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนเลยว่าเราติดบ้านมาก เรามีพี่สาวอยู่คนนึงอายุห่างจากเรา 9 ปี เราสนิทกันมากมีอะไรเราก็จะปรึกษาเขาทุกเรื่อง ไม่เคยมีความลับกับเขาเลย จนเมื่อเร็วๆนี้เรามีปัญหากับที่บ้าน เรื่องมันเกิดจากแม่ของเราเอง คือก่อนหน้านั้นเรากับแม่ก็มีปัญหากันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับเราไม่อยากคุยกับเขา คือเราอยู่ ม.6 มันเป็นช่วงที่เราเหนื่อยมาก เหนื่อยจริงๆ ทั้งกายและใจ ทั้งเรื่องเรียนต่อ เรื่องเพื่อน และอีกกมากมาย หลายครั้งที่ได้ยินว่าสิ่งที่เด็ก ม.6 ต้องการมากที่สุดคือกำลังใจ มันก็คงจะจริง แต่คนในบ้านเขามองว่าเราเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก เพราะปกติเราเป็นคนพูดทุกเรื่องให้คนในบ้านฟัง จนเมื่อไม่นานเราก็ไปบ่นให้พี่เราฟังว่า หนูเหนื่อยอะ หนูเจอปัญหาที่โรงเรียนก็หนักใจแล้ว กลับบ้านต้องมาเจอแม่คอยจับผิดอีก แล้วพี่เราก็บอกว่า แค่นี้เหนื่อย แล้วเขาไม่เหนื่อยกว่าหรอ ต้องคอยรับความรู้สึกของคนทั้งบ้านไว้ ณ ตอนนั้นฉันก็คิดว่าพี่ฉันคงเหนื่อยกว่าจริงๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็ไม่เคยบ่นให้คนในบ้านฟังว่าฉันเหนื่อยเลย จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันทำงานกลุ่มแล้วทั้งกลุ่มฉันทำอยู่คนเดียว ฉันก็แบบรู้สึกแย่มากๆ แล้วพอกลับจากโรงเรียนฉันก็กำลัวจะยกข้าวไปกินกับครอบครัว แม่เราก็มาบ่นว่าทำตัวให้มันเหมือนผู้หญิงคนอื่นเขหน่อย จากที่ว่าจะกลับมากินข้าวอย่างมีความสุข ก็แบบเฟลมาก เราก็เดินหนีมาเข้าห้อง ร้องไห้เลย เหมือนตอนนั้นมีหลายๆเรื่องมารวมกัน แล้วเราพูดให้ใครฟังไม่ได้ ก็เลยร้องไห้ออกมา แต่คนในบ้าน ก็ไม่มีใครรู้ พอตอนเช้าเป็นวันเสาร์ฉันก็ตื่นมาถูบ้าน ถูเสร็จฉันก็เข้ามาเอาไม้แขวนเสื้อในห้องไปจากผ้า แต่ฉันเห็นโทรศัพท์แบตจะหมดเราก็เลยถือมาชาร์จ แต่พี่เราเข้ามาพอดี เขาก็เลยพูดว่า งานไม่ทำเล่นแต่โทรศัพท์ มันก็เหมือนที่แม่เขาด่านั่นแหละ ตอนนั้นฉันรู้สึกอยากร้องไห้มาก แต่ก็พยายามกลั้นไว้ จากที่เคยคิดว่าพี่เราเข้าใจเรามากที่สุด แต่มันก็ไม่ใช่ เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น เราก็เดินออกมาซักชุดนักเรียนเราและก็เสื้อผ้าพี่เรา ตอนซักเราก็คิดในใจว่า ทำช่วงนี้ชีวิตมันวุ่นวายจัง แล้วเราก็ร้องไห้ออกมา แต่เราก็พยายามกลั้น จนพี่เราเดินมาแล้วบอกว่าเดี๋ยวซักต่อเอง เราก็เลยรีบเดินออกเพราะกลัวว่าพี่เราเห็นว่าร้องไห้ เราจะเดินไปล้างที่ห้องน้ำ ก็มาเจอพ่อ เขาก็ถามอะไรเราสักอย่างแต่เราฟังไม่รู้เรื่อง เลยตอบไปเสียงดังว่าไม่รู้ พอเราเข้ามาในห้องเราก็เลยปล่อยโฮเลย แล้วเราก็ได้ยินพ่อเราบอกพี่เราว่า มันเป็นอะไรพูดด้วยก็ตวาด พี่เราก็บอกว่ามันนิสัยเสียไง เราก็เลยยิ่งร้องไห้หนักเลย เราก็ออกจากห้องน้ำไปอยู่ในห้องนอนเรา พี่กับพ่อเราก็เลยตามมา คงไม่คิดว่าเราอยู่ในห้องน้ำ ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมาก สะอื้นเลย พี่เราเขาก็พูดว่า เรื่องแค่นี้ทำเป็นเหนื่อย คนอื่นเขาไม่เหนื่อยกว่าหรอที่เห็นเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเราก็คิดว่าเราก็ไม่เคยบอกใครว่าเราเหนื่อย แล้วคำว่าเรื่องแค่นี้เด็กอย่างเรากับผู้ใหญ่อย่างเขามันไม่เท่ากันเลยนะ ตอนนั้นเราแค่อยากร้องไห้เงียบๆคนเดียวไม่อยากให้ใครเห็น เพราะเราก็โตแล้ว ไม่อยากให้เขามาเครียดกับเรา ในเมื่อเราระบายกับใครไม่ได้เราก็ต้องร้องไห้ โดยที่ไม่อยากให้ใครเห็น หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่พูกกับคนที่บ้านเลย เพราะทุกครั้งที่ฉันพูดฉันก็จะร้องไห้ เรารู้สึกว่าเรายังไม่พร้อมจะคุยกับใคร อยากให้ตัวเองเข้มแข็งกว่านี้ก่อน แต่พี่เราก็พูดว่าคิดว่าอยู่คนเดียวได้ก็อยู่ไป จากนั้นทุกคนในบ้านก็มึนตึงกับเรา อาจจะเราคิดไปเองก็ได้ ทุกวันนี้เราเลยรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน เพราะมันอึดอัด ทั้งที่เมื่อก่อนฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน ฉันควรทำยังไงกับปัญหานี้ดี สิ่งที่ฉันต้องการคือขอแค่ใครสักคนฟังที่ฉันพูดว่าฉันรู้สึกยังไง ไม่ต้องเข้าใจและปลอบที่ฉันพูดก็ก็ได้แค่ฟังฉันเงียบๆก็พอแล้ว
ตั้งแต่เมื่อไหร่...ที่รู้สึกไม่อยากกลับบ้าน