ภัยร้าย!!! ที่ยังไม่หมดไปจากการใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าเดินทางใต้ท้องบินเครื่องยังคงเกิดขึ้นเสมอ
ย้ำ ค่ะ ย้ำ ขอ ย้ำอีกที เพื่อนที่อ่านมาเจอะ อย่าเผลอลืมใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าที่โหลดนะค่ะ
เคสนี้สืบเนื่องมาจากเดินทางไปหาแม่ และกลับโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เส้นทาง กระบี่ – กทม.
เที่ยวบิน PG 262 ออกจากกระบี่เวลา 11 :40 น.
เรามาถึงสนามบินเวลา 10 : 20 น. ลงรถอาคาร 2 สำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เช็คอินที่นี้ค่ะ (แนะนำสำหรับใครที่เคยมากระบี่ครั้งแรกและกลับกับบางกอกแอร์เวย์ค่ะ) เราก็เอากระเป๋าเข้า สแกนตามปกติ เสร็จแล้วเดินไปเช็คอิน ซึ่งตอนไปเช็คอินคนไม่มี เลยได้เช็คอินด้วยเวลาอันรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ก็ออกบัตรโดยสารให้ และเจ้าหน้าก็จัดการเอาแท๊กติดกระเป๋าให้ เมื่อเช็คอินเรียบร้อย เราเห็นเวลาเหลือเยอะก็ออกไปซื้อของฝากด้านนอก
กลับมาที่สนามบินอีกเวลา 11 : 00 โมง มาถึงสัก 10 นาที ไฟก็ดับพอดี เราก็เลยเดินเข้าไปรอในห้องพักผู้โดยสาร เวลา 11 : 20 เห็นจะได้ เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ขึ้นเครื่องที่ประตูหมายเลข 4 เครื่องก็ออกตามเวลาปกติทั้งที่ฝนตกด้วย
ถึง สุวรรณภูมิ บ่ายโมงนิดๆๆๆ พอลงจอดสนิทก็มีรถมารับไปส่งที่รับกระเป๋า
รอรับกระเป๋าประมาณ 30 นาที เห็นจะได้ กระเป๋าก็เริ่ม ทยอยไหลมา ทีละใบ ทีละใบ สักพักกระเป๋าเราก็มา ระหว่างรอ เราถ่ายรูปกระเป๋าเล่นๆ ไว้ด้วย (ไม่คิดว่าจะได้ใช้)
แต่พอเอากระเป๋ามาเอ๊ะ ตัวล็อคหาย (พอดีกระเป๋าตัวล๊อคชำรุด) วันนี้เลยเอาคลิปมาล๊อคไว้ แต่ยังไม่สงสัยว่า เงิน ในกระเป๋าเดินทางจะหาย ก็เอากระเป๋าใส่รถเข็น ไปกดคิวเรียกแท็กซี่ มาถึงบ้านก็ทำการสำรวจกระเป๋า เอาเสื้อผ้าออก ของกินที่เอามาจากบ้าน แต่เอ๊ะ วันนี้ทำไหมตังเหรียญหล่นนอกกระเป๋าหน่อเลยเปิดกระเป๋า เอาอีก นามบัตร บัตรต่างๆ ทำไหมมันหลุดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ พับไปมา (คิดในใจ) สงสัยวันนี้เจ้าหน้าที่จะโยนกระเป๋าเราแรงไปนะ ถึงขั้นเหรียญกระจาย เปิดไปอีกค่ะ
*** สิ่งที่พบกับสิ่งที่คิด เอาแล้วไงละวันนี้โดนกับตัวเลย เงินหายเกลี้ยง ทั้งที่แอบเก็บไว้ในซอกกระเป๋า (เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน) ไอ้นอกกระเป๋าไม่ต้องพูดถึงค่ะ มันไม่มีเหลือให้หรอกค่ะ เอาละค่ะเมื่อเกิดเรื่องก็ ไลน์ไปบอกแม่กับน้อง ก่อนเป็นอันดับแรก
แล้วก็โทรไปบางกอกแอร์เวย์
1771 กด 1 กด 1 กด 4 (แจ้งเรื่องอื่น)
แล้วเราก็อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่รับสายบางกอกเลยให้เบอร์โทรสำหรับแจ้งของหายเป็นของบางกอกเอง
T : 02-134-3961 เราก็โทรไปแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้าหน้าที่เลยให้ส่งเอกสารเพื่อยืนยันดังนี้
1.บัตรโดยสาร
2.Tag ติดกระเป๋า
3.บัตรประชาชน
4.ข้อมูลที่สามารถติดต่อผู้เดินทางได้
แล้วส่งไปที่อีเมลล์
bkkllpg@bangkokair.com
หลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งอีเมลล์ไปเวลา 15 : 30 นาที
เวลา 19 : 22 นาทีก็มีเจ้าหน้าจากบางกอกแอร์เวย์ติดต่อมาแจ้งว่าทางเราได้รับข้อมูลที่ผู้โดยสารแจ้งแล้ว
ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 1 อาทิตย์ เราก็บอกว่าโอเค เข้าใจ Process และเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะได้การซ่อมตัวล๊อคกระเป๋าให้ เราก็บอกว่าขอบคุณค่ะ …จบการสนทนา….
****สถานการณ์ตอนนี้ก็รอค่ะประมาณ วันอาทิตย์จะติดต่อไปอีกที ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าคืบหน้า***
ส่วนน้องเราช่วยประสานงานไปทางสนามบินกระบี่ ทางเจ้าของสนามบินแจ้งว่าต้องให้เจ้าตัวมายืนเรื่องหรือมอบอำนาจ ซึ่งเราไม่สะดวกที่จะเดินทางไปแน่นอน ถ้ามอบอำนาจก็คงต้องเป็นแม่ ซึ่งก็คงไม่ทำเพราะลำบากแม่อีก
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็พอจะสรุปได้ดังนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่มาอ่านเจอบ้าง
- ของมีค่าทุกสิ่งอย่างควรติดตัวไว้เลย (นี่คิดว่าไว้ในซอกเสื้อผ้า ป่นๆ มากับผัก ปลาที่แม่เตรียมให้ ยังหาเจออีก) เราไม่น่าพลาดเลย แต่ในใจก็คิดนะค่ะว่าถ้าไม่ผ่านเครื่องสแกนที่เห็นของข้างในหมดคงหาเจอได้ยาก *** มโนเองนะค่ะไม่ได้ฟันธง ว่าหายที่ไหน แค่คาดเดาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- รูปตอนเปิดกระเป๋าไม่ได้ถ่าย มัวแต่ หากระเป๋าสตางค์และหาตังในกระเป๋า เลยไม่ได้ถ่ายไว้เลย
*** เราคิดว่าเงินที่หายไป คงได้กลับมายาก แต่อยากฝากทางสายการบินและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งที่ต้นทาง สนามบินกระบี่ และปลายทางที่สุวรรณภูมิ ที่เครื่องสแกนกระเป๋า หรือส่วนไหนๆ ก็แล้วแต่ที่มีส่วนร่วมให้ช่วยดูแลสอดส่อง เรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินของผู้เดินทาง ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารท่านอื่นๆ ที่เดินทางมา เพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว อยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวแล้วเกิดความประทับใจ บอกต่อแล้วก็อยากกลับมาเที่ยวอีก
เตือนภัย ! อย่าโหลดของมีค่าไว้ในกระเป๋าใต้ท้องเครื่องเด็ดขาด
ย้ำ ค่ะ ย้ำ ขอ ย้ำอีกที เพื่อนที่อ่านมาเจอะ อย่าเผลอลืมใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าที่โหลดนะค่ะ
เคสนี้สืบเนื่องมาจากเดินทางไปหาแม่ และกลับโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เส้นทาง กระบี่ – กทม.
เที่ยวบิน PG 262 ออกจากกระบี่เวลา 11 :40 น.
เรามาถึงสนามบินเวลา 10 : 20 น. ลงรถอาคาร 2 สำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เช็คอินที่นี้ค่ะ (แนะนำสำหรับใครที่เคยมากระบี่ครั้งแรกและกลับกับบางกอกแอร์เวย์ค่ะ) เราก็เอากระเป๋าเข้า สแกนตามปกติ เสร็จแล้วเดินไปเช็คอิน ซึ่งตอนไปเช็คอินคนไม่มี เลยได้เช็คอินด้วยเวลาอันรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ก็ออกบัตรโดยสารให้ และเจ้าหน้าก็จัดการเอาแท๊กติดกระเป๋าให้ เมื่อเช็คอินเรียบร้อย เราเห็นเวลาเหลือเยอะก็ออกไปซื้อของฝากด้านนอก
กลับมาที่สนามบินอีกเวลา 11 : 00 โมง มาถึงสัก 10 นาที ไฟก็ดับพอดี เราก็เลยเดินเข้าไปรอในห้องพักผู้โดยสาร เวลา 11 : 20 เห็นจะได้ เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ขึ้นเครื่องที่ประตูหมายเลข 4 เครื่องก็ออกตามเวลาปกติทั้งที่ฝนตกด้วย
ถึง สุวรรณภูมิ บ่ายโมงนิดๆๆๆ พอลงจอดสนิทก็มีรถมารับไปส่งที่รับกระเป๋า
รอรับกระเป๋าประมาณ 30 นาที เห็นจะได้ กระเป๋าก็เริ่ม ทยอยไหลมา ทีละใบ ทีละใบ สักพักกระเป๋าเราก็มา ระหว่างรอ เราถ่ายรูปกระเป๋าเล่นๆ ไว้ด้วย (ไม่คิดว่าจะได้ใช้)
แต่พอเอากระเป๋ามาเอ๊ะ ตัวล็อคหาย (พอดีกระเป๋าตัวล๊อคชำรุด) วันนี้เลยเอาคลิปมาล๊อคไว้ แต่ยังไม่สงสัยว่า เงิน ในกระเป๋าเดินทางจะหาย ก็เอากระเป๋าใส่รถเข็น ไปกดคิวเรียกแท็กซี่ มาถึงบ้านก็ทำการสำรวจกระเป๋า เอาเสื้อผ้าออก ของกินที่เอามาจากบ้าน แต่เอ๊ะ วันนี้ทำไหมตังเหรียญหล่นนอกกระเป๋าหน่อเลยเปิดกระเป๋า เอาอีก นามบัตร บัตรต่างๆ ทำไหมมันหลุดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ พับไปมา (คิดในใจ) สงสัยวันนี้เจ้าหน้าที่จะโยนกระเป๋าเราแรงไปนะ ถึงขั้นเหรียญกระจาย เปิดไปอีกค่ะ
*** สิ่งที่พบกับสิ่งที่คิด เอาแล้วไงละวันนี้โดนกับตัวเลย เงินหายเกลี้ยง ทั้งที่แอบเก็บไว้ในซอกกระเป๋า (เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน) ไอ้นอกกระเป๋าไม่ต้องพูดถึงค่ะ มันไม่มีเหลือให้หรอกค่ะ เอาละค่ะเมื่อเกิดเรื่องก็ ไลน์ไปบอกแม่กับน้อง ก่อนเป็นอันดับแรก
แล้วก็โทรไปบางกอกแอร์เวย์ 1771 กด 1 กด 1 กด 4 (แจ้งเรื่องอื่น)
แล้วเราก็อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่รับสายบางกอกเลยให้เบอร์โทรสำหรับแจ้งของหายเป็นของบางกอกเอง
T : 02-134-3961 เราก็โทรไปแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้าหน้าที่เลยให้ส่งเอกสารเพื่อยืนยันดังนี้
1.บัตรโดยสาร
2.Tag ติดกระเป๋า
3.บัตรประชาชน
4.ข้อมูลที่สามารถติดต่อผู้เดินทางได้
แล้วส่งไปที่อีเมลล์ bkkllpg@bangkokair.com
หลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งอีเมลล์ไปเวลา 15 : 30 นาที
เวลา 19 : 22 นาทีก็มีเจ้าหน้าจากบางกอกแอร์เวย์ติดต่อมาแจ้งว่าทางเราได้รับข้อมูลที่ผู้โดยสารแจ้งแล้ว
ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 1 อาทิตย์ เราก็บอกว่าโอเค เข้าใจ Process และเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะได้การซ่อมตัวล๊อคกระเป๋าให้ เราก็บอกว่าขอบคุณค่ะ …จบการสนทนา….
****สถานการณ์ตอนนี้ก็รอค่ะประมาณ วันอาทิตย์จะติดต่อไปอีกที ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าคืบหน้า***
ส่วนน้องเราช่วยประสานงานไปทางสนามบินกระบี่ ทางเจ้าของสนามบินแจ้งว่าต้องให้เจ้าตัวมายืนเรื่องหรือมอบอำนาจ ซึ่งเราไม่สะดวกที่จะเดินทางไปแน่นอน ถ้ามอบอำนาจก็คงต้องเป็นแม่ ซึ่งก็คงไม่ทำเพราะลำบากแม่อีก
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็พอจะสรุปได้ดังนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่มาอ่านเจอบ้าง
- ของมีค่าทุกสิ่งอย่างควรติดตัวไว้เลย (นี่คิดว่าไว้ในซอกเสื้อผ้า ป่นๆ มากับผัก ปลาที่แม่เตรียมให้ ยังหาเจออีก) เราไม่น่าพลาดเลย แต่ในใจก็คิดนะค่ะว่าถ้าไม่ผ่านเครื่องสแกนที่เห็นของข้างในหมดคงหาเจอได้ยาก *** มโนเองนะค่ะไม่ได้ฟันธง ว่าหายที่ไหน แค่คาดเดาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- รูปตอนเปิดกระเป๋าไม่ได้ถ่าย มัวแต่ หากระเป๋าสตางค์และหาตังในกระเป๋า เลยไม่ได้ถ่ายไว้เลย
*** เราคิดว่าเงินที่หายไป คงได้กลับมายาก แต่อยากฝากทางสายการบินและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งที่ต้นทาง สนามบินกระบี่ และปลายทางที่สุวรรณภูมิ ที่เครื่องสแกนกระเป๋า หรือส่วนไหนๆ ก็แล้วแต่ที่มีส่วนร่วมให้ช่วยดูแลสอดส่อง เรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สินของผู้เดินทาง ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารท่านอื่นๆ ที่เดินทางมา เพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว อยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวแล้วเกิดความประทับใจ บอกต่อแล้วก็อยากกลับมาเที่ยวอีก