ยุคนี้ถ้าคิดจะซื้อทีวีใหม่ ฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็น digital tv ที่ให้ภาพใสกริ๊งคมกริ๊บเหมือนดูจากแผ่นบลูเรย์ ยิ่งเข้าอินเตอร์เน็ตได้ด้วยก็ยิ่งดี เพราะอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งที่รวบรวมคอนเทนต์สื่อต่างๆไว้มากมาย ทั้งเพลง ภาพยนตร์ ฯลฯ โดยเฉพาะยูทูป ถ้ามาอยู่บนทีวีล่ะก็ คงจะไม่อยากลุกไปไหนเลย ก็แหม มีรายการโปรดให้เราดูทั้งวันทุกวันแบบนี้...
เอาเป็นว่า เข้าเรื่องกันดีกว่า คือเมื่อประมาณเดือนก่อน ทีวีที่บ้านผมเกิดมีปัญหาขึ้นมา ช่างมาซ่อมกี่รอบก็ไม่หาย เลยตัดสินใจซื้อใหม่ซะเลย ตอนนั้นผมก็คิดหนักเลยว่าจะเอารุ่นไหนดี เพราะไหนๆจะซื้อใหม่ ก็ให้มันทันยุคทันสมัยหน่อย full HD อะไร มันตกยุคแล้ว ยุคนี้มันยุคของ Ultra HD ยุคที่ทีวีจะคมชัดเหมือนของจริงเลยล่ะ (fast forward มาตอนซื้อเสร็จแล้วละกัน ขก พิมพ์เยอะ
) สุดท้ายก็มาจบลงที่รุ่นนี้ จอใหญ่ คมหริบ ด้วยความละเอียด 3840x2160 ชัดกว่า Full HD ถึง 4 เท่า แต่นั่นก็ป็นเพียงคำโฆษณาของคนอยากขายของเท่านั้น ว่าแต่มันจะดีกว่าทีวีตัวเก่ายังไงนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตัวนี้ซื้อมาใช้แทน Full HD 42" LCD TV ของโตชิบา รุ่นประมาณปี 2005 รุ่นนั้นมีเมนูภาษาไทย ปรับเสียง bass/treble ได้ ปรับความสว่างของภาพได้ ลำโพงก็อยู่ด้านหน้า เปิดเสียงแค่นิดเดียวก็ดังแล้ว และอีกอย่าง รีโมทตอบสนองเร็วใช้ได้เลย ก็เลยคิดว่าจะใช้ทีวีตัวเก่าเป็นมาตรฐานละกันนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันดับแรก ความคมชัด
แน่นอนว่าถ้าวัดตามสเปคแล้ว 4K ชนะใสๆ ความละเอียดก็สูงกว่า ความสว่างของภาพก็มากกว่า contrast ก็สูงกว่า แต่พอมาถึงการใช้งานจริง เมื่อระบบพบส่วนสีดำของภาพมาก จะมีการลดความสว่างของหน้าจอลง ทำให้ภาพดูจางๆลงไป แต่ถ้าเวลาดูในที่มืด จะไม่มีการลดความสว่างลงมาให้เหมาะสมกับสภาวะแสงในห้อง จึงทำให้แสบตาเอามากๆ วิธีการแก้ไขคืออย่าปิดไฟเวลาดูทีวี หรือปรับระดับความสว่างของจอลงมา
ลำดับต่อไป ความฉลาด
อันนี้ขอเทียบกับ smart tv ตัวอื่นในท้องตลาดแล้วกันนะ คือแน่นอนว่าชื่อมันคือ smart tv มันต้องทำอะไรได้มากกว่าแค่เข้าเน็ตฯได้สิ ไม่งั้นก็คงจะต้องเรียกว่า Internet TV ซะแล้วหล่ะ เปิดมาก็ขอติเลยแล้วกันนะ UI ส่วนใหญ่ดูเป็นทีวี แต่จริงๆแล้วไส้ในก็เป็น android ธรรมดาเนี่ยแหละ ถึงจะลงแอพฯทีวีได้ "บางตัว" ก็เถอะ ถึงอย่างงั้นแล้ว แอพฯสำคัญๆสำหรับทีวีอย่าง Netflix for TV, Google for TV หรือแม้แต่ Android TV Launcher ก็ลงไม่ได้
แต่เอาเถอะ ถึงยังไงก็มีแอพฯ YouTube มาให้...[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้ง 2 ตัว เพื่อ!?!? แต่ปัญหาก็บังเกิดขึ้นอย่างจริงจัง เพราะรีโมทไม่มีไมโครโฟน ทำให้ใช้ฟีเจอร์ voice input ของ android ไม่ได้ ไม่มีฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดมาให้ แถมรีโมทแบบสมาร์ทๆเหมือนของ LG ที่เป็นเมาส์ได้ก็ไม่มี ก็เลยต้องใช้ปุ่ม ขึ้น/ลง,ซ้าย/ขวา,OK พิมพ์เอา แต่ก็ยังดีที่ wireless mouse/keyboard ใช้ได้ ก็เลยต้องสละของคอมฯตัวเองมาต่อทีวี เพื่อความสะดวก(ของตัวเอง)
อันนี้ สมาร์ททีวีทุกตัวต้องมีอย่างแน่นอน คือการเชื่อมต่อ(รวมถึง internet ด้วย)
ทีวีตัวนี้มี port มาให้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะพอต่อการใช้งาน พื้นฐานเลยก็มี ac in (ปลั๊กไฟเข้า), TV aerial (ช่องต่อเสาอากาศ), RCA (ช่องต่อ AV), HDMI ส่วนที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้ามีก็จะดีมากๆเลยก็คือ USB และ RJ45 (LAN) ที่บอกว่า LAN ไม่ค่อยจำเป็นก็เพราะว่าปกติต่อ wifi อยู่แล้ว ถ้ามีก็จะดีมากๆเลยก็คือมันให้การเชื่อมต่อที่สเถียรกว่าและไม่ต้องใส่รหัสผ่าน
เนื้อหาแบบ เต็มความละเอียด
แน่นอนว่าหาได้ยาก เพราะ
1. ไฟล์ใหญ่ กินพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเยอะ
2. ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลยังไม่ถึงจุดที่จะดูได้โดยไม่กระตุก
และด้วยความที่ทีวีเครื่องนี้ ไม่รองรับแอพฯ netflix ที่มีหนัง 4K มากมาย, YouTube ที่ pre-installed มาในเครื่องก็รองรับแค่ 720p แต่ยังดีที่ใน play store มีแอพฯยูทูปที่ดูแบบ 1080p ได้ แต่ก็ยังไม่เต็มความละเอียดอยู่ดี ช่องทางที่จะดูแบบเต็มความละเอียดได้คงเหลือแค่ HDMI และ USB3.0 เท่านั้น
ด่านสุดท้าย design
ดูเหมือนว่าถ้าเทียบกับทีวีตัวเก่าแล้ว ตัวนี้ดูดีกว่าพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้วก็ยังตามหลังหลายก้าวอยู่
เริ่มจากอันดับแรก first impression บอดี้เป็นพลาสติกเงา จอเงา(glossy) ขาตั้งด้าน(matte) เวลาปิดมีไฟเล็กๆขึ้นตรงโลโก้ด้วย ให้รู้ว่า ยังมีไฟเข้าอยู่นะ ก็ถือว่าโอเค ไม่ได้หรูหราแบบซัมซุงตัวท๊อป แต่ก็ดูสมราคาดี
ต่อไป มาที่ User Interface เปิดเครื่องขึ้นมาใช้เวลาบูทนานมาก (ประมาณ 30 วินาที) ซึ่งปกติแล้ว ทีวีควรจะขึ้นมาภายใน 3 วินาที เมนูก็พื้นๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ มีแค่หน้า video, movie, tv และก็ apps ซึ่ง 2 หน้าแรก เป็นเนื้อหาที่ดึงมาจาก YouTube 720p หน้า settings อันนี้ถือว่าทำได้ดี เพราะขึ้นมา overlay หน้าเมนูกับหน้าดูทีวีเลย (แต่ถ้านอกจาก 2 หน้านี้แล้วก็จะเรียกเมนูไม่ขึ้น ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นกับทีวี) มาต่อที่หน้า EPG หรือ electronic program guide ที่แปลเป็นภาษาไทยอย่างง่ายๆว่าตารางรายการทีวี มันขึ้นมาทับหน้าทีวีมิดเลย ซึ่งหน้า epg ที่ดี ควรให้เห็นภาพรายการที่ดูอยู่ด้วย
ลำดับต่อมา ไปที่การควบคุมกันดีกว่า ก็อย่างที่ว่า รีโมท เป็นรีโมทปกติมาตรฐานธรรมดา ดูภายนอกมันก็สวยดี แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ลองนึกเวลาเราดูทีวี เรามองรีโมกก่อนจะกดปุ่มกี่ครั้ง แล้วการที่ปุ่มแทบจะทุกปุ่มมีรูปทรงคล้ายกัน ทำให้การใช้งานไม่สะดวกเอาซะเลย นอกจากนั้น ด้วยความที่รีโมทมีรูปทรงที่ยาว ทำให้การเอื้อมนิ้วไปกดปุ่ม power ด้วยมือเดียวยากขึ้น และการที่รูปทรงมันแทบจะสมมาตร จึงทำให้การที่เราจะแยกว่าด้านไหนด้านบน ด้านไหนด้านล่าง ทำได้ยากขึ้น นอกจากนั้น การที่มีปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องปุ่มเดียว(ที่รวมปุ่มขึ้นลงซ้ายขวาและโอเคไว้ด้วยกัน) ทำให้สถานการณ์ที่เลวร้าย ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก เพราะมันไม่มีปุ่ม power แยก ทำให้เวลาที่เครื่องค้าง เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากรอให้มันหายค้างเอง หรือไม่ก็กระตุกปลั๊กออก ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำให้ภาพรวมการใช้งานทีวีรุ่นนี้ "ค่อนข้างน่ารำคาญ" ถึงบางคนจะมองว่า จขกท จุกจิกมากไปหน่อยหรือเปล่ากับเรื่องเล็กๆแค่นี้ แต่การออกแบบที่ดีมันก็ทำให้อะไรๆง่ายขึ้นนะ
สุดท้าย มาที่ I/O interface เป็นความขี้เกียจส่วนตัว ที่เห็นว่าการที่ port ทุกอย่างอยู่หลังตัวเครื่องมันดูวุ่นวายเกินไปและเข้าถึงค่อนข้างยาก แต่มันก็เป็นความท้าทายของผู้ผลิตทีวีเองแหละที่จะต้องทำให้มันเข้าถึงง่ายและไม่สะดุดตามากเกินไป โอเค พวกช่องต่อสายไฟเข้า, สายเอวี/ทีวี, เอชดีเอ็มไอ จะอยู่ข้างหลัง เพราะมันแทบจะไม่ได้ถอดเลย หรืออย่างมาก เปลี่ยนเครื่องเล่น DVD/Blu-ray หรือ set top box อาจจะนานๆที แต่พวก USB ที่ถอดเข้าถอดออกเป็นประจำและไม่ใช่เสียบข้างไหนก็ได้เหมือน USB-C การที่มันอยู่หลังเครื่องจึงดูเหมือนจะไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีนัก แต่ก็เข้าใจว่านอกจากตรงนั้นก็ไม่รู้ว่าจะซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก มันก็เลยต้องอยู่ตรงนั้น
ขออนุญาตยืมรูปมาจากในเน็ตนะ เพราะที่บ้านแสงไม่ค่อยมี กล้องมือถือก็ไม่ค่อยดี เลยเห็นทรงของตัวทีวีไม่ค่อยชัด
เอาหล่ะ มาสรุปคะแนนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สูงสุด +0.5 ปานกลาง 0 ต่ำสุด -0.5 ทั้งแดนบวกและลบ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 0.1, 0.25 และ 0.5
เริ่มต้นมี 5 คะแนน จากทั้งหมด 10 คะแนน คะแนนจะถูกคำนวนออกมาเพื่อเพิ่มหรือลดจากคะแนนเริ่มต้นอย่างเหมาะสม
มาเริ่มกันที่ หมวดหน้าจอ แบ่งออกเป็น 6 หัวข้อ
ความคมชัด: +0.25
ความลื่นไหลของภาพ: +0.25
ความสว่างของภาพ: +0.25
ความแตกต่างของสี: +0.25
ความสดของสี: +0.5
การสะท้อนแสงของจอภาพ: -0.1
คะแนนรวม +1.4 จาก 3 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพจากเสาอากาศดิจิทัลและแอพพลิเคชั่นภายในเครื่องสีสดดี แต่ถ้ามาจากแหล่งอื่นสีจะจืดลง ความดำของสียังดำไม่สนิท แต่ถือว่าทำได้ดี เนื่องจากจอเป็นแบบ glossy จึงมีเงาสะท้อน
มาต่อที่หมวด software และ content แบ่งออกเป็น 6 หัวข้อ
ความง่ายในการใช้งาน: -0.5
ความหลากหลายของเนื้อหา: -0.1
คุณภาพของเนื้อหา: -0.25
ความเหมาะสมของรูปแบบเนื้อหา: 0
ความครบถ้วนของการตั้งค่า: -0.1
ความสวยงามของเมนู: +0.1
คะแนนรวม -0.85 จาก 3 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แหล่งเนื้อหาเต็มความละเอียดยังไม่มี หากต้องการรับชบแบบ 4K UHD จะต้องต่อ HDMI หรือ USB เท่านั้น โปรแกรมเล่นสื่อยังไม่รองรับไฟล์ยอดนิยมบางประเภท เมนูต่างๆควรวางทับแบบ overlay เนื้อหาที่รับชมอยู่ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีขึ้น การตั้งค่าของระบบยังไม่ครบถ้วน ควรแยกการตั้งค่าด่วนกับหน้าการตั้งค่าแบบสมบูรณ์ออกจากกัน แอพฯบางตัวที่ไม่จำเป็นไม่สามารถถอนการติดตั้งได้ และแอพฯบองตัวที่จำเป็น ไม่สามารถติดตั้งได้
ต่อไป หมวด hardware แบ่งเป็น 4 หัวข้อ
การเชื่อมต่อ: +0.25
หน่วยความจำภายในเครื่อง: -0.25
ระบบเสียง: 0
ความสวยงามของตัวเครื่องและรีโมท: +0.1
คะแนนรวม +0.1 จากทั้งหมด 2 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่องการเชื่อมต่อให้มาค่อนข้างครบ แต่ไม่มีระบบ dlna และ mhl ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งสื่อจากอุปกรณ์พกพาขึ้นจอทีวี หน่วยความจำให้มาแค่ 6 GB นิดๆ ไม่เหมาะที่จะเก็บเนื้อหาแบบ Ultra HD จึงแนะนำให้หาพื้นที่จัดเก็บภายนอกอย่างน้อย 250 GB ระบบเสียงโอเค แต่บางครั้งก็เบาเกินไป ตัวเครื่องออกแบบดี แต่รีโมทดูแล้วทำให้สับสน ออกแบบไม่เข้ากับการใช้งานตามหลักสรีระของมนุษย์ (ยาวเกินไป)
สุดท้าย หมวดประสบการณ์การใช้งาน (User Experience) แบ่งเป็น 4 หัวข้อ
ความรวดเร็วในการสั่งงาน: -0.25
ความสะดวกสบายในการควบคุม: -0.5
ความต่อเนื่องกันของเนื้อหาที่รับชมอยู่: -0.1
ความง่ายในการเข้าถึงช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก: 0
คะแนนรวม -0.85 จากทั้งหมด 2 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดเครื่องช้า การสั่งงานทางรีโมทมีความหน่วง(delay) เนื่องจากการออกแบบรีโมทมีการให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริง ทำให้บางครั้งอาจสับสนและใช้เวลาหาปุ่มที่ต้องการนานกว่าปกติ เวลาเปลี่ยนจากหน้าดูทีวีมาที่หน้าโฮมหรือหน้าตารางรายการ(epg) ไม่แสดงภาพรายการที่ชมอยู่ พอร์ทต่างๆเข้าถึงยาก เนื่องจากอยู่หลังจอ ทำให้ต้องใช้เวลามากในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ แอพพลิเคชั่น nScreen บน iOS ของ TCL เองก็ไม่สามารถใช้ควบคุมหรือส่งสื่อขึ้นทีวีได้เหมือนที่โฆษณาไว้ แม้กระทั่งเชื่อมต่ออยู่ใน wifi วงเดียวกัน
ภาพรวม: 5.075/10 (ไม่ต่างกับทีวีทั่วไป) บางทีทีวีทั่วไปอาจจะใช้ง่ายกว่า แต่ก็อย่างว่า ได้อย่างเสียอย่างแหละ
[CR] รีวิว TCL E5900 series 4K smart TV
เอาเป็นว่า เข้าเรื่องกันดีกว่า คือเมื่อประมาณเดือนก่อน ทีวีที่บ้านผมเกิดมีปัญหาขึ้นมา ช่างมาซ่อมกี่รอบก็ไม่หาย เลยตัดสินใจซื้อใหม่ซะเลย ตอนนั้นผมก็คิดหนักเลยว่าจะเอารุ่นไหนดี เพราะไหนๆจะซื้อใหม่ ก็ให้มันทันยุคทันสมัยหน่อย full HD อะไร มันตกยุคแล้ว ยุคนี้มันยุคของ Ultra HD ยุคที่ทีวีจะคมชัดเหมือนของจริงเลยล่ะ (fast forward มาตอนซื้อเสร็จแล้วละกัน ขก พิมพ์เยอะ ) สุดท้ายก็มาจบลงที่รุ่นนี้ จอใหญ่ คมหริบ ด้วยความละเอียด 3840x2160 ชัดกว่า Full HD ถึง 4 เท่า แต่นั่นก็ป็นเพียงคำโฆษณาของคนอยากขายของเท่านั้น ว่าแต่มันจะดีกว่าทีวีตัวเก่ายังไงนะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขออนุญาตยืมรูปมาจากในเน็ตนะ เพราะที่บ้านแสงไม่ค่อยมี กล้องมือถือก็ไม่ค่อยดี เลยเห็นทรงของตัวทีวีไม่ค่อยชัด
เอาหล่ะ มาสรุปคะแนนกัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาเริ่มกันที่ หมวดหน้าจอ แบ่งออกเป็น 6 หัวข้อ
ความคมชัด: +0.25
ความลื่นไหลของภาพ: +0.25
ความสว่างของภาพ: +0.25
ความแตกต่างของสี: +0.25
ความสดของสี: +0.5
การสะท้อนแสงของจอภาพ: -0.1
คะแนนรวม +1.4 จาก 3 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาต่อที่หมวด software และ content แบ่งออกเป็น 6 หัวข้อ
ความง่ายในการใช้งาน: -0.5
ความหลากหลายของเนื้อหา: -0.1
คุณภาพของเนื้อหา: -0.25
ความเหมาะสมของรูปแบบเนื้อหา: 0
ความครบถ้วนของการตั้งค่า: -0.1
ความสวยงามของเมนู: +0.1
คะแนนรวม -0.85 จาก 3 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต่อไป หมวด hardware แบ่งเป็น 4 หัวข้อ
การเชื่อมต่อ: +0.25
หน่วยความจำภายในเครื่อง: -0.25
ระบบเสียง: 0
ความสวยงามของตัวเครื่องและรีโมท: +0.1
คะแนนรวม +0.1 จากทั้งหมด 2 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้าย หมวดประสบการณ์การใช้งาน (User Experience) แบ่งเป็น 4 หัวข้อ
ความรวดเร็วในการสั่งงาน: -0.25
ความสะดวกสบายในการควบคุม: -0.5
ความต่อเนื่องกันของเนื้อหาที่รับชมอยู่: -0.1
ความง่ายในการเข้าถึงช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก: 0
คะแนนรวม -0.85 จากทั้งหมด 2 คะแนน
ความคิดเห็น จขกท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพรวม: 5.075/10 (ไม่ต่างกับทีวีทั่วไป) บางทีทีวีทั่วไปอาจจะใช้ง่ายกว่า แต่ก็อย่างว่า ได้อย่างเสียอย่างแหละ