[CR] SIGHT / EAT / CHILL : แบกเป้ลุย ‘ปีนัง’ เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่สตรีทอาร์ต



'ปีนัง' เมืองนี้.. ต้องยอมในชื่อเสียงความฮิป ความเป็นเมืองแห่งศิลปะของเขาจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นตามซอกตึกเอย ข้างถนน บนกำแพง  เอาเป็นว่าจากข้อมูลที่อ่านมาเนี้ยคือรู้ตัวแล้วแหละ ว่าแบตกล้องก้อนเดียวไม่น่าจะพอ

ทริปนี้เราไปอยู่ปีนังมาทั้งหมดสี่วันสามคืนค่ะ  นอกจากขนพร๊อพไปถ่ายรูป ประหนึ่งว่าจะไปเดินแบบแล้ว
เรายังไปตะลุยกิน หาร้านน่ารักๆเข้า ไปเดินป่าไปทะเลกันมาด้วย เที่ยวซะคุ้มทู๊กกวัน

พอหลังจากกลับมาเนี้ย ก็รู้สึกว่าเอ๊อะ ปีนังมันก็ต่างจากตอนแรกที่เราคิดเหมือนกันนะ
วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังว่า ปีนังมีอะไรให้ทำอีกบ้างนอกจากเดินตามหาสตรีทอาร์ต เพื่อใครเป็นสายธรรมชาติ
สายนั่งชิล สายกินสายคาเฟ่ จะได้เก็บ 'ปีนัง' เอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการออกเดินทางกัน

------------------------------------------------------

DAY 1
จากกรุงเทพ เรานั่งเครื่องบินมาลงหาดใหญ่ เที่ยวอยู่หาดใหญ่หนึ่งวัน
แล้วก็ค่อยนั่งรถตู้ของ KST ไปต่อปีนัง รถตู้ใช้เวลาเดินทาง 4-6 ชั่วโมง
ราคาไปกลับ 830 บาท มีรอบ 09.30,12.30,15.30 น.

เรามาถึงปีนังตอนประมาณสี่โมงเย็น ( เวลาที่นี่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะ)
รถตู้ส่งถึงหน้าที่พักเลย คืนแรกเราพักกันที่ Wassup Youth Hostel
โฮสเทลราคาถูกแต่ทำเลดี อยู่ใกล้ตึกคอมตาร์เลย
คืนละ 290  บาทนอนห้องละสี่คน ห้องน้ำรวมต่อห้องค่ะ สะอาดมากกโอเคเลย

พอเก็บของเสร็จ เราก็เริ่มเดินสำรวจปีนังกัน
ที่แรกในลิสต์ก็คือ Hin Bus Depot Centre ที่นี่เป็นเหมือนอาคารร้างๆ
ที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะ และนิทรรศการที่หมุนเวียนกันมาจัด




นอกจากรูปวาดใหญ่ๆดังๆแล้ว ตามพวกประตูห้องน้ำ กำแพง
หลืบเล็กๆ ก็จะมีภาพวาดอื่นๆอยู่ด้วย ลองสอดส่องกันดูนะ เพื่อจะเจออันเด็ดๆ
ถ้าสายคาเฟ่มา ที่นี่ก็มีร้านกาแฟเล็กๆตั้งอยู่ข้างในด้วย




จบจากที่นี่เราก็เดินไปต่อที่ตึกคอมต้าร์ เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์ไปปีนังฮิลล์
ถ้าอาร์ตแกลอรี่ที่เราไปเมื่อกี้เป็นเหมือนศูนย์รวมศิลปะ ตึกคอมตาร์ก็เป็นเหมือนศูนย์รวมรถเมล์
ใครจะออกนอกเมือง นั่งรถเมล์ไปไหน ให้มาเริ่มต้นที่คอมตาร์ก็ได้
(รถเมล์เกือบส่วนใหญ่จะผ่านที่นี่กันทั้งนั้น)

Penang Hill ต้องนั่งรถเมล์สาย 204 ออกนอกเมืองไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ค่ารถ 2 RM นั่งไปสุดสายนู่นเลยยยย ถ้าเริ่มเห็นภูเขาเขียวๆอยู่ใกล้เมื่อไหร่
ก็นั่นแหละแสดงว่าใกล้จะถึงแล้ว

ก่อนจะถึงปีนังฮิลล์จะรถผ่านวัด Kek Lok Si วัดชื่อดังของปีนังด้วย
ใครพอมีเวลาก็แวะก่อน แล้วค่อยต่อรถใหม่อีกรอบ แต่เราขอผ่านไปก่อนนนจ้า



พอมาถึง เราก็ต้องไปซื้อตั๋วรถรางเพื่อขึ้นไปข้างบนปีนังฮิลล์อีกที
ปกติก็คนละ 30 RM แต่ถ้าเป็นนักเรียนอยู่ก็โชว์บัตรโลด เหลือคนละ 15 RM เท่านั้น
คุ้มมาก!

หนทางยังอีกยาวไกล ซื้อบัตรเสร็จเราก็เดินเข้าไปต่อคิวขึ้นรถรางกัน
อีเจ้ารถรางนี่มารอบละครึ่งชั่วโมง ยืนกร่อยกันไปเพราะอีกคันเพิ่งออก พอมาปุ๊ปฝันสลาย
อ่านมาอย่างดีว่าจะต้องไปยืนตรงไหนถึงจะสวย ตรงไหนจะเห็นวิวชัด

เรานี่ก็เตรียมพร้อมแย่งชิงเต็มที่ กะว่าที่นั่งตรงหัวขบวนต้องเป็นของเราแน่!!
แต่เสียใจด้วยค่ะ กว่าแถวจะรันมาถึง คืออย่าว่าแต่หาที่นั่ง แค่หาที่ว่างยัดตัวเข้าไปยังลำบากเลย
คนเยอะมากกกเต็มทุกตู้

แต่ถ้าใครทุ่มทุนก็ไปซื้อตั๋ว fast lane นะ ได้ขึ้นก่อน แต่ราคาก็เบิ้ลเป็นเท่าตัว




ระหว่างทางขึ้นคือชันมาก และอีรถรางก็วิ่งเร็วมากเหลือเกิน อารมณ์ชั่ววูบนี่คิดว่าเล่นรถไฟเหาะอยู่
แล้วตอนนั้นคือได้ยืน ข้างหลังเบียด หน้าก็ชิดกระจกไปอีกกกกก โอ้ยยเสียววูบ

แต่พอได้ขึ้นมาแล้ว โอโหหหหหหหหหห้
ตอนแรกเราก็กะมางั้นๆ เห็นว่าใครๆเขาก็มากันเนอะ แต่พอ ป๊ะกับวิวข้างบนเข้าให้
คือดีมากกกกกกกก เห็นปีนังแบบทั่วเมืองเลย อากาศเย็นนิดๆ คุ้มมากกับค่าตั๋วที่เสียไป





นอกจากการมายืนดูเมืองปีนังจากมุมสูงกันแล้ว ข้างบนนี้มีก็ยังมีอย่างอื่นให้ทำด้วย
ทั้งเดินไปวัด สวนสมุนไพร พิพิธภัณฑ์ ถ่ายรูปกับสัตว์ จุดดูวิวที่ 123 ก็ว่ากันไป
แต่ละที่ก็ใกล้บ้าง ไกล ไกลมากต่างกันไป ถ้าใครอยากดูให้ครบแต่ขี้เกียจเดิน
ข้างบนก็มีรถกอล์ฟรับจ้างอยู่นะจ๊ะ

ส่วนเราถึงจะไม่ใช่สายวัดเท่าไหร่ แต่คราวนี้ขอเลือกไปวัดจ้าาาาา
วันอินเดียที่อยู่ใกล้ๆ แบบเดินไม่ไกลไม่ต้องจ้างรถกอล์ฟ
ขึ้นไปเขากำลังทำพิธีอะไรสักอย่างกันอยู่





ร้านอาหารข้างบนก็มีนะ น้ำปั่นน้ำขวดจะอยู่แถวตรงสะพานที่มีพวงกุญแจคล้องเยอะๆแบบเกาหลี
พวกน้ำราคาก็แพงกว่าข้างล่างนิดหน่อย ส่วนอาหารนี่คือเราไปตอนเย็น ร้านก็เลยทยอยปิดกันไปหมดและ
แต่คนข้างบนปีนังฮิลล์ก็ยังเยอะอยู่นะคะ

ที่เราเลือกมาตอนเย็นเพราะอยากมาดูพระอาทิตย์ตกข้างบน แล้วก็เมืองปีนังยามค่ำคืน
แต่ว่าอยู่ทันแค่พระอาทิตย์ตกค่ะ แหะๆ แพ้ความหิวเลยรีบลงมากันก่อน




กว่าจะกลับถึงโฮสเทลได้ ก็ปาไปเกือบสองทุ่ม
แถวโฮสเทลนี่ใกล้ตึกคอมตาร์ก็จริง แต่หาร้านกินข้าวแบบทั่วไปยากมาก
มีแค่ร้านขายของชำที่อยู่ติดกับโฮสเทล

เราต้องเดินไปแถวทูนโฮเทลเลยค่ะ ถึงจะเจอร้านกินข้าวอยู่สามสี่ร้าน
ใครไปคนเดียวก็ไม่แนะนำนะ ทางมันติดถนนก็จริงแต่มืดมากเพราะร้านข้างทางนี่ปิดหมด

และนี่คือเมนูแรกที่ปีนัง ผ่างงงงงง Nasi Kandar คล้ายๆข้าวแกงนี่แหละ
วิธีสั่งก็คือ เอาไรก็ชี้ๆบอกเขาเลย ด้วยความโลภชี้ไปสามอย่าง ปลาหมึก เนื้อ ไก่
โป๊ะ จานแรกโดนไป 15RM แอบสะดุ้งกับราคา แต่ก็คุ้มนะอิ่มมากก


ชื่อสินค้า:   ปีนัง-จอร์จทาวน์ มาเลเซีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่