“ปีนัง” เมืองนี้ได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ แถมตอนนั้นยังเป็นเด็กติดละครมากกก ปิดเทอมต้องนอนดูละครเรื่องนางอายทุกวัน นางเอกไปเรียนที่ปีนัง แต่เราก็ไม่รู้อยู่มุมไหนของโลก พอโตมาถึงได้รู้ว่า อ๋อ..อยู่มาเลเซียใกล้ๆแค่นี้เอง จนเวลาผ่านมา ได้เวลาอันสมควร จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถตู้ไปปีนังกันเลยแล้วกัน!!! ก่อนไปก็ฟังแม่สวดไป 1 ชุดใหญ่ @#$%^&*()_
เริ่มต้นออกเดินทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ไฟล์ท 7:45น. ไปถึงหาดใหญ่ ประมาณ 9:30น. ออกมาจากสนามบิน ก็จะเจอรถตู้ รถแท๊กซี่เชิญชวนเราขึ้นกันมากมาย แต่ด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ เราเดินตรงออกไปขึ้นรถสองแถวไปลงแถวตลาดกิมหยง เพื่อที่จะไปต่อรถตู้ไปปีนังที่นั่น
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเลยเดินไปหาของกินขึ้นชื่อของหาดใหญ่นั่นก็คือ“คอหนัง แต้แตี๊ยม”
หนังท้องตึงได้ที่ เราก็เดินกลับมารอรถตู้เข้าเมืองปีนังกัน หลังจากขึ้นรถก็หลับยาวๆเลยจ้าาา ตื่นมาอีกทีก็ถึงด่านสะเดา เลยไปอีกหน่อยก็เป็นด่านมาเลเซียแล้วจ้าปรับเวลาให้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงได้เลย พอขึ้นรถไปซักแป๊ป รถตู้ก็จะจอดพักรถ ใครหิวข้าว ใครอยากแลกเงิน ซื้มซิมโทรศัพท์ ก็ทำตรงนี้ได้เลย
หลับกันมายาวๆในที่สุดก็ถึงปีนังแล้วววว เวลาที่นู่นก็เกือบ 6 โมงแล้ว แต่แสงแดดยังสาดส่องมากๆ คนที่ปันังก็คล้ายๆคนไทยนะ ยังนิยมขับรถเอง รถตู้มาส่งที่หน้าโรงแรมพอดี เราพักที่ Tune Hotel ห่างจากใจกลางเมืองนิดหน่อย แต่ก็เดินไปได้
หลังจากเก็บของเรียบร้อยที่แรกที่ไปคือ Gurney drive เป็นที่ๆติดทะเล มีห้างขายของแบรนด์เนม แล้วก็ถนนของกินตลาดโต้รุ่ง
เราออกมายืนรอรถเมล์แถวโรงแรม เดินมาตรงข้ามร้าน young one ค่ารถ 1.40 RM ถ้าจะขึ้นรถเมล์เตรียมเงินให้พร้อมนะเพราะเค้าจะไม่มีทอน ขึ้นรถไปก็บอกคนขับ จ่านเงิน แล้วก็ได้ตั๋วรถเมล์มา หน้าตาแบบนี้!!
พอถึงที่ คนขับรถเค้าจะตะโกนบอกเรา เสร็จแล้วก็ข้ามถนน เดินผ่านห้างออกไปริมทะเล เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะพบของกินระรานตามากกก
ขากลับก็เดินผ่านห้าง ข้ามถนนแล้วก็เดินยาวๆไปจนโผล่ถนนอีกเส้น เพื่อนั่งรถเมล์กลับ
วันที่ 2 เป็นวันที่แพลนเที่ยวเรากับเพื่อนเยอะมากกก ตื่นแต่เช้ารีบอาบน้ำแต่งตัว เดินออกไปนอกโรงแรม ฝนตกจ้าาาาา!!!
อากาศอึมครึม ท้องฟ้ามัวหมอง โชคดีที่ฝนเพิ่งหยุดไป เราเดินไปตึก Komtar เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 204 ไป Penang Hill แต่ก่อนเที่ยวเราก็ขอกินก่อน เดินไปเจอร้านขายของที่ท่ารถเมล์ เจอข้าวห่อใบตอง ห่อกระดาษ เป็นอะไรก็ไม่รู้ เลยหยิบมากิน ผ่าง!!
รสชาติเหมือนข้าวคลุกน้ำพริก อร่อยดี มือนี้หมดไป 3.5 RM ขุ่นพระ ถูกได้อีกกก
ถึงแล้ววว Penang Hill ซื้อบัตรขึ้นรถรางไป 30 RM ราคาชาวต่างชาติ พอถึงด้านบนก็เป็นจุดชมวิว ของเมืองปีนังเกือบทั้งเมือง แต่วันที่เราไปดันอากาศไม่ดี ก็เลยถ่ายรูปมาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
มีพิพิธภัณฑ์นกฮูก ให้ใส่ชุด Harry Potter ด้วยนะ ไม่ต้องไปถึงโอซาก้า
ช่วงใกล้เที่ยงเราว่าจะไปตะลุย street art กัน นั่งรถเมล์คันเดิมไปลง Jetty ต่อพอนั่งมาเรื่อยๆ ฝนตกหนักมากกกกก เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจลง เพื่อที่จะได้กลับโรงแรมรอฝนหยุด ปรากฏว่าหนักกว่าเดิม น้ำท่วมเลยจ้าคราวนี้
พอฝนซา เราเลยถอดรองเท้าลุยน้ำเดินไปโรงแรม แล้วก็มาสะดุดกับร้านข้าวร้านนี้ พี่เจ้าของร้านก็เป็นคนไทย บวกกับความหิว เราเลยสั่งไม่ยั้ง
กินเสร็จฝนหยุด ขึ้นรถไปต่อที่ Street art กันเลยย อย่าลืมเช่าจักรยานกันนะ จะได้ไม่เสียเวลาเดิน ราคาประมาน 8 RM
ไม่พลาดที่จะตามรอยละครเรื่องนางอาย
ขากลับเดินไป Jetty นั่งรถเมล์ฟรีมาลงแถว Love Lane หาของกินอีกแล้ววว
ก๊วยเตี๊ยวหลอด Chee Choeng Fun กับอีกอย่างนึงเป็นปลาหมึกลวกกับผักบุ้ง เราจำไม่ได้จริงๆ แหะๆ
ปิดท้ายด้วย White Kerry Mee รสชาติเหมือนก๊วยเตี๋ยวในแกงมัสมั่นเลย อาหารมาเลย์เรียกว่าอร่อยทุกอย่างจริง
วันที่ 3 วันสุดท้ายแล้วววไปไหว้พระที่วัดเก็กลกสี่เป็นสิริมงคลหน่อยละกัน
เริ่มต้นที่ Komtar เช่นเดิม นั่งรถเมล์สาย 203 ราคา 2RM ไปลงที่หน้าวัดได้เลย แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปที่ตัววัด เราก็จะเจอบ่อเต่าก่อน หยุดให้อาหารกันไป คล้ายๆให้อาหารปลาสวายบ้านเรา
เจดีย์ที่วัด
แล้วก็เดินต่อไปอีก จุดเทียนขอพรพระใหญ่
ถ้าใครอยากไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ต้องนั่งรถรางขึ้นไปอีก 6 RM
ขึ้นมาก็จะเห็นความสวยงามของเจ้าแม่กวนอิม เราคิดว่าน่าจะเป็นหินอ่อน องค์ใหญ่สง่า สวยงามมากจริงๆ
ขากลับเดินตรงมาตามทางเดิน เพื่อมารอรถเมล์กลับโรงแรม สาย 201 ราคา 2 RM เหมือนเดิมพอถึงโรงแรมรถตู้ที่นัดมารับก็มาพอดี
ต้องกลับไปหาแม่แล้วนะปีนัง (T^T)
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ - หาดใหญ่ 1,990 บาท
ค่ารถตู้ไปกลับหาดใหญ่-ปีนัง 750 บาท
ค่ารถสองแถวสนามบิน - กิมหยง ไปกลับ 60 บาท
ค่าโรงแรม เรานอน Tune Hotel ประมานคนละ 300 บาท / 2คืน
ค่าติ่มซำที่หาดใหญ่ 150 บาท
ค่าเช่าจักรยาน 80 บาท
ค่ารถเมล์ รวม 3 วัน 80 บาท
ค่ารถรางขึ้น Penang Hill 300 บาท
รวมแล้ว 3,710 บาทจ้าา ยังไม่รวมของกินนะ ^^
[CR] :: หนีแม่...ไปปีนัง ด้วยงบไม่เกิน 5,000 บาท ::
เริ่มต้นออกเดินทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ไฟล์ท 7:45น. ไปถึงหาดใหญ่ ประมาณ 9:30น. ออกมาจากสนามบิน ก็จะเจอรถตู้ รถแท๊กซี่เชิญชวนเราขึ้นกันมากมาย แต่ด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ เราเดินตรงออกไปขึ้นรถสองแถวไปลงแถวตลาดกิมหยง เพื่อที่จะไปต่อรถตู้ไปปีนังที่นั่น
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเลยเดินไปหาของกินขึ้นชื่อของหาดใหญ่นั่นก็คือ“คอหนัง แต้แตี๊ยม”
หนังท้องตึงได้ที่ เราก็เดินกลับมารอรถตู้เข้าเมืองปีนังกัน หลังจากขึ้นรถก็หลับยาวๆเลยจ้าาา ตื่นมาอีกทีก็ถึงด่านสะเดา เลยไปอีกหน่อยก็เป็นด่านมาเลเซียแล้วจ้าปรับเวลาให้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงได้เลย พอขึ้นรถไปซักแป๊ป รถตู้ก็จะจอดพักรถ ใครหิวข้าว ใครอยากแลกเงิน ซื้มซิมโทรศัพท์ ก็ทำตรงนี้ได้เลย
หลับกันมายาวๆในที่สุดก็ถึงปีนังแล้วววว เวลาที่นู่นก็เกือบ 6 โมงแล้ว แต่แสงแดดยังสาดส่องมากๆ คนที่ปันังก็คล้ายๆคนไทยนะ ยังนิยมขับรถเอง รถตู้มาส่งที่หน้าโรงแรมพอดี เราพักที่ Tune Hotel ห่างจากใจกลางเมืองนิดหน่อย แต่ก็เดินไปได้
หลังจากเก็บของเรียบร้อยที่แรกที่ไปคือ Gurney drive เป็นที่ๆติดทะเล มีห้างขายของแบรนด์เนม แล้วก็ถนนของกินตลาดโต้รุ่ง
เราออกมายืนรอรถเมล์แถวโรงแรม เดินมาตรงข้ามร้าน young one ค่ารถ 1.40 RM ถ้าจะขึ้นรถเมล์เตรียมเงินให้พร้อมนะเพราะเค้าจะไม่มีทอน ขึ้นรถไปก็บอกคนขับ จ่านเงิน แล้วก็ได้ตั๋วรถเมล์มา หน้าตาแบบนี้!!
พอถึงที่ คนขับรถเค้าจะตะโกนบอกเรา เสร็จแล้วก็ข้ามถนน เดินผ่านห้างออกไปริมทะเล เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะพบของกินระรานตามากกก
ขากลับก็เดินผ่านห้าง ข้ามถนนแล้วก็เดินยาวๆไปจนโผล่ถนนอีกเส้น เพื่อนั่งรถเมล์กลับ
วันที่ 2 เป็นวันที่แพลนเที่ยวเรากับเพื่อนเยอะมากกก ตื่นแต่เช้ารีบอาบน้ำแต่งตัว เดินออกไปนอกโรงแรม ฝนตกจ้าาาาา!!!
อากาศอึมครึม ท้องฟ้ามัวหมอง โชคดีที่ฝนเพิ่งหยุดไป เราเดินไปตึก Komtar เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 204 ไป Penang Hill แต่ก่อนเที่ยวเราก็ขอกินก่อน เดินไปเจอร้านขายของที่ท่ารถเมล์ เจอข้าวห่อใบตอง ห่อกระดาษ เป็นอะไรก็ไม่รู้ เลยหยิบมากิน ผ่าง!!
รสชาติเหมือนข้าวคลุกน้ำพริก อร่อยดี มือนี้หมดไป 3.5 RM ขุ่นพระ ถูกได้อีกกก
ถึงแล้ววว Penang Hill ซื้อบัตรขึ้นรถรางไป 30 RM ราคาชาวต่างชาติ พอถึงด้านบนก็เป็นจุดชมวิว ของเมืองปีนังเกือบทั้งเมือง แต่วันที่เราไปดันอากาศไม่ดี ก็เลยถ่ายรูปมาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
มีพิพิธภัณฑ์นกฮูก ให้ใส่ชุด Harry Potter ด้วยนะ ไม่ต้องไปถึงโอซาก้า
ช่วงใกล้เที่ยงเราว่าจะไปตะลุย street art กัน นั่งรถเมล์คันเดิมไปลง Jetty ต่อพอนั่งมาเรื่อยๆ ฝนตกหนักมากกกกก เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจลง เพื่อที่จะได้กลับโรงแรมรอฝนหยุด ปรากฏว่าหนักกว่าเดิม น้ำท่วมเลยจ้าคราวนี้
พอฝนซา เราเลยถอดรองเท้าลุยน้ำเดินไปโรงแรม แล้วก็มาสะดุดกับร้านข้าวร้านนี้ พี่เจ้าของร้านก็เป็นคนไทย บวกกับความหิว เราเลยสั่งไม่ยั้ง
กินเสร็จฝนหยุด ขึ้นรถไปต่อที่ Street art กันเลยย อย่าลืมเช่าจักรยานกันนะ จะได้ไม่เสียเวลาเดิน ราคาประมาน 8 RM
ไม่พลาดที่จะตามรอยละครเรื่องนางอาย
ขากลับเดินไป Jetty นั่งรถเมล์ฟรีมาลงแถว Love Lane หาของกินอีกแล้ววว
ก๊วยเตี๊ยวหลอด Chee Choeng Fun กับอีกอย่างนึงเป็นปลาหมึกลวกกับผักบุ้ง เราจำไม่ได้จริงๆ แหะๆ
ปิดท้ายด้วย White Kerry Mee รสชาติเหมือนก๊วยเตี๋ยวในแกงมัสมั่นเลย อาหารมาเลย์เรียกว่าอร่อยทุกอย่างจริง
วันที่ 3 วันสุดท้ายแล้วววไปไหว้พระที่วัดเก็กลกสี่เป็นสิริมงคลหน่อยละกัน
เริ่มต้นที่ Komtar เช่นเดิม นั่งรถเมล์สาย 203 ราคา 2RM ไปลงที่หน้าวัดได้เลย แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปที่ตัววัด เราก็จะเจอบ่อเต่าก่อน หยุดให้อาหารกันไป คล้ายๆให้อาหารปลาสวายบ้านเรา
เจดีย์ที่วัด
แล้วก็เดินต่อไปอีก จุดเทียนขอพรพระใหญ่
ถ้าใครอยากไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ต้องนั่งรถรางขึ้นไปอีก 6 RM
ขึ้นมาก็จะเห็นความสวยงามของเจ้าแม่กวนอิม เราคิดว่าน่าจะเป็นหินอ่อน องค์ใหญ่สง่า สวยงามมากจริงๆ
ขากลับเดินตรงมาตามทางเดิน เพื่อมารอรถเมล์กลับโรงแรม สาย 201 ราคา 2 RM เหมือนเดิมพอถึงโรงแรมรถตู้ที่นัดมารับก็มาพอดี
ต้องกลับไปหาแม่แล้วนะปีนัง (T^T)
สรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ - หาดใหญ่ 1,990 บาท
ค่ารถตู้ไปกลับหาดใหญ่-ปีนัง 750 บาท
ค่ารถสองแถวสนามบิน - กิมหยง ไปกลับ 60 บาท
ค่าโรงแรม เรานอน Tune Hotel ประมานคนละ 300 บาท / 2คืน
ค่าติ่มซำที่หาดใหญ่ 150 บาท
ค่าเช่าจักรยาน 80 บาท
ค่ารถเมล์ รวม 3 วัน 80 บาท
ค่ารถรางขึ้น Penang Hill 300 บาท
รวมแล้ว 3,710 บาทจ้าา ยังไม่รวมของกินนะ ^^