"งานกองท่วมหัว ไม่มีเวลาให้ตัวเองบ้าง ตั้งแต่ปีใหม่ก็ยังไม่ได้ไปไหน"
ยังครับยัง ผมยังไม่ได้ทำงานครับ ผมเป็นนักศึกษาปี 4
ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายของนักศึกษาปริญญาตรีทุกคนต้องหมกมุ่นกับ โครงงาน หรือ Senior project นั่นแหละครับ

เมื่อทำงานไปสักพัก ก็มีคำถามผุดขึ้นมาในหัวตัวเอง อยากพักมั๊ย? อยากไปเที่ยวไหนรึเปล่า?

"ไปดิวะ"

ด้วยเวลาที่จำกัดจะให้หนีงานไปเป็นอาทิตย์ก็คงจะไม่ได้เพราะงานยังเหลืออีกเยอะมาก แถมยังมีเรียนวันธรรมดาอีก
ทำให้ผมมีเวลาว่างเพียง ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เพียง 3 วันเท่านั้น

ข้อมูลเล็กน้อยๆ

ปีนังเป็นรัฐหนึ่งในประเทศมาเลเซีย มีจอร์จทาวน์ (George Town) เมืองหลวงของรัฐปีนัง เป็นหนึ่งในสองเมืองของมาเลเซียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยูเนสโก้ให้เป็นเมืองแห่งมรดกโลก ด้วยมีการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของยุคอาณานิคมอังกฤษไว้ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 และยังเป็นสถานที่ตั้งเชิงกลยุทธ์บนช่องแคบมะละกา ปีนังจึงถือเป็นทางเชื่อมหลักของตะวันออกและตะวันตก โดยมีชาวเปอรานากัน (Peranakan) หรือชาวจีนช่องแคบ ที่เป็นลูกครึ่งจีนและมาเลย์ดั้งเดิมถ่ายทอดมรดกทางสถาปัตยกรรม อาหาร การแต่งกาย และวัฒนธรรมไว้ให้ได้ชื่นชมจนถึงปัจจุบัน

แผนการเดินทาง

วันที่ 1 หาดใหญ่ - George Town (รอบเย็น)
วันที่ 2 George Town - Penang Hill
วันที่ 3 George Town - หาดใหญ่ (รอบเย็น)

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง



1. จองรถโดยสารของบริษัท KST TRAVEL เป็นรถตู้ไป-กลับ หาดใหญ่-ปีนัง ราคา 750 บาท รอบ 15.30 น.
2. จอง Hostel โดยจองทาง Agoda.com ผมเลือก Thirty Three Stewart Houze เพราะสะดวกในการเดินทางครับ ราคา 589 บาท/คน/2คืน ถ้าหากเลือกแบบ Walk-in อาจเสี่ยงที่พักเต็มเพราะแผนที่วางไว้ ถ้าปีนังก็ดึกแล้วครับ

ผมจัดการ 2 ข้อข้างบนนี้เพียง 1 วันก่อนออกเดินทางครับ

เริ่มออกเดินทาง.....

วันที่ 1



เวลา 15.30 น. ผมออกมารอรถตู้ที่จะมารับหน้ามหาวิทยาลัย เพราะตอนจองตั๋วบอกให้มารับที่หน้ามหาวิทยาลัยเลย เนื่องจากเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ไม่นาน รถก็มารับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงด่านสะเดา เพื่อเข้าไปในประเทศมาเลเซียครับ



ฝั่งด่านไทย



เมื่อเข้ามาในเขตประเทศมาเลเซีย ก็ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงจากเขตแดนถึง George Town
ซึ่งรถตู้สามารถไปส่งได้เกือบทุกโรงแรมใน George Town เลยทีเดียว
มาถึงหน้าโรงแรม เวลามาเลเซียประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งโรงแรม Thirty Three Stewart Houze อยู่บนถนน Stewart เลยครับ หาง่าย



ห้องนอนคล้ายๆกับโรงแรมแคปซูล เตียงเดี่ยวในห้องรวม 6 เตียง สบายมาก คุ้มราคามากครับ เจ้าของก็ใจดี พูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว
เมื่อเก็บสัมพาระเรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้องเรียกอาหาร จึงต้องพาไปสนองความต้องการซะหน่อย
จากการมาปีนังหลายครั้งทำให้ผมรู้ว่าถนน Lebuh Chulia เป็นถนนที่มีร้านอาหารข้างทางอร่อยมากมาย จึงคิดว่าจะไปที่นั่นครับ ไม่ไกล



บริเวณลูกศรสีน้ำเงินจะเป็นย่านที่ขายอาหารกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นร้านของคนจีน

บรรยากาศ Lebuh Chulia กลางคืน















นี่ก็คือหน้าตาอาหารค่ำคืนแรกของผมครับ เป็น Wanton Mee ราคา 4.5 RM กับน้ำแอปเปิ้ลคั้นสด ราคา 1.6 RM
เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย แผนต่อไปคือไปเดินเล่น Night walk ถ่ายรูปเล่นๆ บรรยากาศเมืองกลับกลางคืน





บรรยากาศ Night walk



















วันที่ 2

"แผนการวันนี้คือการเดินเล่น ถ่ายรูป Street Art ต่างๆ และตอนเย็นขึ้นไปปีนังฮิลล์"

หลังจากทานอาหารเช้าฟรีที่โรงแรมเรียบร้อย ก็อาบน้ำ แต่งตัวออกมาพร้อมเดินเก็บรูป Street Art ช่วงเช้าตามแผนนี้เลยครับ







Jalan Masjid Kapitan Keling









Lebuh Cannon









Lebuh Acheh



Lebuh Armenian



































Lebuh Ah Quee























Lebuh Chulia







Jetty หมู่บ้านท่าเรือ

















หลังจากท้องเริ่มเรียกร้องอีกครั้ง แผนต่อไปคือไปหาร้านข้าวกินบริเวณตึก Komtar (ตึกกลมๆ สูงที่สุดใน George Town)
เดี๋ยวผมพาไปกินข้าว นั่งร้านกาแฟชิลล์ๆ ถ่ายรูปอีกนิดหน่อย ในช่วงบ่ายนะครับ...