[CR] สัมผัสเสน่ห์โฮจิมินห์เมืองใหญ่ในเวียดนามแบบจัดเต็ม

เที่ยวเวียดนาม 4 วัน 3 คืน ฉบับเด็ก Gen Z เริ่มๆ 😎🤘🏻
ซินจ่าว สวัสดีค่าา ไปเที่ยวเวียดนามมาแล้วก็ขอพูดภาษาเวียดนามสักหน่อย😝 
สำหรับการเที่ยวของพวกเราในครั้งนี้จะปักหลักกันที่เมืองโฮจิมินห์นะคะ มีผู้ร่วมชะตาชีวิตทั้งหมด 5 คน พวกเราไปกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืนนะคะ และในส่วนของที่พักกับการเดินทางระหว่างที่อยู่เวียดนามเดี๋ยวพวกเราจะมารีวิวไว้ในช่วงสุดท้ายนะคั้บบบ มาค่ะเริ่มๆๆ
จะไปเที่ยวทั้งทีสิ่งแรกที่ต้องเครียดกันเลยก็คือ “การวางแพลนและการเตรียมตัว” ซึ่งพวกเราเลือกกันว่าจะไปกันที่โฮจิมินห์ เพราะเขาเป็นเมืองที่ค่อนข้างเจริญ มีทั้งวัฒนธรรม และความศิวิไลซ์ เพียบพร้อมไปด้วยกัน และที่สำคัญเลยก็คือมีเสื้อผ้าและคาเฟ่ต่าง ๆ เยอะมาก การใช้ชีวิตในต่างแดนที่นั้นค่อนข้างสะดวกเลย และอีกประเด็นหลักซึ่งทำให้พวกเราตัดสินใจไปเมืองนี้ นั่นก็คือ เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับสงครามเวียดนามอันเลื่องชื่อนั่นเองค่าา และที่สำคัญคือตึกรามบ้านช่องของเขานั้นสวยมากก ก.ไก่ล้านตัว เพราะบ้านเขาได้รับอิทธิพลในเรื่องของสถาปัตยกรรมมาจากอังกฤษเป็นส่วนใหญ่เลย ทำให้บรรยากาศที่นี้ บ้างก็ให้ฟีลปารีส ลอนดอน บ้างก็ให้ฟีลชิบูย่า เจแปนเจใจเลยนะเธอ คือมันเริ่ดมาก เพราะไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนเราก็จะสามารถแวะแชะแชะได้📸 ถูกใจสายถ่ายรูปมากก
 
เอาเป็นว่าภาพรวมประมาณนี้ก่อนละกันน พักความน่าสนใจไว้เพียงเท่านี้ แล้วเรามาต่อกันที่ “การเตรียมตัวในส่วนของการเดินทาง” พวกเราเลือกที่จะเดินทางจากไทยไปโฮจิมินห์ด้วยการบินไปค่าา ตามประสานางฟ้าอะเนอะ 555 พวกเราเลือกที่จะจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป sky scanner นะคะเป็นสายการบิน airasia ราคาตั๋วไป-กลับอยู่ที่ 3940 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างดีเลย😍 และสิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือ passport และซิมต่างประเทศนะคะ ทุกคนขาถ้าลืมคือจอบอเลย จากนั้นพวกเราก็เริ่มวางแผนหาสถานที่ที่จะไปกัน ซึ่งแต่ละที่ค่อนข้างใกล้กันมาก พวกเราก็เลยเลือกที่จะพักกันอยู่แถวใจกลางเมืองกันนะคะ  ขอแอบกระซิบนิดนึงว่าพวกเราประทับใจมาก เพราะเราเลือกพักที่นี่ทั้ง 3 คืนเลย ราคาตกคนละ 1807 บาท เอาจริงคือถูกมากกก มันดีย์ไปหมดเลยยย อะมาต่อกันน พอเราเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย วางแผนกันเสร็จสรรพแล้ว เหลือก็แค่รอเวลาที่จะได้ไปเที่ยวทริปนี้กับทุกคนกันแล้วค่าา เย้เย้ จะบอกว่าเรากับเพื่อนคือเตรียม fitting ชุดกันหนักมากกก จนมาถึงวันเดินทางคือตื่นเต้นรอเลยล่ะค่ะ🤩🫣 
#Day1
และแล้ววันเดินทางของพวกเราก็มาถึงกันแล้วค่าา เย้เย้ เริ่ม Day 1 กันด้วยการเดินทางไปสนามบินดอนเมือง เนื่องจากว่าพวกเรามีกระเป๋าที่ต้องโหลด 1 ใบ ก็เลยเลือกที่จะไป check in กันที่เคาน์เตอร์แล้วคือโชคดีมากกก เพราะกลายเป็นว่าพวกเราได้โหลดกระเป๋าฟรีทุกใบ !! เป็นการเริ่มทริปที่แสนจะฟินนน จากนั้นพวกเราก็รอขึ้นเครื่องไปโฮจิมินห์กันค่า เจ้าหน้าที่ ตม. ของฝั่งไทยค่อนข้างใจดีเลยค่ะ ผ่านด่านง่ายมาก😮‍💨 นั่งเครื่องไปก็ชิล ๆ ค่ะ หลับยาวตลอดทาง 555 พอเครื่องลงที่สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต โฮจิมินห์ซิตี้ พวกเราก็ต้องทำการต่อคิวเพื่อผ่าน ตม. ของประเทศเวียดนามค่ะ ณ จุดนี้คือแอบอึ้งนิดนึง เพราะว่าแถวยาวมากก และอีก culture shock นึงเลยก็คือ ภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษค่ะ ด้วยสำเนียงในการออกเสียงที่แปลกหูไป เลยทำให้พวกเราสตั้นกันไปแป็บนึงเลยค่ะ 555 แต่ข้อดีของเมืองโฮจิมินห์ก็คือ เดินทางได้ง่ายมากก พวกเราสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรมได้ง่ายมาก เพียงแค่กดเรียก Grab ค่ะ 🤩 ซึ่งทางพวกเราเนี่ยมากันทั้งหมด 5 คน จึงได้ทำการเรียก Grab Van ซึ่งก็คือรอรถไม่นานเลยค่ะ พี่คนขับรถก็ใจดีมาก ๆ ช่วยพวกเราขนกระเป๋าด้วยย และอย่างที่ทุกคนจะทราบกันดีแหละค่ะว่า วันแรกที่ไปถึงพวกเราก็ค่อนข้างที่จะต้องปรับตัวปรับใจ เตรียมรับมือกับ  culture shock (อีกแล้ว) 😭😭 ก็คือว่าการขับขี่รถบนท้องถนนของชาวเวียดนามเนี่ย ทุกคนขับกันเหมือนรีบจะไปกันตลอดเวลา ทุกคันเลย 555 แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นให้เห็นกันนะคะ และคนที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์กันที่นี้ ล้วนแต่ใส่หมวกกันน็อคกันทุกคนเลยค่ะ ขอย้ำนะคะว่า ทุกคนน !! จริง ๆ ทั้งคนขับและคนซ้อนเลย ซึ่งการที่เราได้เห็นอะไรแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่า พวกเขาค่อนข้างเคารพกฎเกณฑ์ของบ้านเมืองเขากันเป็นอย่างดีเลยค่า จากนั้นพวกเราก็วาร์ปไปถึงที่พักกันเล้ยย
ทริปนี้พวกเราเลือกพักที่ Landmark 81 and Vinhomes Riverside Residence หลังจาก check in ที่พัก เก็บกระเป๋าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็หิวกันมากdก เลยเลือกที่จะออกไปทานอาหารเวียดนามมื้อแรกกันที่ร้าน Bánh Ướt Ban Mê ซึ่งเป็นร้านอาหารที่หลาย ๆ คนแนะนำว่า ถ้าได้ไปเวียดนามแล้วต้องลองไปทานดูนะ แล้วพอพวกเราไปถึงก็แน่ใจเลยว่าเป็นร้านฮิตจริง ๆ 555 เพราะเจอกลุ่มคนไทยมาทานที่ร้านนี้เหมือนกัน อาหารที่ร้านนี้ให้อารมณ์เหมือนกับข้าวเกรียบปากหม้อที่ไทยเลย พอเปิดเมนูมาพวกเราก็งงมาก ๆไม่รู้จะสั่งอะไรดี เลยถามพี่พนักงานจะให้ช่วยแนะนำเมนูหน่อย แต่ก็สื่อสารกันไม่เข้าใจ เพราะพี่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้😭 เลยกลายเป็นว่าต้องใช้ google translate คุยกันเป็นภาษาเวียดนามแทน พี่พนักงานเขาถามจำนวนพวกเราว่ามากันกี่คน แล้วเขาก็จะจัดเซ็ทมาให้เลย ซึ่งในชุดนั้นจะมีแผ่นแป้งมาให้ โดยวางเป็นคอนโดชั้น ๆ มีทั้งหมด 10 จาน แล้วก็มีเครื่องเคียงเพิ่มอีก 7 อย่าง ซึ่งก็จะเป็นพวกหมูย่าง, หมูยอ, แหนม, ผักต่าง ๆ และน้ำจิ้ม 4 ชนิด ซึ่งในตัวน้ำจิ้มนี้ก็จะมีรสชาติที่ต่างกันออกไป แต่ที่ทำให้เราอึ้งกันมาก ก็จะเป็นตัวน้ำจิ้มสีน้ำตาล เพราะเขาจะเป็นฟีลเหมือนกับน้ำปลาร้า แต่พอเอามาทานคู่กับแป้งก็คือเข้ากับแบบงง ๆ อร่อยแบบไม่คาดคิดมาก่อนเลยค่ะ วิธีการทานก็คือให้นำแผ่นแป้งมาห่อกับเครื่องเคียง ใส่ผักลงไป ราดน้ำจิ้มแล้วก็ทานได้เลยยย เมื่อทานเข้าไปแล้วก็จะได้ความนุ่มมม หนึบหนับของแผ่นแป้ง สัมผัสได้เลยว่าเขาทำมาแบบสด ๆ ใหม่ ๆ พวกเราไปทานกัน 5 คน จัดกันไปทั้งหมด 2 คอนโด (ก็คือ 20 แผ่น) ทุกคนคืออิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า แถมราคาไม่แพงด้วย ตกคนละประมาณ 100 บาทเอง โดยรวมแล้วพวกเราชอบมาก ๆ ใครได้ไปแวะเที่ยวโฮจิมินห์ก็ควรไปลองทานกันดูจริง ๆ นะคะ 😍

พอเติมพลังกันเรียบร้อยแล้วก็ไปกันต่อเล้ยยย และสถานที่ต่อมาที่พวกเราจะไปกันก็คือ Museum of Fine Arts ระยะทางก็ถือว่าไม่ได้ห่างกันมากนับจากที่ร้านอาหาร พวกเราก็เลยตกลงกันว่าจะเดินไปกัน ถือว่าได้เป็นการเดินชมเมืองไปในตัวด้วยเลย ระหว่างทางไปพวกเราก็ได้เจอร้านที่น่ารักมากก ใครเห็นแล้วก็ต้องนึกถึงเวียดนามแน่นอน นั่นก็คือร้านหมวกกันน็อค ซึ่งในร้านนี้มีหมวกกันน็อคแบบน่ารัก ตัวการ์ตูน สีสันสดใสสวยงามมาก เหมือนใส่เป็นแฟชั่นได้เลย จึ้งมากก มีหูลาบูบู้ หูกระต่าย ไรแบบนี้ด้วยน้า พวกเราชอบกันมากก คุณป้าคนขายก็น่ารักด้วย พวกเราเลยซื้อกันมา 1 ใบ จากนั้นก็เดินกันต่ออ พอถึงที่ Fine Arts ก็ต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมกันก่อน ราคาประมาณใบละ 40 บาท จากนั้นก็เดินเข้าไปเยี่ยมชมที่นี่กันเลย โดยสถานที่นี้จะเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะที่มีทั้งงานวาด, งานปั้นหลากหลายสไตล์มาก แต่ขอแอบกระซิบเลยนะคะว่าหากใครคิดว่าจะได้เดินดูภาพแบบสบาย ๆ มีแอร์เย็นฉ่ำเหมือนฟีลหอศิลป์ หรือ river city ที่ไทยละก็ คุณคิดผิดดด เพราะที่นี่ไม่มีแอร์ค่ะ เป็นแบบลมธรรมชาติ มีแอร์แค่บางห้องเท่านั้น อากาศมีความร้อนอบอ้าวนิดหน่อยด้วยค่ะ ใครที่จะไปแนะนำให้พกพัดลมไปด้วยนะคะ นอกจากผลงานศิลปะแล้ว ตัวสถาปัตยกรรมของตึกก็สวยมาก ๆ ด้วยเช่นกัน มีความเก่าแก่ ให้อารมณ์แนวย้อนยุค และแน่นอนว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกก เหมาะกับสายถ่ายรูปอัพรูปกันรัว ๆ ใครจะมาก็แนะนำให้แต่งตัวให้เข้ากับสถานที่กันน้า เพื่อความปังปุริเย่ ปึ้งปึ้ง สรุปรวม ๆ เลยนะคะ ที่นี่เหมาะกับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบงานอาร์ตหรือไม่ก็ตาม ควรลองมาชื่นชมอย่างยิ่ง ห้ามพลาด!!

จากนั้นพวกเราก็ไปกันต่อที่พิพิธภัณ์สงครามเวียดนาม War Remnants Museum ที่โฮจิมินห์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสงครามที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าผ่านประวัติศาสตร์ในหนังสือเรียนเท่านั้น ที่นี่เป็นที่ที่รวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไว้เยอะมากทั้งภาพถ่าย, อาวุธยุทธภัณฑ์ ไปจนถึงเครื่องบินรบที่ใช้ในการทำสงคราม และสิ่งที่ทำให้พวกเรารู้สึกหดหู่กันมาก ๆ นั่นก็คือแกลเลอรี่ภาพของผู้คนที่ได้รับผลจากการใช้อาวุธเคมีทำให้มีผลกระทบมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน มีภาพของเด็ก ๆ ที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติทางร่างกาย ตอนที่ได้เห็นรูปภาพเหล่านั้น เรารู้สึกบีบหัวใจมาก และที่นี้ก็ยังมีภาพถ่ายที่สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสียและความบอบช้ำที่ยังคงส่งผลถึงปัจจุบัน ผู้คนที่เจ็บปวดอยู่กับบาดแผลทั้งกายและจิตใจ โดยสำหรับพวกเราแล้วมันค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และหดหู่มากจริง ๆ ผลกระทบจากการใช้อาวุธเคมี ทำให้รู้เลยว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน การที่ได้เห็นภาพของคนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บอกเลยว่าความรู้สึกระหว่างที่ได้เดินชมนั้นปะปนกันไปหมด ทั้งซึม จุกในอก และสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของผู้คนจริง ๆ ถ้าใครคิดจะไปเที่ยวที่โฮจิมินห์แล้วละก็อย่าพลาดที่จะได้ลองเข้าไปเดินชมใน War Remnants Museum เด็ดขาดดด เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พิพิธภัณฑ์ธรรมดา แต่เป็นสถานที่ของแหล่งเรียนรู้ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจถึงเรื่องราวเบื้องหลังของสงครามเวียดนามแบบลึกซึ้ง และช่วยเตือนให้เราเห็นถึงความสำคัญของสันติภาพและความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

อดใจรอ Day 2 สักครู่นะค้าาา รออ่านใน comment โลดด เพี้ยนกู๊ดไนท์
ชื่อสินค้า:   เวียดนาม - โฮจิมินห์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่