จขกท กำลังจะแต่งงานสิ้นปีนี้ และก่อนไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ก็อยากจะสวยๆ เพื่อเก็บภาพดีไว้โชว์แขกเหรื่อ และอวดลูกหลาน อิอิ
แต่ จขกท อายุเลยเลข 3 แล้ว คือ 33 แล้วล่ะค่ะ =_=  หน้าก็เริ่มคล้อย ไม่เต่งตึงแล้ว ก็เลยอยากทำอะไรสักอย่างที่มันทำให้เราสวยขึ้นก่อนวันงาน
โดย... “ไม่เจ็บ ไม่ฉีด ไม่เจาะ ไม่ผ่า “ เพราะกลัวมีดมากกกก++ 555555  เหมือนยากใช่มั้ย แต่.. เราทำได้ !!!



บอกเลยว่า... ไม่ฉีด ไม่เจ็บ ไม่เจาะ ไม่ผ่าเลย ...แต่หน้ายกขึ้นจริง ปลื้มจนต้องมารีวิวเลยค่าาาา

เล่าเลยนะคะ
----------------------------------

เริ่มแรกเราก็ไปปรึกษา หมอน้อง
หมอเป็น Facial Designer นักออกแบบและแก้ไขรูปหน้าที่ราชเทวีคลินิก ประจำศูนย์ ModiFace  ที่เพลินจิต
เรารู้จักหมอเพราะไปทำทรีทเม้นท์หน้าใสที่นั่นบ่อย เราชอบทำทรีทเม้นท์หน้ามาก เพราะมันสบาย และคลายเครียดที่สุดดดดดดดด
แถมครีมที่นี่ก็ไม่ทำให้หน้าเราแพ้ด้วย แต่ก็นะ การทำทรีทเม้นท์หน้า ก็แค่ช่วยให้ผิวดีขึ้น แต่ไม่ช่วยต้านแรงโน้มถ่วงได้เลย หน้าก็ยังหย่อนลงทุกวัน


เราก็ไปบอกหมอน้องว่า
“หมอคะ สิ้นปีหนูจะแต่งงานค่ะ อยากดูดีในวันแต่ง แต่กลัวเข็ม กลัวมีด นู๋ควรทำอะไรบ้าง มีวิธีที่ไม่เจ็บเลยมั้ย”
บอกไปตรงๆ เลยค่ะ

หมอก็ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า หมอเข้าใจนะ หลายคนอยากสวยแต่กลัวมีด กลัวเจ็บ  
ซึ่งงานของหมอคือ minimal invasive ปรับแต่งรูปหน้าโดยไม่ผ่าตัดอยู่แล้ว  ไม่ต้องกลัวนะคะ รับรองสวยแบบไม่มีแผลแน่ๆ ค่ะ

จากนั้นคุณหมอก็แนะนำให้ปรับรูปหน้าด้วยเครื่อง Sygma Life HIFU
ซึ่งคุณหมออธิบายว่า เครื่องนี้จะปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวน์ลงไปในผิวชั้นลึก เพื่อจัดเรียงโครงสร้างใบหน้าใหม่
ให้โครงสร้างที่หลุด หรือหย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น (คุณหมอบอกว่า เครื่องนี้ดีกว่าเลเซอร์ เพราะเลเซอร์จะให้ผลการรักษาแค่บนผิวชั้นนอกเท่านั้น ไม่ได้แก้ไขที่ตรงต้นเหตุของปัญหา)

สนนราคาค่าทำ ครั้งละ 50,000 บาท !!!
ค่อนข้างแพง แต่ถ้าไม่ต้องเจ็บตัวแล้วสวยเลย ก็ลองดูค่ะ
ขึ้นเขียงเล้ยยยยยยยยยยยยยยย

หลังจากผู้ช่วยคลีนหน้าให้ คุณหมอก็ให้เราสแกนใบหน้าด้วยเครื่อง 3D Stimulate ก่อน เครื่องนี้จะจำลองหน้าเราออกมา  เป็น 3 มิติเลยค่ะ ภาพที่ออกมา จะหมุนซ้าย หมุนขวา เงยหน้าก้มหน้าได้ เหมือนเราอยู่ในจอนั้นเลย แถมยังดูลึกได้ถึงชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า และกระดูก แปลว่า คุณหมอจะวิเคราะห์และแก้ไขได้ถึงต้นเหตุของปัญหาเลยค่ะ



หลังจากดูกล้อง ลองจับหน้า และดึงๆ ตามขมับ กับขอบหน้า ขอบกรามแล้ว
คุณหมอก็เล่าว่า พออายุมาก กระดูกจะเล็กลง ทำให้จุดเชื่อมใบหน้าไม่แข็งแรง เป็นสาเหตุของปัญหา หน้าตก หย่อนคล้อย
ซึ่งหน้าเรา หมอบอกว่า ยังตกไม่มาก เกิดจากจุดเชื่อมไม่แข็งแรง และไขมันใต้ผิว(baby Fat) ลดลงตามอายุที่มากขึ้น
วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ ทดแทนไขมันใต้ผิวด้วยการฉีดฟีลเลอร์ โครงหน้าจะยกขึ้นเยอะ และอยู่ได้นาน  2-3 ปี (ยิ่งฉีดลึกยิ่งอยู่นาน)
วิธีนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่จะเจ็บนิดหน่อย เพราะต้องฉีดสารเข้าไปใต้ผิว เราก็ถามหมอว่า ต้องฉีดกี่เข็ม หมอบอก ต้องฉีดหลายเข็มมาก
ค่อยๆ ไล่ไปเรื่อยๆ ทีละจุดๆ ทั่วหน้า เพื่อให้ดูเนียนเหมือนไขมันจริง ไม่ปูดนูน หรือ เว้าเป็นหลุม คุณหมอประณีต และใส่ใจมาก
ทนเจ็บหน่อย แต่ทำแล้วใบหน้าจะยก เต็มสวย ได้รูปในครั้งแรกเลยค่ะ แต่... กลัวเจ็บ เราของบาย 555555

ยังยืนยันจะเลือกวิธี  Sygmalift hifu เหมือนเดิม เพราะคุณหมอการันตีว่า ไม่เจ็บเลย!

หลังพยาบาลคลีนหน้าจนสะอาด เราก็ไม่ต้องทายาชาอะไรเลย นำพาหน้าสดของตัวเอง ไปนอนรอบนเตียงได้เลยค่ะ คุณหมอเริ่มด้วยการทาเจลเย็นๆ ไปในจุดที่ต้องการยกกระชับ คือ บริเวณโหนกแก้ม คิ้ว และกรอบหน้า จากนั้นก็ใช้เครื่อง Hifu ค่อยๆ ดันช้าๆ ไปบนผิวตามจุดที่มีปัญหา เช่น ตรงโหนกแก้มก็จะดันออก ตรงกรอบหน้าก็ในแนวดึงขึ้น  คุณหมอดูใช้แรงกดมาก แต่เรารู้สึกสบายมากเลยค่ะ สบายเหมือนนวดหน้าเลย อิอิ คุณหมอบอก เครื่องนี้คลินิกไหนก็มีนะคะ แต่ต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโครงหน้า และรู้จุดที่เกิดปัญหาจริงๆ ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ จากนั้นเราก็หลับไป... (ก็มันสบายจริงๆอ้ะ ) Z z z..

คุณหมอใช้เวลาทำประมาณ 45 นาที  และนี่คือ หน้าเราหลังทำทันที
หมอบอกว่า ยกขึ้นเลย 10% และจะเห็นชัดเจนที่สุดใน 1 เดือนค่ะ



( ตรงนี้เราดูไม่ออกหรอกว่ายก 10% มั้ย จิงๆ รู้สึกไม่เห็นต่างเลย -*- แต่แฟนที่ถ่ายรูปให้ก็บอกว่า ยกขึ้นนะ 5555 เออๆ ..ยกก็ยก)

ก่อนกลับ คุณหมอแนะนำอีกว่า ผู้หญิงควรดูแลตัวเองอยู่เสมอ
เพราะพออายุมากขึ้น กระดูกจะฝ่อ โครงสร้างใบหน้าจะหลุด ถ้ารีบดูแลตั้งแต่เริ่มต้น ป้องกันไว้ไม่ให้โครงทรุด ใบหน้าก็จะสวยอ่อนวัยตลอด
การมาแก้ไขปัญหารูปหน้าในเวลาที่สายเกินไป นอกจากจะแก้ไขยาก ใช้เงินเยอะแล้ว ยังยากที่จะทำให้สวยเหมือนตอนวัยรุ่น การคงไว้ง่ายกว่ามาก

และตอนนี้หนึ่งเดือนแล้ว เรากรี๊ดมากกกกกก!!


*ป.ล. รูปถ่าย ก่อนทำ – หลังทำ ถ่ายโดยโทรศัพท์ blackberry Q10 ไม่ใช่กล้องฟรุ๊งฟริ๊ง และไม่ผ่านแอพแต่งภาพแต่อย่างใดนะจ้ะ
ส่วนแสงที่ไม่สม่ำเสมอ เพราะถ่ายในสวนข้างบ้าน ภาพจะสว่าง หรือมืด เหลือง หรือแดง ขึ้นอยู่กับแสงแดดวันนั้นล้วนๆ จ้า


ไม่น่าเชื่อ แก้มที่ห้อยเป็นลูกยกขึ้น ขอบหน้าบริเวณกรามยกขึ้น และหางตายกขึ้น โดยรวมยกขึ้นหมดค่ะ
แต่อย่างเป็นธรรมชาติ ปลื้มมากกกกกก แต่คงต้องไปฟอลโลอีก 1-2 ครั้ง เพื่อให้สวยและเข้าที่กว่านี้
(บางคนอาจคิดว่า.. ได้แค่นี้เหรอ เปลี่ยนน้อยจัง แต่สำหรับเรา นอนเฉยๆ ไม่เจ็บ ไม่ผ่า ได้ขนาดนี้ โอเคมากค่ะ!)

สรุปโดยรวมประทับใจผลการรักษามาก เพราะใบหน้าที่หย่อนคล้อยยกขึ้นจริง และที่สำคัญไม่เจ็บตัวเลย
คุณหมอน้อง ก็อธิบายละเอียดมาก ตอบทุกคำถามที่สงสัย ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้น แถมที่นี่ยังมีเครื่องมือครบ จึงมีทางเลือกให้เลือกเยอะมากให้คนไข้
คุณหมอไม่บังคับให้ทำวิธีที่ดีที่สุด แต่ให้เลือกวิธีที่สบายใจที่สุด แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ ^^



ตอนนี้มีความสุขมาก เหมือนกลับไปเป็นสาวเลข 2 อีกครั้ง อิอิ

จบแล้วค่า ยาวไปมั้ยยย ><
แต่อยากเล่าอย่างละเอียด
เผื่อใครกลัวเจ็บ กลัวมีด แต่อยากสวยเหมือนกัน จะได้ลองไปปรึกษาคุณหมอดูนะคะ ^^