สวัสดีค่า เพื่อนๆชาวพันทิป
วันนี้สายป่านจะมาแชร์ประสบการณ์ ทำ HIFU กระชับรูปหน้า กับคุณหมอปรางทิพย์ (ไม่เจ็บเลยซักติส) ให้ฟังคะ



ก่อนอื่นขอเกริ่นเม้ามอยก่อนเลยว่าเรามีลักษณะรูปหน้าเป็นยังไงทำไมเราถึงไปทำ HIFU

ป่านเป็นคนมีหน้ารูปเพชร และมีโหนกหน้าที่ค่อนข้างสูง และแก้มห้อยอยู่เล็กน้อย555

ซึ่งทำให้บางทีถ่ายรูปมองแล้วมันจะดูย้อยๆขัดใจ และ โหนกก็มาเด่นเป็นสง่า หรือบางทีเหนื่อยๆหน้าบางทีดูซูบโทรมได้ชัดเจนมั่กกก


ซึ่งป่านก็ไม่ได้ปลื้มการมีโหนกมากนัก เลยเสริชหาข้อมูลวิธีการที่จะทำให้เจ้าโหนกลดลงหายไปได้ จะต้องทำยังไงได้บ้าง

ซึ่งก็ยากซะเหลือเกิน และก็เสริชเจอวิธีคร่าวๆก็มีประมาณนี้นะ

1. ฉีดโบ (แต่ผลข้างเขียงคือจะยิ้มแปลก ยิ้มแห้งโนววว)

2. ฉีดฟีลเลอร์เติมบริเวณข้างแก้มที่บุ๋มลงไป (น้องกลัวฟีลเลอร์ไม่ค่อยกล้าเอาอะไรเข้าหน้าง่ะ T^T)

3. ไปเลยจ้าาทุบโหนกหน้าจ้าา โอวโนววววว อันนี้คือผ่าตัดใหญ่ใจไม่สู้อีก TOT


จนแบบเอ้อมีโอกาสได้มารู้จัก HIFU กังฟูแพนด้า (เห้ยไม่ใช่และ555) ซึ่งก็จากที่ศึกษามาคือเจ้า HIFU จะช่วยเรื่องของการยกกระชับใบหน้า ทำให้ใบหน้าได้รูป ผิวอิ่มฟูบริเวณที่ต้องการ ส่งผลให้ดูอ่อนวัยลง โดยใช้เทคโนโลยี Ultrasound ไม่ได้ฉีดอะไรเข้าหน้าซักนิส ก็เลยแบบเห้ยน่าสนใจถ้า HIFU มันจะช่วยกระตุ้นคอลาเจน เติมเต็มแก้มส่วนที่บุ๋มของเราไป ทำให้หน้าเราดูไม่เหนื่อยโทรมจะขอบคุณมาก

** ไม่ได้ถ่ายรูปตัวเครื่องมานะเกรงใจคุณหมอ แหะๆ เอารูปบรรยากาศคลีนิคไปดูแทนเนอะ

โอเคมาสาระกันบ้าง

HIFU คืออะไร HIFU ย่อมาจาก high intensity Focus ultrasound เป็นเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการรักษาด้านความงามหลักการทำงานคือ ultrasound จะถูกส่งผ่านไปยังเนื้อเยื่อแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน อุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส จะเกิดขึ้นในบริเวณที่โฟกัสเท่านั้น โดยไม่ส่งผลต่อชั้นหนังกำพร้า  ดังนั้นจึงไม่ทำให้ผิวแสบไหม้ หรือเกิดรอยดำ การรักษาที่ให้ผลดีของให้ HIFU คือ หน้าห้อย ตามแรงโน้มถ่วง กรอบหน้าไม่ชัดเจน มุมปากตก ร่องมุมปาก

ผลลัพธ์ หลังทำทันทีถึง 1 สัปดาห์ 20% ผิวจะอิ่มฟูขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนจากการกระตุ้นคอลลาเจน ประมาณเดือนที่ 2-3 (การทำหลายๆครั้งต่อเนื่องจะช่วยให้เห็นผลที่ชัดเจน และคงทนขึ้น)

ข้อแตกต่างที่ดีกว่า การร้อยไหมคือ ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าใบหน้า ปลอดภัยในระยะยาว และ ไม่เจ็บ หลังทำทันที ไม่มีรอยช้ำ หรือแผลใดๆเลย


ความรู้สึกระหว่างได้รับบริการ : ตอนแรกคุณหมอทาเจลก่อนเลย (ไม่ต้องฉีดยาชาเพราะไม่มีการใช้เข็มฉีดสารใดๆเข้าไป) ซึ่งเจลตัวนี้เป็นสื่อกลางระหว่างพลังงานความร้อนและใบหน้าค่ะ คุณหมอก็ทาจนทั่วใบหน้า รู้สบายเย็นๆดี ฮี่ๆๆ จากนั้นคุณหมอก็เริ่มทำ HIFU ให้เลย ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที (ข้างละ15 นาที) ระหว่างนี้ความรู้สึกเหมือนได้นวดหน้า ซึ่งเจ้าเครื่อง HIFU ก็นวดวนๆไปโดยจะเน้นไปที่บริเวณที่เราต้องการให้มีการเสริมสร้างคอลลาเจนค่ะ

เสร็จไปข้างนึงแล้ววว ได้ผลแบบนี้

คือบอกก่อนว่าคุณหมอให้เทียบดูทีละข้างก่อนด้วย ว่าข้างที่ได้ทำ HIFU แล้วหน้าดูซูบน้อยลง และได้รูปขึ้นจริงๆค่ะ


เปรียบเทียบ Before - After หลังทำเสร็จทั้งสองข้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าหน้าดูมีแก้มน้อยลง ทรงหน้าดูกระชับมากขึ้น และมีเนื้อมาเติมบริเวณส่วนระหว่างแก้มกับโหนกแก้ม

ความรู้สึกหลังทำ : ไม่เจ็บ ไม่ช้ำ ไม่มีแผล ความรู้สึกเหมือนไปนวดหน้ามา555 ก็คือตามที่เห็นในในรูปคือหน้าเรามันดูซูบเหนื่อยน้อยลง โอเคมากๆ และถ้าทิ้งระยะเวลาไปประมาณ 1 เดือน คอลลาเจนจะสร้างตัวมากขึ้น หน้าของเราก็จะกระชับได้รูป และส่งผลให้ผิวใส เด้งด้วยค่าาา


จบแล้วววสำหรับรีวิวการทำ HIFU ในวันนี้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยีความงามสมัยนี้จริงๆ ที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราเดินต่อไปได้ 555555 และขอบคุณคุณหมอปรางทิพย์ รวมถึงพี่ๆนักกายภาพ ที่ให้ความดูแลป่านเป็นอย่างดี ยินดีตอบคำถามป่านทุกๆเรื่องเลย หน่องป่านปลื้มปริ่มมาก ก็สำหรับใครที่กำลังประสบณ์ปัญหาคล้ายๆป่านลองหาข้อมูลในพี่เกิ้ล ก่อนตัดสินใจทำ HIFU ได้เลย (แต่ป่านเชียร์!!) แล้วก็เลือกสถานประกอบการที่ปลอดภัย เช็คข้อมูลกันให้ดีๆก่อนน้าา


รูปนี้หลังทำ HIFU 4 วัน ไปทานขนมกับเพื่อนๆที่ทำงานเก่า เพื่อนๆทักกันใหญ่เลยว่าหน้าเล็กลงนาจาไปทำอะไรมา ฮ่าๆๆๆปลื้มใจจจจ
(ยื่นกระทู้นี้ให้ดูแป๊บอิอิ)

สำหรับวันนี้ขอบคุณพื้นที่ดีๆ Pantip มากค่ะ บายๆๆๆ