สินค้าที่คนนิยมซื้อแบบผ่อนชำระ ติดแบบอันดับต้นๆ คือ รถยนต์และบ้าน
และเมื่อเราเลือกที่จะผ่อนชำระรถยนต์และบ้าน
ก็จะมีประเด็นเรื่อง "ดอกเบี้ย" ที่ต้องให้ความสนใจเพิ่มเติม
รู้หรือไม่ว่าระหว่าง "ดอกเบี้ยกู้ซื้อรถ" กับ "ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน" นั้น
มีความแตกต่างในการคิดดอกเบี้ยอย่างชัดเจน
ลองมาดูที่ดอกเบี้ยการซื้อ "รถยนต์" กันก่อน
สมมติให้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถยนต์อยู่ที่ 5% ต่อปี
รถมูลค่า 1,000,000 บาท
เราวางดาวน์ไป 250,000 บาท แสดงว่าเราต้องผ่อนชำระอีก 750,000 บาท
สมมติว่าผ่อน 5 ปี ทั้งหมด 5 งวด สมมติให้จ่ายรายปี เพื่อง่ายต่อการคำนวณ
ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายเท่ากับ
750,000 x 5% = 37,500 บาทต่อปี
จำนวน 5 ปี ; 37,500 x 5 ปี = 187,500 บาท
เท่ากับว่าเราติดหนี้ทั้งหมด
750,000 บาท + 187,500 บาท = 937,500 บาท
แสดงว่าเราต้องผ่อนปีละ 187,500 บาท
มาลองดูดอกเบี้ยการซื้อ "บ้าน" บ้าง ให้ราคาบ้าน
การวางเงินดาวน์ และ ดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากันเลยจากตัวอย่างที่แล้ว
สมมติให้จ่ายรายปีเช่นเดียวกัน
ดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 750,000 x 5% = 37,500 บาท
สมมติว่าจ่ายปีแรก 187,500 บาท เท่ากับการผ่อนรถเลยแล้วกันนะ
เราจ่ายดอกเบี้ย 37,500 บาท จ่ายเงินต้นเท่ากับ เท่ากับ 150,000 บาท (187,500 - 37,500)
มาดูเริ่มที่ปีที่สอง
ยอดกู้สุทธิเหลือ 600,000 บาท
600,000 x 5% = 30,000 บาท
......
....
..
.
เห็นความต่างกันมั้ย ?
จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถ
จะคิดจาก "เงินกู้ก้อนแรก" เสมอ
ทำให้ดอกเบี้ย 37,500 บาทตลอด 5 ปี
แต่สำหรับดอกเบี้ยบ้านคิดจาก "ยอดสุทธิ"
ปีแรกดอกเบี้ย 37,500 บาท
ปีสอง 30,000 บาทและลดลงเรื่อยๆ
"การผ่อนรถ"
เรียกวิธีแบบนี้ว่า การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่
ตลอดระยะเวลาที่ผ่อน (Flat Rate) จากตัวอย่างดอกเบี้ยปีละ 37,500 บาทเป็นเวลา 5 ปี
แต่ถ้าเป็นดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านจะคิดจาก จำนวนเงินที่เราติดค้างให้แต่ละงวด
เรียกว่า การคิดดอกเบี้ยแบบอย่างง่าย (Simple Interest)
จากตัวอย่างดอกเบี้ยปีแรก 37,500 บาท
ปีที่สอง 30,000 บาท จะลดลงเรื่อยตามจำนวน "เงินต้นคงเหลือ" ที่กู้ไว้
เงื่อนไขการคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายแต่ละปี ไม่เท่ากัน
แล้วด้วยรถยนต์ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีแต่จะเสื่อมค่า
แต่บ้านถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มค่าหรือสะสมทรัพย์ได้
ก่อนซื้อรถยนต์ทุกครั้งแนะนำว่า ควรคิดให้ดีก่อนว่า "จำเป็น" จริงๆหรือเปล่า
ช่วงมีนโยบายรถคันแรก ก็ออกรถกันเป็นว่าเล่น
แต่สุดท้ายก็ผ่อนกันไม่ไหว ปล่อยให้โดนยึดกันเป็นแถบ น่าเสียดายมากๆ
(อ่านกระทู้ 6 เหตุผลที่อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์กันได้ที่นี่
http://ppantip.com/topic/35348364)
อย่าให้โลกวัตถุนิยม มาทำให้แผนการเงินในอนาคตเสียหาย
ถ้า .......... ไม่จำเป็นจริงๆ
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
www.facebook.com/moneybuffalo
เปรียบเทียบดอกเบี้ยกู้ซื้อรถและกู้ซื้อบ้าน ต่างกันยังไง ?
สินค้าที่คนนิยมซื้อแบบผ่อนชำระ ติดแบบอันดับต้นๆ คือ รถยนต์และบ้าน
และเมื่อเราเลือกที่จะผ่อนชำระรถยนต์และบ้าน
ก็จะมีประเด็นเรื่อง "ดอกเบี้ย" ที่ต้องให้ความสนใจเพิ่มเติม
รู้หรือไม่ว่าระหว่าง "ดอกเบี้ยกู้ซื้อรถ" กับ "ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน" นั้น
มีความแตกต่างในการคิดดอกเบี้ยอย่างชัดเจน
ลองมาดูที่ดอกเบี้ยการซื้อ "รถยนต์" กันก่อน
สมมติให้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถยนต์อยู่ที่ 5% ต่อปี
รถมูลค่า 1,000,000 บาท
เราวางดาวน์ไป 250,000 บาท แสดงว่าเราต้องผ่อนชำระอีก 750,000 บาท
สมมติว่าผ่อน 5 ปี ทั้งหมด 5 งวด สมมติให้จ่ายรายปี เพื่อง่ายต่อการคำนวณ
ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายเท่ากับ
750,000 x 5% = 37,500 บาทต่อปี
จำนวน 5 ปี ; 37,500 x 5 ปี = 187,500 บาท
เท่ากับว่าเราติดหนี้ทั้งหมด
750,000 บาท + 187,500 บาท = 937,500 บาท
แสดงว่าเราต้องผ่อนปีละ 187,500 บาท
มาลองดูดอกเบี้ยการซื้อ "บ้าน" บ้าง ให้ราคาบ้าน
การวางเงินดาวน์ และ ดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากันเลยจากตัวอย่างที่แล้ว
สมมติให้จ่ายรายปีเช่นเดียวกัน
ดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 750,000 x 5% = 37,500 บาท
สมมติว่าจ่ายปีแรก 187,500 บาท เท่ากับการผ่อนรถเลยแล้วกันนะ
เราจ่ายดอกเบี้ย 37,500 บาท จ่ายเงินต้นเท่ากับ เท่ากับ 150,000 บาท (187,500 - 37,500)
มาดูเริ่มที่ปีที่สอง
ยอดกู้สุทธิเหลือ 600,000 บาท
600,000 x 5% = 30,000 บาท
......
....
..
.
เห็นความต่างกันมั้ย ?
จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถ
จะคิดจาก "เงินกู้ก้อนแรก" เสมอ
ทำให้ดอกเบี้ย 37,500 บาทตลอด 5 ปี
แต่สำหรับดอกเบี้ยบ้านคิดจาก "ยอดสุทธิ"
ปีแรกดอกเบี้ย 37,500 บาท
ปีสอง 30,000 บาทและลดลงเรื่อยๆ
"การผ่อนรถ"
เรียกวิธีแบบนี้ว่า การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่
ตลอดระยะเวลาที่ผ่อน (Flat Rate) จากตัวอย่างดอกเบี้ยปีละ 37,500 บาทเป็นเวลา 5 ปี
แต่ถ้าเป็นดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านจะคิดจาก จำนวนเงินที่เราติดค้างให้แต่ละงวด
เรียกว่า การคิดดอกเบี้ยแบบอย่างง่าย (Simple Interest)
จากตัวอย่างดอกเบี้ยปีแรก 37,500 บาท
ปีที่สอง 30,000 บาท จะลดลงเรื่อยตามจำนวน "เงินต้นคงเหลือ" ที่กู้ไว้
เงื่อนไขการคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายแต่ละปี ไม่เท่ากัน
แล้วด้วยรถยนต์ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีแต่จะเสื่อมค่า
แต่บ้านถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มค่าหรือสะสมทรัพย์ได้
ก่อนซื้อรถยนต์ทุกครั้งแนะนำว่า ควรคิดให้ดีก่อนว่า "จำเป็น" จริงๆหรือเปล่า
ช่วงมีนโยบายรถคันแรก ก็ออกรถกันเป็นว่าเล่น
แต่สุดท้ายก็ผ่อนกันไม่ไหว ปล่อยให้โดนยึดกันเป็นแถบ น่าเสียดายมากๆ
(อ่านกระทู้ 6 เหตุผลที่อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์กันได้ที่นี่ http://ppantip.com/topic/35348364)
อย่าให้โลกวัตถุนิยม มาทำให้แผนการเงินในอนาคตเสียหาย
ถ้า .......... ไม่จำเป็นจริงๆ
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
www.facebook.com/moneybuffalo