เรื่องนี้หายไปหลายอาทิตย์จนลืมแล้ว คราวนี้เอาจริงแล้วค่ะ จะลงสลับกับ จำหลักไว้ในสายลม แน่นอนชัวร์ปึ๊ก
ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ ถวิลหาถนนสายฝัน, จารย์จี GTW, คุณนันท์ turtle_cheesecake, น้องนุ้ย ณวลี, คุณซูซี่ Susisiri, คุณเขมปัณณ์ แมวอ้วนตัวนั้น ชื่อO-iamBear , น้องแพรว thezircon, คุณหญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง, คุณ nasa nasa, ขอบคุณ คุณสมาชิกหมายเลข 1399661 ที่ทวงเรื่องนี้ค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ
http://ppantip.com/topic/32705425
บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/32747704
บทที่ ๒
http://ppantip.com/topic/32775622
บทที่ ๓
http://ppantip.com/topic/32798708
บทที่ ๔
http://ppantip.com/topic/32839123
บทที่ ๕
http://ppantip.com/topic/32895410
บทที่ ๖
http://ppantip.com/topic/32962172
บทที่ ๗
http://ppantip.com/topic/33348347
บทที่ ๘
http://ppantip.com/topic/33386316
บทที่ ๙
http://ppantip.com/topic/33473975
บทที่ ๑๐
http://ppantip.com/topic/33583297
บทที่ ๑๑
http://ppantip.com/topic/35265605
บทที่ ๑๒
เห็นร่างผ่ายผอมนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้แล้วแก้วตาแทบสะกดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อดีตขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้เคยรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน เวลานี้ดูอ่อนแอและร่วงโรยจนน่าใจหาย เป็นเครื่องยืนยันด้วยว่าสงครามไม่เคยปรานีใครเพราะถ้าในยามปกติเชื่อแน่ว่าท่านคงไม่ทรุดเร็วขนาดนี้
“คุณพ่อหลับไปได้สักพักแล้ว” พี่สะใภ้ของเธอกระซิบบอก
“พี่วาสนาเฝ้าคุณพ่ออยู่ทั้งคืนเลยหรือคะ” เห็นสีหน้าอิดโรยของภรรยาพี่ชายคนโตแล้วเธอบอกได้ไม่ยาก
“คุณพ่อกระสับกระส่ายทั้งคืน พี่ไกรกับพี่ก็เลยคิดว่าควรมีใครสักคนอยู่กับท่าน ที่นี่คนไข้แน่นอย่างที่เห็นนี่แหละ กลัวว่าหมอพยาบาลจะดูได้ไม่ทั่วถึง”
เหลียวมองรอบตัวแก้วตาก็เห็นจริงตามนั้น ห้องคนไข้รวมห้องนี้แออัดกว่าห้องพักคนไข้ที่โรงศิริราชพยาบาลมาก ทั้งยังเห็นได้ชัดด้วยว่ามีการเสริมเตียงเข้ามามากกว่าที่ขนาดของห้องจะรับได้ และอาจเป็นเพราะความแออัดนั้นก็ได้ที่ทำให้ร้อนอบอ้าวกว่าปกติทั้งๆ ที่ยังเช้าอยู่มาก และทั้งๆ ที่เป็นปลายเดือนสิบเอ็ดแท้ๆ
‘โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นของสภากาชาดไทย ที่นั่นเขารับคนไข้ที่บาดเจ็บจากถูกบอมบ์เอาไว้มาก’ เมื่อครู่ที่นั่งรถมาด้วยกันพี่เรวัตเองก็ยืนยันเช่นนั้น บอกด้วยว่าควรย้ายไปศิริราชแทน
‘พี่หาห้องให้ได้’
“ท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“เมื่อคืนไข้สูง ท่านบ่นว่าหนาวมาก พออาเจียนพี่ไกรก็ไปตามหมอเรวัตมาดู โชคดีเมื่อคืนหมอเขาไม่ได้ไปอยู่เวร”
แก้วตาเหลียวหาคนที่พี่วาสนาพูดถึงก็เห็นกำลังเจรจาอะไรบางอย่างกับพยาบาลซึ่งเห็นมีอยู่เพียงคนเดียว
รู้สึกถึงกระแสลมอุ่นๆ เธอแหงนมองเพดานก็เห็นพัดลมกำลังหมุนช้าๆ คงเพื่อระบายอากาศมากว่าให้ความเย็น หากก็เร็วพอทำให้ไม่สบายใจเมื่อคิดถึงสภาพของบิดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องหนึ่งเรียกได้ว่าอยู่เหนือเตียงของท่านเลยก็ว่าได้
“พัดลมนั่น…จะทำให้อาการไข้ของคุณพ่อเลวลงได้ไหมคะ”
“พี่ก็ห่วงอยู่เหมือนกัน หมอเรวัตกำลังพยายามขอย้ายท่านไปโรงศิริราชพยาบาล พี่ไกรก็เห็นด้วย นี่คงกำลังรอให้หมอคนที่ตรวจคุณพ่อเมื่อคืนมาอนุญาตเสียก่อน”
“แล้วพี่ไกรไปไหนคะ”
“ไปหายาให้คุณพ่อ”
นั่นฟังดูแปลกประหลาด พ่อของเธอมานอนอยู่ในโรงพยาบาลแท้ๆ แต่ทำไมพี่ชายเธอกลับต้องออกไปหายามาให้จากที่อื่น
“ทั้งหมอเรวัตทั้งหมอที่นี่บอกว่าดูจากอาการสงสัยว่าคุณพ่อจะเป็นไข้จับสั่น”
“อาการเริ่มต้นน่ะแก้ว” เสียงทุ้มๆ ที่ขัดขึ้นนั้นมาจากทางด้านหลัง
แก้วตาเหลียวขวับไปดูก็พอดีกับเขาวางเก้าอี้ไม้ที่ยกมาให้ แตะบ่าเธอเป็นเชิงบอกให้ลงนั่ง
“มาลาเรียต้องรักษาด้วยยาควินิน”
ร่างสูงโปร่งมาหยุดยืนเคียงข้าง ก่อนโน้มตัวลงใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของคนไข้สูงวัย
“ที่นี่ไม่มียาควินินเหลือเลย ที่ศิริราชก็ไม่มี ตอนนี้ก็เลยได้แต่ประทังอาการไปก่อน” สุ้มเสียงของเขาเบาจนเกือบเป็นกระซิบ
คราวนี้เธอเข้าใจแล้ว พอรู้มาบ้างเหมือนกันว่าเวลานี้ยาซึ่งส่งตรงมาจากต่างประเทศขาดแคลนแทบจะทุกประเภท ในเมื่ออ่าวไทยปิดก็ไม่มีเรือสินค้าใดๆ เข้ามาได้อีก
“ยิ่งยาควินินยิ่งหายากเพราะใช้ได้ทั้งรักษาทั้งป้องกันไข้ป่า ที่พอมีอยู่บ้างพวกญี่ปุ่นก็ยึดไปหมด”
“พี่ไกรบอกว่าอาจมีที่หลุดรอดมาได้” พี่วาสนาเสริมขึ้น “พี่ไกรว่าอาจหาคนเซ็งลี้ยาได้”
“เซ็งลี้หรือคะ” แก้วตาคราง
ลังในห้องเก็บของพวกนั้น…เป็นข้าวของที่คุณราศีเก็บไว้เพื่อเซ็งลี้ จะมีอะไรบ้างเธอไม่เคยรู้เพราะไม่เคยเปิดดูแม้แต่ใบเดียว แม้แต่ใบที่พลรบเปิดเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างเมื่อคืนเธอก็ไม่คิดจะถามว่ามีอะไรอยู่ในนั้น หลังจากที่เขาออกจากบ้านไปพร้อมกับคุณนิวัฒน์และพี่เอื้อ เธอก็ไม่คิดแม้จะลองเปิดดู ในเมื่อตระหนักอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นผู้ขออยู่อาศัยเพียงชั่วคราว ไม่เหมาะแน่ที่จะรื้อค้นข้าวของของผู้เป็นเจ้าของบ้าน
แต่เวลานี้เมื่อมาคิดดู ในลังเหล่านั้นจะมียาบ้างหรือเปล่า จะมียาควินินที่เพิ่งรู้เอาก็ตอนนี้ว่ามีค่ายิ่งกว่าทองคำอยู่บ้างหรือเปล่า ทางเดียวที่จะรู้ได้คือต้องแอบเปิดดู และถ้ามีก็คงต้องหาทางไปขอซื้อจากคุณราศี หล่อนคงเข้าใจความจำเป็น
เพียงเธอ (บทที่ ๑๒)
ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ ถวิลหาถนนสายฝัน, จารย์จี GTW, คุณนันท์ turtle_cheesecake, น้องนุ้ย ณวลี, คุณซูซี่ Susisiri, คุณเขมปัณณ์ แมวอ้วนตัวนั้น ชื่อO-iamBear , น้องแพรว thezircon, คุณหญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง, คุณ nasa nasa, ขอบคุณ คุณสมาชิกหมายเลข 1399661 ที่ทวงเรื่องนี้ค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ http://ppantip.com/topic/32705425
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32747704
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32775622
บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/32798708
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/32839123
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/32895410
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/32962172
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/33348347
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/33386316
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/33473975
บทที่ ๑๐ http://ppantip.com/topic/33583297
บทที่ ๑๑ http://ppantip.com/topic/35265605
เห็นร่างผ่ายผอมนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้แล้วแก้วตาแทบสะกดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อดีตขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้เคยรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน เวลานี้ดูอ่อนแอและร่วงโรยจนน่าใจหาย เป็นเครื่องยืนยันด้วยว่าสงครามไม่เคยปรานีใครเพราะถ้าในยามปกติเชื่อแน่ว่าท่านคงไม่ทรุดเร็วขนาดนี้
“คุณพ่อหลับไปได้สักพักแล้ว” พี่สะใภ้ของเธอกระซิบบอก
“พี่วาสนาเฝ้าคุณพ่ออยู่ทั้งคืนเลยหรือคะ” เห็นสีหน้าอิดโรยของภรรยาพี่ชายคนโตแล้วเธอบอกได้ไม่ยาก
“คุณพ่อกระสับกระส่ายทั้งคืน พี่ไกรกับพี่ก็เลยคิดว่าควรมีใครสักคนอยู่กับท่าน ที่นี่คนไข้แน่นอย่างที่เห็นนี่แหละ กลัวว่าหมอพยาบาลจะดูได้ไม่ทั่วถึง”
เหลียวมองรอบตัวแก้วตาก็เห็นจริงตามนั้น ห้องคนไข้รวมห้องนี้แออัดกว่าห้องพักคนไข้ที่โรงศิริราชพยาบาลมาก ทั้งยังเห็นได้ชัดด้วยว่ามีการเสริมเตียงเข้ามามากกว่าที่ขนาดของห้องจะรับได้ และอาจเป็นเพราะความแออัดนั้นก็ได้ที่ทำให้ร้อนอบอ้าวกว่าปกติทั้งๆ ที่ยังเช้าอยู่มาก และทั้งๆ ที่เป็นปลายเดือนสิบเอ็ดแท้ๆ
‘โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นของสภากาชาดไทย ที่นั่นเขารับคนไข้ที่บาดเจ็บจากถูกบอมบ์เอาไว้มาก’ เมื่อครู่ที่นั่งรถมาด้วยกันพี่เรวัตเองก็ยืนยันเช่นนั้น บอกด้วยว่าควรย้ายไปศิริราชแทน ‘พี่หาห้องให้ได้’
“ท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“เมื่อคืนไข้สูง ท่านบ่นว่าหนาวมาก พออาเจียนพี่ไกรก็ไปตามหมอเรวัตมาดู โชคดีเมื่อคืนหมอเขาไม่ได้ไปอยู่เวร”
แก้วตาเหลียวหาคนที่พี่วาสนาพูดถึงก็เห็นกำลังเจรจาอะไรบางอย่างกับพยาบาลซึ่งเห็นมีอยู่เพียงคนเดียว
รู้สึกถึงกระแสลมอุ่นๆ เธอแหงนมองเพดานก็เห็นพัดลมกำลังหมุนช้าๆ คงเพื่อระบายอากาศมากว่าให้ความเย็น หากก็เร็วพอทำให้ไม่สบายใจเมื่อคิดถึงสภาพของบิดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องหนึ่งเรียกได้ว่าอยู่เหนือเตียงของท่านเลยก็ว่าได้
“พัดลมนั่น…จะทำให้อาการไข้ของคุณพ่อเลวลงได้ไหมคะ”
“พี่ก็ห่วงอยู่เหมือนกัน หมอเรวัตกำลังพยายามขอย้ายท่านไปโรงศิริราชพยาบาล พี่ไกรก็เห็นด้วย นี่คงกำลังรอให้หมอคนที่ตรวจคุณพ่อเมื่อคืนมาอนุญาตเสียก่อน”
“แล้วพี่ไกรไปไหนคะ”
“ไปหายาให้คุณพ่อ”
นั่นฟังดูแปลกประหลาด พ่อของเธอมานอนอยู่ในโรงพยาบาลแท้ๆ แต่ทำไมพี่ชายเธอกลับต้องออกไปหายามาให้จากที่อื่น
“ทั้งหมอเรวัตทั้งหมอที่นี่บอกว่าดูจากอาการสงสัยว่าคุณพ่อจะเป็นไข้จับสั่น”
“อาการเริ่มต้นน่ะแก้ว” เสียงทุ้มๆ ที่ขัดขึ้นนั้นมาจากทางด้านหลัง
แก้วตาเหลียวขวับไปดูก็พอดีกับเขาวางเก้าอี้ไม้ที่ยกมาให้ แตะบ่าเธอเป็นเชิงบอกให้ลงนั่ง
“มาลาเรียต้องรักษาด้วยยาควินิน”
ร่างสูงโปร่งมาหยุดยืนเคียงข้าง ก่อนโน้มตัวลงใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของคนไข้สูงวัย
“ที่นี่ไม่มียาควินินเหลือเลย ที่ศิริราชก็ไม่มี ตอนนี้ก็เลยได้แต่ประทังอาการไปก่อน” สุ้มเสียงของเขาเบาจนเกือบเป็นกระซิบ
คราวนี้เธอเข้าใจแล้ว พอรู้มาบ้างเหมือนกันว่าเวลานี้ยาซึ่งส่งตรงมาจากต่างประเทศขาดแคลนแทบจะทุกประเภท ในเมื่ออ่าวไทยปิดก็ไม่มีเรือสินค้าใดๆ เข้ามาได้อีก
“ยิ่งยาควินินยิ่งหายากเพราะใช้ได้ทั้งรักษาทั้งป้องกันไข้ป่า ที่พอมีอยู่บ้างพวกญี่ปุ่นก็ยึดไปหมด”
“พี่ไกรบอกว่าอาจมีที่หลุดรอดมาได้” พี่วาสนาเสริมขึ้น “พี่ไกรว่าอาจหาคนเซ็งลี้ยาได้”
“เซ็งลี้หรือคะ” แก้วตาคราง
ลังในห้องเก็บของพวกนั้น…เป็นข้าวของที่คุณราศีเก็บไว้เพื่อเซ็งลี้ จะมีอะไรบ้างเธอไม่เคยรู้เพราะไม่เคยเปิดดูแม้แต่ใบเดียว แม้แต่ใบที่พลรบเปิดเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างเมื่อคืนเธอก็ไม่คิดจะถามว่ามีอะไรอยู่ในนั้น หลังจากที่เขาออกจากบ้านไปพร้อมกับคุณนิวัฒน์และพี่เอื้อ เธอก็ไม่คิดแม้จะลองเปิดดู ในเมื่อตระหนักอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นผู้ขออยู่อาศัยเพียงชั่วคราว ไม่เหมาะแน่ที่จะรื้อค้นข้าวของของผู้เป็นเจ้าของบ้าน
แต่เวลานี้เมื่อมาคิดดู ในลังเหล่านั้นจะมียาบ้างหรือเปล่า จะมียาควินินที่เพิ่งรู้เอาก็ตอนนี้ว่ามีค่ายิ่งกว่าทองคำอยู่บ้างหรือเปล่า ทางเดียวที่จะรู้ได้คือต้องแอบเปิดดู และถ้ามีก็คงต้องหาทางไปขอซื้อจากคุณราศี หล่อนคงเข้าใจความจำเป็น