คนเคยกล่าวไว้ คนที่มีศีล ศรัทธา จาคะเสมอกัน น่าจะหมายถึง คนที่มีความคิดเห็น ความเชื่อ ทัศนคติ คล้ายๆกัน
แต่จากสิ่งที่เราประสบพบเจอมานั้น...ไม่ถูกต้องเสมอไป ซึ่งก็คือเรื่องราวของเรานั่นเอง
อาจเป็นเพราะวิบากกรรมที่เราคงเคยได้ทำร่วมกันกับเขาไว้แต่ชาติปางก่อน ทำให้เราได้รับวิบากกรรมในเรื่องของความรักร่วมกับเขาในชาตินี้
เรารู้จัก ผู้ชาย คนหนึ่ง ผ่านการแนะนำของคนรู้จัก ซึ่งได้รับการกลั่นกรองมาเบื้องต้นแล้วว่าเขาเป็นคนดี ธรรมะ ธรรมโม จิตใจดี รักพ่อ แม่ การศึกษาดี และมี Life style หลายๆอย่างใกล้เคียงกับเรา
ภาพที่เขาสร้างไว้ต่อคนภายนอกว่าเป็นคนดีนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างไว้หลอกลวงคนอื่น ตลอดเวลาที่คบกันมา ด้วยสถานะที่ไม่ชัดเจนระหว่างเรา 2 คน แม้จะรู้กันดีว่าคบกันสถานะที่มากกว่าคำว่าเพื่อน มันทำให้เราเกิดความลังเลและสงสัยในตัวเขามาโดยตลอด เขาเป็นผู้ชายนิ่งๆ พูดน้อย ประมาณเหมือนคนมีโลกส่วนตัวสูง ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ทำเหมือนไม่ค่อยแคร์ และสนใจเรามากนัก
แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ถูกเปิดเผย...เราจับได้ว่าเขา คบซ้อน!! เขาปิดบังสถานะระหว่างเขากับผู้หญิงคนหนึ่ง (ผู้หญิงคนนั้นผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว มีลูกติด เขา 2 คนรู้จักกันมาก่อนหน้าเราไม่นานนัก) เขาโกหกทุกคน โดยไม่มีใครล่วงรู้ความจริงมาก่อน ที่ผ่านมาคนใกล้ตัวคิดว่าเขายังโสด และตัวเขาเองเป็นคนบอกให้คนรู้จัก คือเพื่อนเรา แนะนำผู้หญิงดีๆให้เขารู้จักสักคน
พอเราสอบถามความจริงเรื่องผู้หญิงคนนั่น กลับได้รับคำตอบจากเขาว่า ระหว่างเขา 2 คน เป็นเพียงเพื่อนทางธรรมกันเท่านั้น (เราจับได้ว่าเขาไปถือศีลด้วยกันมา) เขาโกหกว่าไปคนเดียว เราเข้าใจผิดมาโดยตลอดถึงสิ่งที่เขาพยายามชี้แนะถึงเรื่อง บาป บุญ คุณโทษ ผลแห่งบุญกุศลในการแผ่เมตตา นั่งสมาธิ ที่เขาพยายามจะสื่อกับเรา ชี้แนะถึงสังขารว่ามีย่อมมีวันเสื่อมไป (แต่ตัวเขาเองยังละกิเลส และความยับยั้งชั่งใจไม่ได้เลย)
ตอนนี้เราปล่อยวางแล้ว และตัดใจเดินออกมาจากชีวิตเขา แม้เราจะทรมานและเจ็บเจียนตาย แต่คิดว่าครั้งนี้คงเป็นบทเรียนที่สำคัญในการคิดจะคบใคร มันสอนให้เราเข้มแข็ง และท่าทันคนมากขึ้น การนิยามคำว่าเป็นคนดีนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ถึงความดีในส่วนลึกของมโนจิตได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นครูสอนให้เราได้เรียนรู้ถึงคำๆหนึ่งที่ว่า จิตใจมนุษย์..ยากแท้หยั่งถึงและคำว่าศีลเสมอกัน อาจใช้ไม่ได้กับคนบางคนที่ไม่มีจิตสำนึกของคำว่าพอ
คนมีศีลเสมอกัน...ใช่ว่าจะเป็นคนดีเสมอเหมือนกันหรือไม่
แต่จากสิ่งที่เราประสบพบเจอมานั้น...ไม่ถูกต้องเสมอไป ซึ่งก็คือเรื่องราวของเรานั่นเอง
อาจเป็นเพราะวิบากกรรมที่เราคงเคยได้ทำร่วมกันกับเขาไว้แต่ชาติปางก่อน ทำให้เราได้รับวิบากกรรมในเรื่องของความรักร่วมกับเขาในชาตินี้
เรารู้จัก ผู้ชาย คนหนึ่ง ผ่านการแนะนำของคนรู้จัก ซึ่งได้รับการกลั่นกรองมาเบื้องต้นแล้วว่าเขาเป็นคนดี ธรรมะ ธรรมโม จิตใจดี รักพ่อ แม่ การศึกษาดี และมี Life style หลายๆอย่างใกล้เคียงกับเรา
ภาพที่เขาสร้างไว้ต่อคนภายนอกว่าเป็นคนดีนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างไว้หลอกลวงคนอื่น ตลอดเวลาที่คบกันมา ด้วยสถานะที่ไม่ชัดเจนระหว่างเรา 2 คน แม้จะรู้กันดีว่าคบกันสถานะที่มากกว่าคำว่าเพื่อน มันทำให้เราเกิดความลังเลและสงสัยในตัวเขามาโดยตลอด เขาเป็นผู้ชายนิ่งๆ พูดน้อย ประมาณเหมือนคนมีโลกส่วนตัวสูง ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ทำเหมือนไม่ค่อยแคร์ และสนใจเรามากนัก
แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ถูกเปิดเผย...เราจับได้ว่าเขา คบซ้อน!! เขาปิดบังสถานะระหว่างเขากับผู้หญิงคนหนึ่ง (ผู้หญิงคนนั้นผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว มีลูกติด เขา 2 คนรู้จักกันมาก่อนหน้าเราไม่นานนัก) เขาโกหกทุกคน โดยไม่มีใครล่วงรู้ความจริงมาก่อน ที่ผ่านมาคนใกล้ตัวคิดว่าเขายังโสด และตัวเขาเองเป็นคนบอกให้คนรู้จัก คือเพื่อนเรา แนะนำผู้หญิงดีๆให้เขารู้จักสักคน
พอเราสอบถามความจริงเรื่องผู้หญิงคนนั่น กลับได้รับคำตอบจากเขาว่า ระหว่างเขา 2 คน เป็นเพียงเพื่อนทางธรรมกันเท่านั้น (เราจับได้ว่าเขาไปถือศีลด้วยกันมา) เขาโกหกว่าไปคนเดียว เราเข้าใจผิดมาโดยตลอดถึงสิ่งที่เขาพยายามชี้แนะถึงเรื่อง บาป บุญ คุณโทษ ผลแห่งบุญกุศลในการแผ่เมตตา นั่งสมาธิ ที่เขาพยายามจะสื่อกับเรา ชี้แนะถึงสังขารว่ามีย่อมมีวันเสื่อมไป (แต่ตัวเขาเองยังละกิเลส และความยับยั้งชั่งใจไม่ได้เลย)
ตอนนี้เราปล่อยวางแล้ว และตัดใจเดินออกมาจากชีวิตเขา แม้เราจะทรมานและเจ็บเจียนตาย แต่คิดว่าครั้งนี้คงเป็นบทเรียนที่สำคัญในการคิดจะคบใคร มันสอนให้เราเข้มแข็ง และท่าทันคนมากขึ้น การนิยามคำว่าเป็นคนดีนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ถึงความดีในส่วนลึกของมโนจิตได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นครูสอนให้เราได้เรียนรู้ถึงคำๆหนึ่งที่ว่า จิตใจมนุษย์..ยากแท้หยั่งถึงและคำว่าศีลเสมอกัน อาจใช้ไม่ได้กับคนบางคนที่ไม่มีจิตสำนึกของคำว่าพอ