เมื่อผมมีกิ้กเป็นผู้มีเชื้อ HIV

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นผมขอเล่าประวัติผมย้อนหลังไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ผมเป็นคน ตจว เอนทรานซ์ติดมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งใน กทม. ปี 2 ผมได้ไปทำกิจกรรมในวิชาพระพุทธศาสนาที่วัดย่าน world trade center เพื่อนผู้หญิงของผมชอบดูดวงมาก เลยชวนผมไปดูดวงด้วยกัน หมอดูก็ดูดวงให้ผมและบอกว่า "ผมเป็นคนดวงเหมือนพี่เบริด ธงไชย จะไม่มีเมีย  (ก็ผมเป็นเกย์เนาะ คิดในใจนะ) แล้วก็จะมีดวงได้เดินทางไป ต่างประเทศไกลด้วย และให้ระวังเราอาจจะป่วยด้วยโรคความดันหัวใจ หรือเอดส์ได้ในอนาคต" จากคำทำนายทายทักของหมอดู มันช่างตลกมากในความคิดของผม เพราะผมเป็นคนที่พ่อแม่เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา พอมีพอกินจะมีเงินให้ผมไปต่างประเทศไกลๆได้ยังไง และอีกอย่างผมไม่มีแฟน และไม่เคยมั่วหรือมีอะไรกับใครด้วย ความเสี่ยงโรคเอดส์นี้ตัดไปได้เลย ตอนนั้นได้แต่ขำและหัวเราะหมอดูหรือหมอเดา
             จนกระทั่งผมอยู่ปี 4 ผมเรียนจบ 3ปีครึ่งและว่าอยู่เทอมหนึ่ง มีบริษัทมาแนะนำโครงการ work and travel เพื่อนผมก็ชวนผมไปฟังและทดสอบภาษาอังกฤษฟรี เอาไปเอามาโดนเพื่อนกล่อมเริ่มคล้อยตาม อยากไป work and travel ที่อเมริกาซะงั้น เลยปรึกษากับที่บ้าน อยู่ๆพ่อกับแม่ก็สนับสนุน บอกไปเลย จะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ไอ้ตัวผมก็ไม่ได้เก่งภาษาเท่าไรแต่ก็ใจนึงอยากไปต่างประเทศสักครั้ง นั้นเลยเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปต่างประเทศและเดินทางไกลด้วย มันทำให้ผมนึกถึงคำทำนายทายทักของหมอดูไป ทำไมช่างแม่นอย่างนี้ แต่โรคเอดส์ คงไม่มีทาง
จนกระทั่ง ผมwork and travel เสร็จประมาณ 3เดือน ก็กลับมาไทย และได้สอบเข้าทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจได้และทำงานที่จังหวัดบ้านเกิด ผมก็ยังไม่มีแฟนและไม่ได้มีอะไรกับใครเลย จนกระทั่งวันนึงพอทำงานมีตังหน่อยก็ซื้อสมารทโฟน iphone4s มีแอพที่ gay ชอบใช้คือ jackd ผมก็ลองโหลดมาเล่น และแล้วมันก็ทำให้ผมเริ่มมีอะไรกับใครไปมั่ว ทั้งป้องกันบ้างไม่ป้องกันบ้าง ผมก็ไปตรวจเลือดและตรวจสุขภาพประจำปีก็ไม่มีผลว่ามีเชื้อแต่อย่างใด ก็โล่งอกไปกับการใช้ชีวิตเสี่ยงๆ
            ผมเริ่มคบกับคนนึงเป็นจริงเป็นจังจนเราใช้คำว่าแฟน เราคบกันนับถึงวันนี้ก็เกือบจะ5ปีแล้ว แต่ผมกับเขาอยู่ไกลกันห่างกันประมาน400ก.ม.ได้ ด้วยความห่างและความเจ้าชู้ของผม ผมก็แอบมีกิ้กมาตลอด โดนจับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่แฟนผมคนนี้เขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และใจเย็น เขาก็ให้อภัยผมทุกครั้งที่จับได้
            จนวันนึงผมไปมีอะไรโดยไม่ป้องกันคนนึง ผมเป็นหนองในบริเวณโคนอวัยวะเพศ ผมก็ไปหาหมอช่วงนั้นผมจิตตกมาก ระหว่างนั้นความห้าวความอยากหายไปหมด ผมเลยเกริ่นกับแฟนว่า "ถ้าผมป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรง จะทิ้งฉันไหม " เขาตอบผมว่า "ต่อให้เธอป่วยพิการฉันก็จะดูแลเธอ " เขาบอกเขารักผมมาก
            จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงคำทำนายอีกครั้ง แต่ก็เหมือนผมยังมีบุญเก่าอยู่ ผมตรวจเลือดปรากฎว่าผมไม่ติดเชื้อ พอรู้เท่านั้นละ ก็รักแฟนมาก ไม่มีกิ้กไปสักระยะนึง จนวันนึงผมก็มีกิ้กอีกจนได้
             จนผมมาเจอกับกิ้กคนปัจจุบัน อยู่คนละจังหวัดกับผม เราเจอกันในงานวันเกิดของเขา ผมชอบเขาเพราะเขาคุยถูกคอ เขาเป็นคนดี ใจบุญชอบทำบุญ และวันนั้นเองผมกับเขาก็มีอะไรกัน จากนั้นเราก็ไปดูหนังเที่ยวด้วยกัน มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีเพราะเขาค่อนข้างคุยสนุกและถูกคอกับผมมาก หลังจากวันนั้นผมก็คุยกับเขาทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เปิดกล้องเฟสไทมคุยกันเรื่อยๆ จนวันนึงเขาบอกว่า เขามีความลับอยากจะบอกผม เราเลยนัดเจอกันรอบที่2 พอเจอกันเขาค่อนข้างอึดอัดใจที่จะบอก จนสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกว่าเขาติดเชื้อ HIV
           เขาบอกผมว่าเขาติดจากแฟน ที่คบกันมา 6ปี เขาไม่เคยป้องกัน เป็นเพราะเขาไว้ใจแฟนคนนี้มาก และตอนนี้เขาก็เลิกกับแฟนคนนั้นแล้ว เขารู้สึกหวาดกลัวกับความรัก ความไว้ใจ เขาช่างโชคร้ายมาก
            ผมเมื่อได้ยินเขาบอกว่าเขามีเชื้อ HIV แทนทีผมจะรังเกียจเขา ผมกลับรู้สึกเห็นใจและสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูก และผมก็รู้สึกผิด และเริ่มคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
            ผมอยากเล่าเรื่องราวนี้เผื่อเป็นอุทาหรของคนที่มั่นคงและไว้ใจคนรักมากไป โดยเฉพาะกลุ่มเกย์ ผมว่าควรจะเซฟทุกครั้งที่มีอะไรกัน ส่วนตัวผมนั้นจะมีเชื้อหรือไม่มีผมก็คงต้องรับชะตากรรมจากความเลวความเจ้าชู้และความนอกใจแฟนของผม ตอนนี้ผมยังไม่ได้ไปตรวจเพราะผมเพิ่งรู้ว่าเขามีเชื้อ HIV เมื่อวานนี้ ผมหวังว่าเรื่องผมอาจจะเตือนสติใครหลายคนที่กำลังคิดนอกใจแฟน หรือเชื่อมั่นในความรักและไว้ใจแฟนมากไป จนลืมป้องกันเซฟตัวเองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่