Day 1: เหินฟ้าจากกรุงเทพ สู่โตเกียว: http://ppantip.com/topic/35136426
Day 2: Tokyo Disneyland: http://ppantip.com/topic/35140709
Day3: Ghibli Museum/ Fujio F Fujio Museum: http://ppantip.com/topic/35373694
Day 4: Cup Noodle Museum Yokohama: http://ppantip.com/topic/35376458
Day 5: One fine day in Kawaguchiko: http://ppantip.com/topic/35380472
Day 7: Ueno/ สนามบินนาริตะ: http://ppantip.com/topic/35402046

ในที่สุดก็มาถึงวันที่ 6 กันแล้วนะคะ ฝนตกอีกต่างหาก วันนี้เราจะไปเที่ยวเมืองเก่าที่ชื่อว่า "เมืองคาวาโกเอะ"  เมืองคาวาโกเอะนี้เป็นเมืองเก่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเกียวโตน้อย หรือ Koedo ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ห่างจากกรุงโตเกียวเพียง 30 นาที เมืองคาวาโกเอะมีเสน่ห์แบบโบราณที่ยังคงสภาพให้เราได้เห็นจนถึงทุกวันนี้ อดีตหัวเมืองสำคัญในสมัยเอะโดะด้วยนะ การเดินทาง ที่เร็วและถูกที่สุดคือ เดินทางด้วยสาย Tobu Tojo จากสถานี Ikebukuro ใช้เวลา 30 นาที ขบวน Express ราคา 450 เยน จาก Shinjuku สามารถไปได้นะคะ 2 สายที่สามารถไปได้ คือ สาย Seibu Shinjuku (ขบวน Limited Express, 43 นาที ราคาประมาณ 890 เยน) หรือ สาย JR Kawagoe  (ขบวนธรรมดา 60 นาที ราคาประมาณ 570 เยน) เมืองคาวาโกเอะมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆให้ชมหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นถนนการค้าในสมัยโบราณ, หอระฆังประจำเมือง และศาลเจ้าเก่าๆอีกมากมาย เราสามารถเดินเที่ยวทั่วทั้งเมืองได้ หรือจะใช้บริการรถ Koedo Loop Bus (ตั๋ววัน 300 เยน) ก็จะช่วยประหยัดเวลในการเดินเท้าได้มากขึ้นพอสมควร ด้านหน้าสถานี Kawagoe จะมีถนนร้านค้า Crea Mall ถ้าใครเลือกที่จะเดินเที่ยวเมืองก็สามารถเดินตามทางนี้ไปจนสุดก็จะออกไปโผล่ย่านการค้าสมัยโบราณพอดีนะคะ มีร้านค้าขนานกันไปทั้ง 2 ข้างทางเลยนะคะ เดินไปซักพักจะเริ่มเข้าโซนย่านการค้าโบราณKurazukuri Street ในสมัยเอโดะ เมืองคาวาโกเอะจึงเป็นเมืองการค้าที่มีความสำคัญมาก เพราะจะต้องจัดส่งลำเลียงข้าวรวมถึงวัตถุดิบอื่นๆให้กับเมืองหลวงอย่างเอโดะ ซึ่งก็คือโตเกียวในปัจจุบัน ในอดีตมีโกดังกว่า 200 หลังแต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงไม่กี่สิบหลังเท่านั้น   บ้านหลายหลังถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร บ้านเก่าในโซนนี้จะมีอยู่สองฝั่งถนนถ้ามาเที่ยววันธรรมดาคนไม่ค่อยเยอะ เมืองนี้ไม่ค่อยเจอคนไทย อาจจะไม่เป็นที่รู้จักซักเท่าไหร่ บ้านเก่าแต่ละหลังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก สไตล์เอโดะแท้ๆ เดินไปเดินมาท่ามกลางฝนพร่ำ เจอร้านขายข้าวย่าง (หรือข้าวปิ้งหว่า) ลองซื้อมาลองดีก่า จัดปายย ตรงข้ามร้านขายข้างย่าง มีร้านขายขนมที่ทำจากมันหวานล้วนๆ ดูน่ากินมากค่ะ ร้านนี้เจ้าของร้านให้ชิมจนจะอิ่มเลยทีเดียว (มัวแต่ชิม ลืมถ่ายรูปคร้าาา) เมืองนี้มีอะไรสวยๆ น่าชมเยอะ ทั้งบ้านเมืองเก่า, วัด, ย่านขายขนม เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ มีความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ใครยังไม่เคยไปแนะนให้ลองไปกันดูนะคะ อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและเดินทางสะดวกมาก แต่ก่อนจะกลับเนี่ย เราก็ต้องไปลองขึ้นชื่อของเมืองนี้ซักหน่อย นั่นก็คือ ข้าวหน้าปลาไหล ร้านนี้ได้รับความนิยมพอสมควรนะคะ เราต้องจองคิวก่อน จะมีพนักงานมารับจองนะคะ เมนูที่นี่ราคาไม่ธรรมดา.....เหอๆ แต่มาถึงนี่แล้วไม่มีถอยแหงมๆ สั่งค่ะ บอกเลยว่าอร่อยมากกกก หลังจากนี้เราจะไปกันที่เมือง อาซากุสะ เพื่อไปวัดเซ็นโซจิกันนะคะ วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple) เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะ จนบางคนนิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง (Asakusa Kannon Temple) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว ถนนทางเข้าวัดเซนโซจิ ก็คือถนนนากามิเซะ ที่รวบรวมร้านค้าต่างๆย้อนยุคเอโดะ ในระยะทาง 250 เมตรนี่ก็มีร้านค้าร่วมร้อยร้านในคุณเลือกช้อป การไหว้พระขอพร ในวัดญี่ปุ่นทั่วๆไปก็จะเริ่มจากการล้างมือ ป้วนปาก ชำระร่างกายตรงบ่อน้ำทางเข้าวัด ก็จะให้เราใช้มือขวาตักน้ำล้างมือซ้าย แล้วใช้มือซ้ายถือกระบวยตักน้ำล้างมือขวาบ้าง แล้วใช้มือขวาตักน้ำใส่มือซ้ายเพื่อบ้วนปากอีกครั้ง ก่อนจะวางกระบวยเก็บ ต่อไปก็เป็นการโบกควันจากกระถางธูปเข้าหาตัวเรา เชื่อว่าจะนำโชคลาภและสุขภาพดีไปกับตัวเรา และก็ขึ้นมาไหว้องค์พระประธานกันค่ะ โค้งคำนับ เราเคยมาที่นี่กับทัวร์ครั้งนึง เขาบอกว่าให้โยนเหรียญ 5 เยนลงในกล่องบริจาคด้วย เพราะเหรียญ 5 เยน ออกเสียงว่า go-en พ้องเสียงกับคำว่า ผูกพัน เขาว่ากันว่า เราจะได้ผูกพันกับพระพุทธเจ้า หลังจากนั้นเราก็โค้งคำนับสองครั้ง ปรบมือสองครั้ง ก่อนที่จะตั้งจิตอธิฐานขอพร แล้วโค้งคำนับ จบค่ะ

ถ้าใครจะเสี่ยงเซียมซี ก็สามารถรับคำทำนายได้นะคะ โดยการหยอดใส่ตู้ไป 100 เยน และเริ่มเขย่ากระบอกเซียมซี ตัวเลขจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราสามารถเอาไม้ที่มีหมายเลข ไปเทียบกับหมายเลยบนตู้ได้นะคะ เมื่อได้คำทำนายแล้วก็เอาไม้เก็บกลับไปในกระบอกได้เลยค่ะ หลังจากนั้นเราก็มาอ่านคำทำนายกัน ใครได้คำทำนายดีก็เก็บเอาไว้นะคะ แต่ถ้าใครได้คำทำนายไม่ดี ก็สามารถแก้เคล็ดได้โดยผูกคำทำนายทิ้งไว้ที่วัดก็ได้ค่ะ ทางวัดจะทำพิธีให้ในภายหลังค่ะ

หลังจากที่เราไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเดินเล่นกันต่อนะคะ ไปรอบนี้เราได้เห็นว่าทางวัดมีการขยายพื้นที่ร้านค้าเพิ่มขึ้น ถ้าเดินออกมาจากที่ไหว้พระ มาทางด้านขวามีการขยายพื้นที่เพื่อเปิดร้านมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อนๆลองไปดูกันนะคะ เราชอบมาซื้อเมลอนปังมาก ตอนแรกคิดว่าร้านปิดไปแล้ว กลายเป็นว่าเขาย้ายไปที่เปิดพื้นที่ใหม่ของวัดค่ะ แล้วเราก็เดินไปหาอะไรทานกันค่ะ......