สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้เราจะมาshare ทริปเที่ยวญีปุ่นตัวเอง 6 คืน 7 วัน (8-14 ธันวาคม 2015) โซนโตเกียวและรอบๆค่ะ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราได้โปรจากเจ้าป้า การบินไทยนี่เอง

จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางต่างๆ ที่ได้ไปพบเจอ มาให้ได้ชมกัน เผื่อจะได้เป็นไอเดียสำหรับคนที่คิดจะไปเที่ยวเองนะคะ สำหรับทริปนี้เราเป็นครั้งที่ 2 ที่เราไปเที่ยวเองนะคะ หากรีวิวข้อมูลตรงไหนผิดพลาดไป ก็รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ เพื่อนกะเราอยากไปญี่ปุ่น แต่ไม่อยากไปกับทัวร์ เลยมาคุยกันว่าจะไปโซนไหนดี สำหรับเราคิดว่าเริ่มจากโตเกียวก็ดีนะ จากนั้นเราก็เริ่มหาตั๋ว จนได้โปรของการบินไทยค่ะ อยู่ที่คนละ 17,340 บาทต่อคนนะคะ นั่ง A380 ไปและกลับ

เราวางแพลนไว้แบบนี้ค่ะ
Day 1: กรุงเทพ - โตเกียว แค่เดินเล่นชินจุกุ เพราะไปถึงก็ 3 - 4 โมงแล้ว
Day 2: Tokyo Disneyland:
http://ppantip.com/topic/35140709
Day3: Ghibli Museum/ Fujio F Fujio Museum:
http://ppantip.com/topic/35373694
Day 4: Cup Noodle Museum Yokohama:
http://ppantip.com/topic/35376458
Day 5: One fine day in Kawaguchiko:
http://ppantip.com/topic/35380472
Day 6: Kawagoe/ Sensoji Temple:
http://ppantip.com/topic/35401444
Day 7: Ueno/ สนามบินนาริตะ:
http://ppantip.com/topic/35402046
ของที่ต้องเตรียมก่อนไป
1. E-ticket ของสายการบิน
2. Passport ห้ามลืมนะคะ
3. Hotel Booking Confirmation โรงแรมเราจองกับ Booking.com
4. Ticket เข้า Ghibli Museum/ Fujio F Fujio Museum ตั๋ว 2 ที่นี้เราฝากเพื่อนที่บินไปเที่ยวก่อนซื้อให้ที่ lawson ค่ะ ตั๋วจะสามารถซื้อล่วงหน้าได้ 1 เดือน
5. Disneyland 1 day pass: ซื้อได้ตาม Agent อย่าง Easy&save, H.I.S นะคะ ซื้อจากที่นี่ไป เพราะไม่อยากไปรอต่อคิวอันยาวนาน

6. Universal plug + ปลั๊กราง ควรนำปลั๊กรางไปด้วยนะคะ เพราะที่ที่พักที่ญี่ปุ่นมีปลั๊กน้อยมาก
7. Pocket Wifi อันนี้แล้วแต่เพื่อนๆเลยนะค่ะ ว่าอยากจะใช้เจ้าไหน สำหรับเราเลือก Easy Wifi ดูรายละเอียดได้จาก
http://www.easyandsave.com/index.php/easy-wifi
ถึงวันเดินทางเราก็ไป check in ที่ counter TG ทันที

พอเราได้ตัว Boarding Pass แล้วเราก็เข้ามาด้านในเลยค่ะ เพื่อไปเดินทาง Duty Fee ค่าเวลา

เมื่อถึงเวลาเราก็ไปที่ Gate ของเราทันที

ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินนาริตะ Terminal 1 เราก็เดินไปตามป้ายเพื่อเข้า ตม.ของญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลังจากผ่านตม.ออกมาแล้ว เราก็มาเลือกวิธีการเดินทางเข้าโตเกียว
การเดินทางเข้าโตเกียวไปได้อย่างแรกคือ รถบัส มี 2 แบบให้เลือกนะคะ
1. Airport Limousine Bus: จะวิ่งจากสนามบินไปยังหลายโรงแรมที่อยู่ในบริเวณโตเกียว สามารถซื้อตั๋วได้ที่ counter ในสนามบิน Staff พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ แต่ rate ก็จะแพงหน่อยนะคะ ประมาณ 3000 Yen


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.limousinebus.co.jp/en/
2.Keisei Express Bus: สามาถซื้อตั๋วได้ที่ Keisei Bus Counter เลยค่ะ คันนี้จะจอดทั้งที่ Terminal 1 และ Terminal 2 นะคะ รถบัสจะวิ่งไปที่ Tokyo Station, Sukiyabashi (Ginza), and Shinonomeshako
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.keiseibus.co.jp/global/en/
อีกแบบหนึ่งก็คือ รถไฟ มีอยู่ 2 บริษัทให้เลือกนะคะ คือ JR กะ Keisei
1. JR NARITA EXPRESS (N’EX): เป็นรถด่วนพิเศษ สามารถใช้ JR Pass ได้ ซึ่งจะต้องมีการ Reserve Seat ด้วยค่ะ รถไฟจะจอดที่ Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro and Shinagawa รายละเอียด
http://www.jreast.co.jp/e/nex/
2. KEISEI SKYLINER: เป็นรถด่วนพิเศษเหมือนกับ N’EX ซึ่งจะต้องมีการ Reserve Seat เช่นกัน ราคาตั๋วประมาณ 2,400 เยน แต่สำหรับนักท่องเที่ยว สามารถซื้อ online ได้ที่
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/ ราคาจะอยู่ที่ 2,200 เยนต่อคนนะคะ ถ้าซื้อ online มาให้ Print e-ticket มาด้วยนะคะ แล้วมาติดต่อที่ Keisei Counter เพื่อได้ตั๋วจริงมาค่ะ หน้าตาแบบนี้ (วันที่เห็นในตัวอย่างเป็นของปี 2014 ค่ะ ตอนนี้ซื้อขาเดียว อิอิ)
Keisei นอกจาก Skyliner แล้ว ยังมีรถไฟอีก 2 แบบ ซึ่งเป็นตู้ธรรมดาไม่ต้องจองที่นั่ง คือ Access Express กับ Main Line ต่างกันตรงเส้นทางการวิ่ง Access Express จะวิ่งเส้นเดียวกับ Skyliner แต่จอดหลายสถานีกว่าทำให้รถวิ่งเข้าเมืองได้ช้ากว่า Skyliner ส่วน Main Line วิ่งอีกเส้นหนึ่ง อ้อมกว่า และจอดมากสถานีกว่า รายละเอียด
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/timetable/index.php
หลังจากนั้นเราซื้อบัตร Sucia ด้วยเพราะง่ายสำหรับการเดินทาง สำหรับเพื่อนๆลองศึกษาดูว่า แพลนของท่านจะไปไหนบ้างซื้อแบบไหนถึงจะคุ้มกว่ากันนะคะ
เราพักที่ Ikebukuro ตอนแรกจะเลือกนั่ง N’EX แต่เห็นเวลาแล้วคิดว่าไม่รอดีกว่า เราเลยเลือก ขึ้น Keisei access express ถึงช้ากว่า Skyliner หน่อยแต่โอเคนะ เรานั่งไปถึง Nipori Station แล้วไปต่อสาย Yamanote Line ไปลงที่ Ikebukuro Station
Ikebukuro Station เป็นสถานีใหญ่ อาจจะเดินแล้วงง เหอๆ ดูจาก map มึนตึบ...
ส่วนเราพักที่ Tokyu Stay Ikebukuro Hotel ถ้าใครพักที่นี่ก็ตามมาได้เลยนะคะ จาก Ikebukuro Station ไปที่ Tokyu Stay Ikebukuro Hotel ออกได้ 2 ทางคือ Exit C1, C6
Exit C1 จะใกล้กว่าหน่อย
ออกมาจาก exit C1 ก็เดินย้อนมา จะเห็นร้านชื่อ Doutor ตรงหัวมุม เลี้ยวไปเข้าไปเลยค่ะ
เดินตรงไป
ก็ถึงโรงแรมพอดี


หรือถ้าออก Exit C6
ออกจากสถานีไปทางซ้าย เดินไปจนเห็น 7-eleven แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที
และเดินตรงไปก็ถึงโรงแรมค่ะ
รอบๆที่พักจะร้านอาหาร และมินิมาร์ทอยู่รอบๆเลยนะคะ ไม่ต้องห่วง โรงแรมนี้ถือว่า ดีมาก เพราะเป็นแนว Business Hotel ไม่แคบมาก นอนสบาย ใกล้รถไฟ

หลังจากที่เราทำการ check in เก็บกระเป๋าแล้วเราก็ไปเดินเล่นที่ชินจุกุกันดีกว่า เพราะเพื่อนเราอยากไปดู Uniqlo แต่ในชินจุกุเป็น Bigqlo นะคะ เป็นตึกใหญ่รวมกันระหว่าง Big Camera กะ Uniqlo รวมกันมีประมาณ 5 ชั้นมั้ง (จำไม่ได้


)
และเมื่อเย็นมากแล้ว เริ่มหิวเราก็ไปจัด Ichiran Ramen หรือที่เราเรียกกันว่า ราเมงข้อสอบนั่นเอง อิอิ จากสถานีชินจุกุ ออก Central East exit เดินไปทางขวา อยู่ประมาณด้านหลังของ Bigqlo
มีน้ำให้ดื่มฟรีนะคะ กดจากก๊อกได้เลย
มาแล้วๆ น่ากินม๊ายยย


หลังจากกินเสร็จเราก็มาเดินย่อยกันซักหน่อย ชินจุกุเป็นสถานที่สำหรับขาช๊อปจริงๆ ร้านเยอะมาก มีร้านขายเครื่องสำอางค์เพียบ และแน่นอนคนไทยเยอะมาก เข้าไปทีได้ยินแต่ภาษาไทย เอิ๊กๆ (แอบงง อยู่ประเทศไทยหรือป่าว


)
เดินไปเดินมา ไม่วายซื้อหนมกินอีก ตอนนี้อ้วนก้อม่ายเเคร์ อิอิ
สำหรับคืนแรกก็เท่านี้ก่อนนะคะ ต้องขอโทษถ้าข้อมูลผิดพลาดนะคะ วันพรุ่งนี้เราจะไป Tokyo Disney Land กัน ;) See you!!!!

Day 2: Tokyo Disneyland:
http://ppantip.com/topic/35140709
Day 3: Ghibli Museum & Fujio F Fujio Museum:
http://ppantip.com/topic/35373694
[CR] เที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน Day 1: เหินฟ้าจากกรุงเทพ สู่โตเกียว :)
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ เพื่อนกะเราอยากไปญี่ปุ่น แต่ไม่อยากไปกับทัวร์ เลยมาคุยกันว่าจะไปโซนไหนดี สำหรับเราคิดว่าเริ่มจากโตเกียวก็ดีนะ จากนั้นเราก็เริ่มหาตั๋ว จนได้โปรของการบินไทยค่ะ อยู่ที่คนละ 17,340 บาทต่อคนนะคะ นั่ง A380 ไปและกลับ
Day 1: กรุงเทพ - โตเกียว แค่เดินเล่นชินจุกุ เพราะไปถึงก็ 3 - 4 โมงแล้ว
Day 2: Tokyo Disneyland: http://ppantip.com/topic/35140709
Day3: Ghibli Museum/ Fujio F Fujio Museum: http://ppantip.com/topic/35373694
Day 4: Cup Noodle Museum Yokohama: http://ppantip.com/topic/35376458
Day 5: One fine day in Kawaguchiko: http://ppantip.com/topic/35380472
Day 6: Kawagoe/ Sensoji Temple: http://ppantip.com/topic/35401444
Day 7: Ueno/ สนามบินนาริตะ: http://ppantip.com/topic/35402046
ของที่ต้องเตรียมก่อนไป
1. E-ticket ของสายการบิน
2. Passport ห้ามลืมนะคะ
3. Hotel Booking Confirmation โรงแรมเราจองกับ Booking.com
4. Ticket เข้า Ghibli Museum/ Fujio F Fujio Museum ตั๋ว 2 ที่นี้เราฝากเพื่อนที่บินไปเที่ยวก่อนซื้อให้ที่ lawson ค่ะ ตั๋วจะสามารถซื้อล่วงหน้าได้ 1 เดือน
5. Disneyland 1 day pass: ซื้อได้ตาม Agent อย่าง Easy&save, H.I.S นะคะ ซื้อจากที่นี่ไป เพราะไม่อยากไปรอต่อคิวอันยาวนาน
6. Universal plug + ปลั๊กราง ควรนำปลั๊กรางไปด้วยนะคะ เพราะที่ที่พักที่ญี่ปุ่นมีปลั๊กน้อยมาก
7. Pocket Wifi อันนี้แล้วแต่เพื่อนๆเลยนะค่ะ ว่าอยากจะใช้เจ้าไหน สำหรับเราเลือก Easy Wifi ดูรายละเอียดได้จาก http://www.easyandsave.com/index.php/easy-wifi
ถึงวันเดินทางเราก็ไป check in ที่ counter TG ทันที
ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินนาริตะ Terminal 1 เราก็เดินไปตามป้ายเพื่อเข้า ตม.ของญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลังจากผ่านตม.ออกมาแล้ว เราก็มาเลือกวิธีการเดินทางเข้าโตเกียว
การเดินทางเข้าโตเกียวไปได้อย่างแรกคือ รถบัส มี 2 แบบให้เลือกนะคะ
1. Airport Limousine Bus: จะวิ่งจากสนามบินไปยังหลายโรงแรมที่อยู่ในบริเวณโตเกียว สามารถซื้อตั๋วได้ที่ counter ในสนามบิน Staff พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ แต่ rate ก็จะแพงหน่อยนะคะ ประมาณ 3000 Yen
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.limousinebus.co.jp/en/
2.Keisei Express Bus: สามาถซื้อตั๋วได้ที่ Keisei Bus Counter เลยค่ะ คันนี้จะจอดทั้งที่ Terminal 1 และ Terminal 2 นะคะ รถบัสจะวิ่งไปที่ Tokyo Station, Sukiyabashi (Ginza), and Shinonomeshako
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.keiseibus.co.jp/global/en/
อีกแบบหนึ่งก็คือ รถไฟ มีอยู่ 2 บริษัทให้เลือกนะคะ คือ JR กะ Keisei
1. JR NARITA EXPRESS (N’EX): เป็นรถด่วนพิเศษ สามารถใช้ JR Pass ได้ ซึ่งจะต้องมีการ Reserve Seat ด้วยค่ะ รถไฟจะจอดที่ Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro and Shinagawa รายละเอียด http://www.jreast.co.jp/e/nex/
2. KEISEI SKYLINER: เป็นรถด่วนพิเศษเหมือนกับ N’EX ซึ่งจะต้องมีการ Reserve Seat เช่นกัน ราคาตั๋วประมาณ 2,400 เยน แต่สำหรับนักท่องเที่ยว สามารถซื้อ online ได้ที่ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/ ราคาจะอยู่ที่ 2,200 เยนต่อคนนะคะ ถ้าซื้อ online มาให้ Print e-ticket มาด้วยนะคะ แล้วมาติดต่อที่ Keisei Counter เพื่อได้ตั๋วจริงมาค่ะ หน้าตาแบบนี้ (วันที่เห็นในตัวอย่างเป็นของปี 2014 ค่ะ ตอนนี้ซื้อขาเดียว อิอิ)
Keisei นอกจาก Skyliner แล้ว ยังมีรถไฟอีก 2 แบบ ซึ่งเป็นตู้ธรรมดาไม่ต้องจองที่นั่ง คือ Access Express กับ Main Line ต่างกันตรงเส้นทางการวิ่ง Access Express จะวิ่งเส้นเดียวกับ Skyliner แต่จอดหลายสถานีกว่าทำให้รถวิ่งเข้าเมืองได้ช้ากว่า Skyliner ส่วน Main Line วิ่งอีกเส้นหนึ่ง อ้อมกว่า และจอดมากสถานีกว่า รายละเอียด http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/timetable/index.php
หลังจากนั้นเราซื้อบัตร Sucia ด้วยเพราะง่ายสำหรับการเดินทาง สำหรับเพื่อนๆลองศึกษาดูว่า แพลนของท่านจะไปไหนบ้างซื้อแบบไหนถึงจะคุ้มกว่ากันนะคะ
เราพักที่ Ikebukuro ตอนแรกจะเลือกนั่ง N’EX แต่เห็นเวลาแล้วคิดว่าไม่รอดีกว่า เราเลยเลือก ขึ้น Keisei access express ถึงช้ากว่า Skyliner หน่อยแต่โอเคนะ เรานั่งไปถึง Nipori Station แล้วไปต่อสาย Yamanote Line ไปลงที่ Ikebukuro Station
ส่วนเราพักที่ Tokyu Stay Ikebukuro Hotel ถ้าใครพักที่นี่ก็ตามมาได้เลยนะคะ จาก Ikebukuro Station ไปที่ Tokyu Stay Ikebukuro Hotel ออกได้ 2 ทางคือ Exit C1, C6
Exit C1 จะใกล้กว่าหน่อย
หรือถ้าออก Exit C6
Day 2: Tokyo Disneyland: http://ppantip.com/topic/35140709
Day 3: Ghibli Museum & Fujio F Fujio Museum: http://ppantip.com/topic/35373694