[CR] หน้าฝนเหงาๆ กับเราสองคน งบสองพันแบกเป้ไปได้ไกลกว่าที่คิด ^^

สวัสดีทุกคนที่หลงมาในกระทู้เพี้ยน ๆ กระทู้นี้นะคะ


     นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หลังจากที่ซุ่มแอบอ่านของชาวบ้านเค้ามานานแสนนาน จากพันทิปของทุกคนนี้แหล่ะค่ะ ที่ทำให้จขกท.เพ้อเช้าเพ้อเย็นอยากแบกเป้ขึ้นเขาให้ลืมเรื่องของเรา เอ้ย ไม่ใช่ล่ะ เอาเป็นว่า เป็นแรงบันดาลใจให้เรากล้าที่จะออกไปตามที่ต่าง ๆ เราขอเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ ให้ทุกคนกล้าที่จะเปิดโลกการท่องเที่ยวด้วยกันนะคะ แค่กล้าก็ได้เจออะไรมากกว่าคนอื่นล่ะ ^0^ ลุยยยยย

    ช่วงนี้ก็เป็นช่วงใกล้ๆเปิดเทอมของหลายมหาลัยที่ทยอยเปิดกันไป #มหาลัยเราก็เช่นกัน แต่เดี๋ยวก่อน ไหนๆก็ปิดเทอมมาตั้ง 10 กว่าวันล่ะจะให้นอนสวยๆอยู่บ้านก็หน่าาา ง่ายไปมั้ย? กว่าจะผ่านพ้นมรสุมการสอบทั้งสามเทอมไปได้อย่างแสนสาหัสควรจะได้รับการพักผ่อนหน่อยเส่ งั้น ไปเที่ยวกันหน่อยม้ายยยยยยยยย ? ถึงเวลาจะมีแต่เงินไม่มีก็อดเว้ย TT แต่ๆๆ ยังมีเงินติดตัวนิ ตั้งสองพันแหน่ะเอ้ะหรือแค่สองพัน เอาไงดีสองพันจะไปพออะไร  จากยะลาเชียงใหม่นิ้ไม่ง่ายเลยน่ะเว้ย เอาว่ะ สองพันก็สองพัน ถ้าตั้งใจแล้วต้องไปให้สุดเว้ย  เนื่องจากทริปนี้มีงบประมาณที่จำกัด 555 เราเองก็อยากประหยัดให้ได้มากที่สุดด้วย เราเลยตัดสินใจแบกเต็นท์ไปกางเองจ้าาา ถามว่ากางเป็นมั้ย ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดเลยว่าไม่ !! แต่ด้วยความไม่อยากเสียตังของเราก็ต้องยอม จะกางรอดไม่รอดค่อยว่ากันไปเนอะ คริ้ๆ
หน้าฝนเหงาๆแบบนี้อย่านอนกอดหมอนข้างเหงาคนเดียวเลย  ไปกอดหมอก กอดภูเขากันดีกว่ามั้ยย ??  ><



      เราออกเดินทางตั้งแต่ 9 โมงจากเบตงเพื่อไปขึ้นรถไฟฟรี ย้ำว่าฟรี !!  ที่สถานีรถไฟยะลา แต่ๆๆ ช่วงนี้เป็นช่วงหลังเทศกาลฮารีรายอของชาวมุสลิมพอดี คนที่มาใช้บริการรถไฟไทยเลยเยอะมากกกกกก กกกกกกกกกกคนนิ้เต็มสถานีรถไฟแย่งออกซิเจน วนไปค่ะ จุดพีคกว่านั้นก็คือ ที่นั่งทุกขบวนไม่ว่าจะขบวนไหนเต็มค่ะ เต็ม ! หันไปปรึกษาเพื่อนเอาไง ? ยืนมั้ย ไหนๆก็มาล่ะ เออยืนก็ยืนล่ะหว้าาาาา เป็นการขึ้นรถไฟที่โหดที่สุดตั้งแต่เคยขึ้นมาจริงๆ



     คนเยอะจนแทบขยับไปไหนไม่ได้ อากาศตอนบ่ายก็ร้อนมากกก  พัดลมตรงที่นั่งเราก็ไม่มี ที่นั่งก็ต้องคอยลุ้นว่าเจ้าของจะมาเมื่อไหร่ 555 แอบมีความจิตตกเล็กน้อย บางคนถึงขั้นนั่งไปกับพื้น นอนไปกับพื้นเลยจ้าา ส่วนพี่ๆแม่ค้าก็มีความพยายามขายกันเหลือเกิ้นนน  ถึงคนจะแน่นเต็มทางเดินแค่ไหน ก็ต้องเบียดเข้าไปให้ได้ ลำบากถึงเราๆนิ้ล่ะค่ะ แม่ค้ามาทีต้องลุกขึ้นยืนแบ่งที่ให้นางเดิน ไม่ลุกนางก็ตื้อจนลุกอ่ะ   แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่ๆหลายคนที่แบ่งที่นั่งให้เบียดจนพวกเราที่นั่งด้วยค่ะ กว่าจะมีที่นั่งสบายๆก็ สุราษฎร์ธานีตอนสามทุ่มนู้น พอมีที่นั่งก็พูดได้ยิ้มได้ เริ่มตื่นเต้นล่ะสิ หลับตาลงนึกเป็นภาพเชียงใหม่เลยแหล่ะ 5555

     ประมาณเกือบ 11 โมงก็ถึงกรุงเทพ มาถ่ายรูปกับหัวลำโพงซะหน่อย เอ่อ หาร้านข้าวมุสลิมได้แถวหัวลำโพงเลยน่ะ มีสองแหล่ง ถ้าขยันเดินอยากทานข้าวที่หลากหลายหน่อยก็ได้แถวซอยใกล้ๆเซเว่นเลยค่ะ จะมีทางเข้าด้านหน้าเป็นข้าวไทยพุทธพอเดินไปเรื่อยๆจะเจอร้านมุสลิมหลายร้านที่ซ่อนอยู่



      แต่คนเยอะไงโอเคกลับมาหาของกินในสถานีก็ได้ ในสถานีจะมีร้านมุสลิมร้านเดียวนะคะ  เราลืมถ่ายรูปมาแหะๆ ทานข้าวเสร้จเราก็ไปจองตั๋วรถไฟไปเชียงใหม่ แล้วไปห้องละหมาดค่ะ ห้องละหมาดจะอยู่แถวชานชาลาที่ 4 หลังป้ายกรุงเทพใหญ่ๆนั้นแหล่ะค่ะ ลองเดินวนหาดูได้นะคะ

      และแล้วเวลาบ่ายสองก็มาถึงงงงง กระโดดขึ้นรถไฟเชียงใหม่กรุงเทพเลยจ้า รถไฟฟรีสายเหนือจะคล้ายๆสายใต้ แต่สายเหนือจะสะอาดกว่า บริการดีกว่า  ที่สำคัญห้องน้ำสะอาดกว่ามาก



       นี่กระเป๋าเราเองหนักใช่ย่อย เหมือนแบกคนอีกคนไปด้วยเลยแหล่ะ เต็นท์กับเหล็กเต็นท์นิ้แหล่ะตัวดี นอกจากเต็นท์เสบียงยังพร้อมอีกน่ะห้ะ รับอะไรดีคะ ? มาม่า ปลาป๋อง ? 55555



     โอเคนั่งไปก็เหมือนไม่เจออะไร จนมีผู้หญิงผมหยิกๆหัวยุ่งๆเดินขึ้นมานั่งตรงหน้าเราก็คิดว่าเห้ยนี้ลูกครึ่งแน่นอนมีเฮนนาที่มือเก๋ๆด้วย ที่ไหนได้แกนางเขียนกับปากกาเคมีจ้าาาา  เขียนแบบเฮนนามืออาชีพเลยแก แรกๆก็ไม่มีอะไร  นางก็นอนของนางอ้าแข้งอ้าขาตามภาษานาง นอนแบบนอนจริงๆ จนมีป้าผู้หญิงปลุกนางบอก หนูเดี๋ยวเลยสถานีนะ หนูจะลงไหน นางก็ไม่ยอมพูดกับใครแถมมองแรงใส่อีก เราถามอะไรก็ไม่ตอบ พอสักพักนางก็ถามเวลาแล้วก็ขอพาวเวอร์แบงค์เรา เราก็บอกอ่อหมดพอดี นางจ้องจ้าาาา จ้องพาวเวอร์แบงค์เราปานจะกลืนกิน นางแอบเปิดกระเป๋าลุงที่นั่งตรงข้ามเราด้วย แล้วนางก็จ้องโทรศัพท์เรากับเพื่อนด้วย เรานิ้กลัวเป็นมิจฉาชีพเก็บทุกอย่างโทรศัพท์พาวเวอร์แบงค์อะไร จะไม่ให้คิดงั้นได้ไงเล่าคนอะไรพกโทรศัพท์สามสี่เครื่อง พอสักพักนางก็คอลกับใครสักคน มันดูปกติใช่มั้ยคะ ? แต่ที่ไม่ปกติก็คือบริเวณนั้นไม่มีคลื่นเว้ยแก สัญญาณอะไรไม่มีเลยจ้าาา ที่สำคัญไม่ได้ขึ้นโทรออกด้วยเราแอบดูหน้าจอโทรศัพท์นางเอง 5555 ก็เราสงสัยอ่ะ  แล้วที่นางคุยเป็นเรื่องราวนางคุยกับใคร ? เริ่มรู้สึกแปลกๆล่ะคนอะไรคุยคนเดียว  เราเลยบอกป้าที่นั่งข้างๆบอกขอนั่งด้วย หนูกลัววว พอเห็นนางนอนนั้นแหล่ะเรานิ้รีบเอาของมากิน โทรศัพท์มาเล่นเลยจ้าา แอบถ่ายมีความร้ายกาจจจ 555 แต่ปิดหน้าหน่อย



     พอประมาณตีสาม นางสะดุ้งตื่นนางหันมาทางพวกเราจ้องโทรศัพท์เพื่อนเราเลยแหล่ะ ดีน่ะที่เพื่อนเรารู้สึกตัวเว้ย เพื่อนเราระแวงจนนอนไม่ได้เลย ส่วนเราหลับตายค่ะะ 5555 พอตื่นมาถึงสถานีก็รีบๆเดินหนีนางค่ะ ปรากฏว่านางตามเว้ย แกคือผมนางเหมือนคนไม่ได้สระผมมาเป็นอาทิตย์อ่ะแก แบบงานกลิ่นก็มา ดูๆแล้วผมน่าจะแข็งมากอ่ะแบบเราแอบเห็นตอนผมพัดอ่ะผมแทบไม่ขยับอ่ะ ตอนนั้นเพื่อนเราไปเข้าห้องน้ำมีเราอยู่คนเดียวเราชาร์จแบตพาวเวอร์แบงค์ไว้ ส่วนนางกำลังจะขึ้นรถไฟกลับไปไหนสักอย่าง พอเห็นเราชาร์จนางเดินลงมาจากรถไฟเลยจ้าา เราถอยไปนั่งอีกเก้าอี้แต่ตาก็จ้องพาวเวอร์แบงค์ไว้ 555 นาวก็แบบมาจับๆแตะๆ เรานิ้นั่งไม่ติดเก้าอี้เลยอ่ะ ฟิลเหมือนลุ้นบอลอ่ะ เราเลยเดินไปเฝ้าใกล้ ๆ นางก็จ้องหน้าเราจ้าาา พอเรานั่งนางก็มานั่งข้าง ๆ เดินตามก้าวต่อก้าวเลย เรานิ้แบบ หื๋ยยย ทำไงอ่ะ เพื่อนก็ไม่อยู่เลยเดินวนเก้าอี้ไปค่ะ มองหน้าแล้วยิ้มให้แบบนางงาม บอก เธอไปขึ้นรถไฟเถอะเดี๋ยวตกรถน่ะ 5555555555 ไม่ได้ผลจ้ะ จากที่นางจะขึ้นรถไฟ มาชวนเราคุยอีก
สักพักนางบอกนางจะกลับปัตตานีเราก็แบบอ้าวเพิ่งนั่งรถไฟมาถึงเชียงใหม่ด้วยกันตะเกี้ยะ แต่ไม่กล้าถามเว้ยได้แต่คิดแล้วก็สงสัยย ... พอรถไฟจะออกนางก็วิ่งขึ้นรถไป เราก็ได้แต่หวังว่าเราคงจะไม่เจอกันอีกนะ ยังไงก็ต้องขอบคุณนางเล็กๆที่สอนให้เรารู้จักระวังตัวถึงจะมีอะไรหรือไม่มีอะไรก็ต้องระวังไว้ก่อนยังไงซะเราก็ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระวังตัวเราเองไว้ก่อนดีกว่าเนอะ แล้วยังสอนให้เรารู้ว่าสมัยนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ก็คอลคุยได้นาจาาา

     โอเคเรามาถึงสถานีเชียงใหม่ตอน 4.00 เข้าห้องน้ำ กินมาม่ารุสกีที่แบกมาจากยะลาแดนไกลลล 555 นู้นนี้นั้นเสร้จก็ติดต่อเช่ารถมอไซค์จากร้าน sk service คือร้านนี้ดีจริงๆแก รวดเร็วทันใจมาก เบอร์ตามนี้เลยน้า 0987532665 เราโทรตอน 5 ครึ่ง เกือบๆ 6 โมงรถก็มาล่ะ ติดต่อเช่ารถ อาบน้ำอะไรเสร็จก็ลุย .. ไปหาไรกินกัน
     ตอนเกือบแปดโมงเราก็ไปหาอะไรกินวนไปแถวซอนนิมมานก่อน ผ่านร้าน iberry แต่ยังไม่เปิด ขับไปเรื่อยๆจะหาถนนเจริญประเทศ หาพิกัดจากจีพีเอสได้เลยจ้าา กว่าจะเจอเนี้ยะเพื่อนเรามองบนใส่ตั้งหลายรอบแหล่ะ ขอโทษษ จะไม่อ่านกูเกิลแมพมั่วอีกล้าววว



    ถึงจะหลงวนไปค่ะแต่สุดท้ายก็ถึงน่ะ ถนนเจริญประดิษฐ์ ที่นี้มีร้านมุสลิมหลายร้าน แล้วก็มีสุเหร่าบ้านฮ่อ สุเหร่าบ้านฮ่อเป็นเหมือนมัสยิดไทย-จีน สะอาดมากอ่ะแก เค้าดูแลดีมากก ที่นี้พี่แม่บ้านพูดออกจีนฮ่อหน่อย เราก็ฟังไม่ค่อยออกหรอกแต่ก็พอสื่อสารได้นิดนึง พวกเราขอขึ้นไปพักชาร์จแบตอะไรหน่อย พอตั้งกระเป๋าที่สุเหร่าเสร็จก็จะมานั่งอัพรูปหาอะไรล่ะ ลุยยยย



     แล้วออกไปหาข้าวซอยกินกันมาเหนือทั้งทีก็ต้องลองอาหารเหนือใช่มั้ยล้าาา  บรรยากาศร้านถือว่าร่มรื่นดี รสชาติอร่อยติดแค่น้อยไปนิด ผมนิ้อยากซื้อกลับบ้านเลยครับแหม่ แต่ก็นะ ซื้อวันนี้ไม่ทันถึงบ้านแน่นแน่ ไม่สวยแต่รูปน่ะเธออร่อยด้วยต้องลอง พิกัดข้าวซอยเฟื่องฟ้าเสริชกูเกิลแมพเลยจ้าาา



     เราซื้อข้าวเปล่าติดตัวไปสองกล่อง เผื่อบนดอยไม่มีร้านมุสลิมได้กินปลาป๋องประทังชีวิต 5555 และแล้วก็ได้ฤกษ์เที่ยวซ้ากกกที ไปลุยจ้าา สถานีแรกของเราจะเป็นโซนทางอำเภอแม่ริมนะ แอบไปเปิดในทวิตมาเห็นอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าพิกัดไม่ไกลจากทางไปม่อนแจ่มพอดีเลยขอแวะสักหน่อย
    กว่าจะออกมาจากเมืองได้แกคือวนไปมากอ่ะ แบบเชียงใหม่มันเป็นทางวันเวย์ไงถ้าเลยซอยทีนิ้คือต้องวนไปอีกรอบ ควรอ่านจีพีเอสดีๆนะคะจุดนี้ ขับรถไปเรื่อยๆตามจีพีเอสเลยเดี๋ยวก็เจอ 5555 เสียค่าทางเข้าอ่างเก็บน้ำคนละ 20 บาทแล้วเข้าเลยยย มันเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่กว้างๆดีน่ะเราไปถึงแดดไม่ค่อยร้อนมากสวยน่ะมองท้องฟ้าได้สุดๆ แสงโอเคทำให้วิวดูแพงงง 555  สถานีห้วยตึงเฒ่าา ,,,





เลนส์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม เช็คความสะอาดของหมวกกันน็อคกันหน่อยย 555





     รูปสุดท้ายของห้วยตึงเฒ่าได้พี่เจ้าของถิ่นมาถ่ายให้ พี่เค้าน่ารักมากเลยแนะนำที่เที่ยวบอกทางอะไรให้ด้วย พี่เค้าชี้ภูเขาสูง ๆ บอกเนี่ยะถ้าน้องขึ้นไปถึงม่อนล่อง จะมองวิวอ่างน้ำได้ชัด เห็นมั้ยล้าาาา คนเจียงใหม่น่าฮ้ากกกกก ><  ต่อ ๆ ไปสวนพฤกษศาสตร์

     สวนพฤกษศาสตร์นิ้เสียค่าเข้าชม คนละ 40 บาทค่าจอดจักรยานยนต์อีก 30 บาท ทางค่อนข้างโหดดีที่เพื่อนเราเป็นวินเก่าเลยขับได้ สบายโลดดดไปถึงเราเข้าเรือนกระจกป่าดิบชื้นก่อน คือมันน่ารักมากเลยแกเค้าจำลองป่าในเรือนกระจกได้แบบสมจริงมากอ่ะ เดินเพลินๆไป มีเรือนทะเลทรายของพวกกระบองเพชรอะไรงี้ด้วย คือมีหลายเรือนมากอ่ะ เราเข้าไม่หมดจริงๆ เหมาะแก่การเที่ยวครอบครัวมากจริงๆค่ะ ที่นี้มีหลายโซนเลยทีเดียว แต่ทางเดินเรือนกล้วยไม้ปิด คือเราอยากมาเดินเรือนกล้วยไม้ แต่ปิดอ่ะ เสียใจ สงสัยเหมือนจะต้องทริปอีกสักรอบซะแล้ว ^^







     ทางลงนิ้มันโหดมากต้องระวังดีๆนะคะ ดูทางโค้งนั้นก่อนเรานิ้อยู่เงียบใช้สมาธิพอๆกับคนขับเลยครับแหม่ เกือบบ่ายสามล่ะไปม่อนแจ่มกันเดี๋ยวมืดค่ำจะ ลำบากเอา สถานีต่อไปม่อนแจ่มจ้าาา

    มีหลังไมค์มากันหลายคนว่าใช้กล้องอะไร แห้ะ ๆ คือจขกท ใช้กล้องโทรศัพท์นิ้แหล่ะ เป็นรุ่น samsung A5 อีกเครื่องเป็น vivo x shot ค่าาา
ถึงกล้องจะไม่แพงแต่ก็ไปกินข้าวแกงเป็นแฟนได้นะเห้ยย โอเคไม่มีใครขำ จขกท เล่นเองขำเองก็ได้ โอ้ยยย แอบตกใจคนแชร์เล็ก ๆ ตอนแรกคิดว่าได้อ่านกับเพื่อนสองคนซะล่ะ ขอบคุณค่าาาาา -/\-
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเชียงใหม่...ในฤดูเหงาๆ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่