เพราะการดื้อแพ่ง คิดว่าถ้าได้เป็นสังฆราชจะสามารถเปลื้องพันธนาการได้

กระทู้คำถาม
มองเห็นกลอุบายในการสร้างกรรมหนักของพวกนี้แล้วทำให้รู้สึกสังเวชจริงๆ

ขนาดมีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยแล้วว่าจริงทั้ง 5 ฉบับ เชิญพยานบุคคลทั้งปวงที่มี ชี้มูลว่าธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิก ทุกคนก็ยืนยันต้องปาราชิกด้วยมูลความผิดหลายกระทง แต่มส. ทำดื้อแพ่งและเพิกเฉยเสีย ตั้งแต่ปี 2542

และผิดหนักขึ้นอีก คือ 2554 มส.และสำนักพุทธนำชื่อธัมมชโย ยื่นขอพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นเทพ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีปัญหา เป็นตุลาการสงฆ์เอาจำเลยสงฆ์ที่ยังไม่เคลียร์คดีมาขอพระราชทานสมณศักดิ์

จะอ้างว่าคดีธัมมชโยสิ้นสุดแล้วเพราะว่าอัยการถอนฟ้อง อันนั้นเป็นเรื่องของโลก แต่คดีทางสงฆ์ ภิกษุต้องอาบัติปาราชิกมันไม่มีสิทธิ์เอาคืนได้ พระพุทธเจ้าบอกคนที่ต้องอาบัติปาราชิกเหมือนตาลยอดด้วน ตัดยอดทิ้งแล้วงอกไม่ได้ จะอ้างว่าเอาเงินคืนแล้วไม่ได้ ยกพ้นพื้นเกิน 5 มาสก เส้นผมลอดได้ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

แม้สมเด็จพระสังฆราชมีพระลิขิตพระบัญชาให้คืนก็ไม่คืน จนต้องออกพระลิขิตถึง 5 ฉบับ

ใหนจะเรื่องอวดอุตริมนุสธรรม เช่น เรื่องสตีฟ จ็อบส์ หรือคำสอนบอกนิพพานเป็นอัตตา คำสอนเหล่านี้เป็นคำสอนชั่วอย่างร้ายแรง ที่ทำลายอุดมการณ์หลักของพุทธศาสนา

ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความผิดเท่านั้น

ตอนนี้คนกลุ่มนี้ คิดการใหญ่อยู่ เช่น
หนึ่ง-แต่งตั้งสังฆราชให้สมเด็จช่วงให้ได้
สอง-ธรรมกายต้องรอดจากคดีเพื่อเป็นผู้นำในการต่อสู้ให้ได้
สาม-เอาพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติให้ได้

แถมมีการสร้างกระแสเท็จเพื่อล้มรัฐบาลให้ไปเร็วๆ ทุกอย่างจะได้เคลียร์ เส้นทางจะได้สะดวก


สรุปคือ ทำไม มส. ถึงมีมติเสนอนามสมเด็จช่วงไปให้นายกรัฐมนตรีทั้งๆที่มีมลทินพัวพันอยู่
เพราะการดื้อแพ่ง คิดว่าถ้าได้เป็นสังฆราชจะสามารถเปลื้องพันธนาการได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่