ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้แม่ต้องการคลอดลูกในป่า การทำเช่นนี้จะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นกับลูก มาร่วมหาคำตอบกัน
นางซีโมน เธอร์เบอร์ คุณแม่ลูกสี่วัย 43 ปีที่อาศัยบริเวณลำธารกลางป่าฝนเดนทรี รัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย เป็นสถานที่คลอดลูก ล่าสุดมีผู้เข้าชมกว่า 50 กว่าล้านครั้งแล้ว
เธอเล่าว่า เธอเลือกที่จะทำคลอดภายในป่าฝนเดนทรี จึงไปอาศัยอยู่กับเพื่อนริมป่าล่วงหน้ากว่า 2 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดคลอด เธอก็นำเสื่อพลาสติกปูกลางลำธาร ถอดเสื้อผ้านั่งยอง ๆ แล้วคลอดลูก
โดยมีสามีคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง และเป็นผู้บันทึกคลิปดังกล่าวนี้ หลังจากคลอดเสร็จแล้วเธอก็กลับไปที่บ้านเพื่อตัดสายรกออกเอง หลังจากนั้นก็นำสายรกนั้นไปฝังใต้ลำธารตามประเพณีของชาวอะบอริจินเพื่อกลับคืนสู่ผืนดิน “ฉันต้องการให้ลูกคนที่ 4 ของพ้นจากสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาล ฉันจึงตัดสินใจที่จะคลอดลูกในป่า” ซีโมนกล่าว
ทราบไหมคะว่า การตัดสายรกเองอาจทำให้ทารกแรกเกิดนั้นเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคสะพั้นหรือโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้แม่ต้องการคลอดลูกในป่า การทำเช่นนี้จะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นกับลูก มาร่วมหาคำตอบกัน
มาทำความรู้จักกับโรคสะพั้นกัน
ในสมัยก่อนทารกแรกเกิดเสียชีวิตด้วยโรคสะพั้นกันมาก เนื่องจาก การคลอดตามบ้านโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดตัดสายสะดือ รวมถึงการดูแลสะดือเด็กแรกเกิดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทางสะดือของเด็กแรกเกิด โดยเด็กจะมีอาการดูดนมไม่ได้ ขากรรไกรแข็ง ชักหลังแอ่น ในช่วงหลังคลอด 5-10 วัน และเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน ซึ่งอาการที่ว่านี้ เป็นอาการของโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิดนั่นเอง
สาเหตุ โรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด
เชื้อบาดทะยักเป็นเชื้อที่อยู่ในลำไส้ของวัว ควาย เมื่อสัตว์ถ่ายมูลลงที่พื้นดิน เชื้อบาดทะยักก็จะกระจายอยู่ในดินและฝุ่นละออง โดยสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นปีๆ และเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีออกซิเจนน้อย แม้มันจะถูกต้มให้เดือดก็ยังไม่สามารถกำจัดเชื้อบาดทะยักให้หมด
ในสมัยก่อนคนในชนบทคลอดลูกที่บ้าน หรือทำคลอดด้วยหมอตำแย เมื่อเด็กคลอดออกมาก็เอาสายสะดือพาดบนก้อนดิน แล้วใช้ไม้เรียวไผ่เฉือนตัดสายสะดือบนก้อนดินจนกว่าจะขาด แล้วก็ใช้ยาผงโรงสะดือเพื่อให้เลือดหยุด
การตัดสายสะดือบนก้อนดินเช่นนี้ทำให้เชื้อบาดทะยักจากก้อนดินเข้าไปใน สะดือเด็กได้ง่าย และการโรยผงบนสะดือ อาจยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น เพราะผงยาจะไปขัดขวางไม่ให้ออกซิเจนเข้าถึงเชื้อบาดทะยัก ยิ่งมีออกซิเจนน้อยเชื้อบาดทะยักก็จะยิ่งเจริญเติบโตได้ดี ตามที่ได้กล่าวมาแล้วค่ะ
อาการ โรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด
ในช่วงหลังคลอด 5-10 วัน เด็กแรกเกิดที่ติดเชื้อบาดทะยักมักจะแสดงอาการดังต่อไปนี้
ร้องกวน ไม่ยอมดูดนม ขากรรไกรแข็ง กลืนลำบาก ขยับปากไม่ได้ ยิ้มแสยะ
ชักเกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วน แขนขา หน้าอก คอ หน้าท้อง หลัง ทำให้มีอาการคอแข็ง ท้องแข็ง หลังแอ่น
ในขณะที่มีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อ ทารกจะยังมีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ต่างจากโรคลมชัก โรคสมองอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่ผู้ป่วยจะไม่ค่อยรู้สึกตัว
ถ้ากล้ามเนื้อหดเกร็งและแข็งตัวเป็นเวลานาน ทำให้ขาดอากาศและตัวเขียว กล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจทำหน้าที่ตามปกติไม่ได้ หลอดลมหดเกร็ง จนเกิดภาวะหายใจล้มเหลวตามมาและเสียชีวิตในที่สุด
วิธีการป้องกัน
ตัดสายสะดือด้วยอุปกรณ์ที่สะอาดปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ทำให้คุณแม่ไม่สามารถไปคลอดที่โรงพยาบาลได้ทัน ควรใช้มีดเผาไฟเพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นทิ้งไว้ในอากาศให้เย็นแล้วค่อยตัดสายสะดือ โดยไม่ให้สะดือเด็กไปถูกสิ่งอื่น
หลีกเลี่ยงการใช้ยาผงโรงสะดือทารกแรกเกิด เมื่อตัดสายสะดือเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ เจ็นเชี่ยน ไวโอเล็ทซึ่งเป็นยาสีม่วงสำหรับป้ายลิ้นเด็ก เวลาที่ลิ้นเป็นฝ้าขาวทาที่สะดือ เมื่อยาแห้งแล้วจึงค่อยใส่เสื้อผ้าให้ทารก วิธีนี้สะดือจะสะอาดปราศจากเชื้อโรค ไม่เป็นบาดทะยัก
ให้คุณแม่ท้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก เพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันส่งต่อไปยังลูกน้อยในท้อง
เด็กเล็กควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ซึ่งรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน ตั้งแต่อายุได้ 2, 4 และ 6 เดือน และฉีดกระตุ้นเมื่ออายุ 4 ปี ต่อไปฉีดกระตุ้นเฉพาะวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุก 10 ปี
ที่มา
theasianparent.com/กระหน่ำแชร์คลิป แม่ใจเด็ดคลอดลูกกลางป่า
กระหน่ำแชร์คลิป แม่ใจเด็ดคลอดลูกกลางป่า
นางซีโมน เธอร์เบอร์ คุณแม่ลูกสี่วัย 43 ปีที่อาศัยบริเวณลำธารกลางป่าฝนเดนทรี รัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย เป็นสถานที่คลอดลูก ล่าสุดมีผู้เข้าชมกว่า 50 กว่าล้านครั้งแล้ว
เธอเล่าว่า เธอเลือกที่จะทำคลอดภายในป่าฝนเดนทรี จึงไปอาศัยอยู่กับเพื่อนริมป่าล่วงหน้ากว่า 2 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดคลอด เธอก็นำเสื่อพลาสติกปูกลางลำธาร ถอดเสื้อผ้านั่งยอง ๆ แล้วคลอดลูก
โดยมีสามีคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง และเป็นผู้บันทึกคลิปดังกล่าวนี้ หลังจากคลอดเสร็จแล้วเธอก็กลับไปที่บ้านเพื่อตัดสายรกออกเอง หลังจากนั้นก็นำสายรกนั้นไปฝังใต้ลำธารตามประเพณีของชาวอะบอริจินเพื่อกลับคืนสู่ผืนดิน “ฉันต้องการให้ลูกคนที่ 4 ของพ้นจากสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาล ฉันจึงตัดสินใจที่จะคลอดลูกในป่า” ซีโมนกล่าว
ทราบไหมคะว่า การตัดสายรกเองอาจทำให้ทารกแรกเกิดนั้นเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคสะพั้นหรือโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้แม่ต้องการคลอดลูกในป่า การทำเช่นนี้จะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นกับลูก มาร่วมหาคำตอบกัน
มาทำความรู้จักกับโรคสะพั้นกัน
ในสมัยก่อนทารกแรกเกิดเสียชีวิตด้วยโรคสะพั้นกันมาก เนื่องจาก การคลอดตามบ้านโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดตัดสายสะดือ รวมถึงการดูแลสะดือเด็กแรกเกิดที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทางสะดือของเด็กแรกเกิด โดยเด็กจะมีอาการดูดนมไม่ได้ ขากรรไกรแข็ง ชักหลังแอ่น ในช่วงหลังคลอด 5-10 วัน และเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน ซึ่งอาการที่ว่านี้ เป็นอาการของโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิดนั่นเอง
สาเหตุ โรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด
เชื้อบาดทะยักเป็นเชื้อที่อยู่ในลำไส้ของวัว ควาย เมื่อสัตว์ถ่ายมูลลงที่พื้นดิน เชื้อบาดทะยักก็จะกระจายอยู่ในดินและฝุ่นละออง โดยสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นปีๆ และเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีออกซิเจนน้อย แม้มันจะถูกต้มให้เดือดก็ยังไม่สามารถกำจัดเชื้อบาดทะยักให้หมด
ในสมัยก่อนคนในชนบทคลอดลูกที่บ้าน หรือทำคลอดด้วยหมอตำแย เมื่อเด็กคลอดออกมาก็เอาสายสะดือพาดบนก้อนดิน แล้วใช้ไม้เรียวไผ่เฉือนตัดสายสะดือบนก้อนดินจนกว่าจะขาด แล้วก็ใช้ยาผงโรงสะดือเพื่อให้เลือดหยุด
การตัดสายสะดือบนก้อนดินเช่นนี้ทำให้เชื้อบาดทะยักจากก้อนดินเข้าไปใน สะดือเด็กได้ง่าย และการโรยผงบนสะดือ อาจยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น เพราะผงยาจะไปขัดขวางไม่ให้ออกซิเจนเข้าถึงเชื้อบาดทะยัก ยิ่งมีออกซิเจนน้อยเชื้อบาดทะยักก็จะยิ่งเจริญเติบโตได้ดี ตามที่ได้กล่าวมาแล้วค่ะ
อาการ โรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด
ในช่วงหลังคลอด 5-10 วัน เด็กแรกเกิดที่ติดเชื้อบาดทะยักมักจะแสดงอาการดังต่อไปนี้
ร้องกวน ไม่ยอมดูดนม ขากรรไกรแข็ง กลืนลำบาก ขยับปากไม่ได้ ยิ้มแสยะ
ชักเกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วน แขนขา หน้าอก คอ หน้าท้อง หลัง ทำให้มีอาการคอแข็ง ท้องแข็ง หลังแอ่น
ในขณะที่มีอาการหดเกร็งและแข็งตัวของกล้ามเนื้อ ทารกจะยังมีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ต่างจากโรคลมชัก โรคสมองอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่ผู้ป่วยจะไม่ค่อยรู้สึกตัว
ถ้ากล้ามเนื้อหดเกร็งและแข็งตัวเป็นเวลานาน ทำให้ขาดอากาศและตัวเขียว กล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจทำหน้าที่ตามปกติไม่ได้ หลอดลมหดเกร็ง จนเกิดภาวะหายใจล้มเหลวตามมาและเสียชีวิตในที่สุด
วิธีการป้องกัน
ตัดสายสะดือด้วยอุปกรณ์ที่สะอาดปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ทำให้คุณแม่ไม่สามารถไปคลอดที่โรงพยาบาลได้ทัน ควรใช้มีดเผาไฟเพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นทิ้งไว้ในอากาศให้เย็นแล้วค่อยตัดสายสะดือ โดยไม่ให้สะดือเด็กไปถูกสิ่งอื่น
หลีกเลี่ยงการใช้ยาผงโรงสะดือทารกแรกเกิด เมื่อตัดสายสะดือเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ เจ็นเชี่ยน ไวโอเล็ทซึ่งเป็นยาสีม่วงสำหรับป้ายลิ้นเด็ก เวลาที่ลิ้นเป็นฝ้าขาวทาที่สะดือ เมื่อยาแห้งแล้วจึงค่อยใส่เสื้อผ้าให้ทารก วิธีนี้สะดือจะสะอาดปราศจากเชื้อโรค ไม่เป็นบาดทะยัก
ให้คุณแม่ท้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก เพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันส่งต่อไปยังลูกน้อยในท้อง
เด็กเล็กควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ซึ่งรวมอยู่ในเข็มเดียวกัน ตั้งแต่อายุได้ 2, 4 และ 6 เดือน และฉีดกระตุ้นเมื่ออายุ 4 ปี ต่อไปฉีดกระตุ้นเฉพาะวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุก 10 ปี
ที่มา
theasianparent.com/กระหน่ำแชร์คลิป แม่ใจเด็ดคลอดลูกกลางป่า