เรื่องเหล้า ตอน จิตร....สาวเสิร์ฟ

กระทู้สนทนา
เรื่องเหล้า  ตอน  จิตร...สาวเสิร์ฟ
                      
                                       ดรัสวันต์


    เพื่อนส่งข่าวมาว่าน้องสาวจะเปิดร้านเหล้า ทำให้คอเหล้าอย่างพวกผมตั้งตารอคอยที่จะไปอุดหนุน คนกันเองแบบนี้ จะให้เงินสะพัดไปเข้ากระเป๋าคนอื่นทำไม คุณว่าจริงไหม

    “ยัยเจี๊ยบจะเปิดร้านเหล้าหรือวะ” อ๊อดได้ข่าวมาเหมือนกันเลยโทร.มาคอนเฟิร์มกับผม

    “ใช่  ตึกแถวตรงนั้นมันเป็นของตระกูลเขา คนเช่าหมดสัญญา ต่อสัญญาใหม่เขาก็อัพราคาขึ้นเท่าตัวใครจะสู้ราคาไหวก็เลยไม่ต่อ ห้องนั้นก็เลยว่าง” ผมอธิบาย

    “ก็แถวนั้นมันใกล้พัฒน์พงษ์ ราคาที่ดินแพงกว่าทองคำ จะมาเก็บค่าเช่าถูกๆ ได้ไง”

    “อือม์ ใช่ พอห้องว่างก็เลยเข้าทางยัยเจี๊ยบ เปิดร้านทำธุรกิจของตัวเองซะเลย

    “แล้วยัยเจี๊ยบมันจะทำไปทำไมให้เมื่อย นอนอยู่เฉยๆ คอยเก็บค่าเช่าก็สบายไปทั้งชาติ”

    “พี่ชายมันก็พูดแบบนี้ แต่คนรุ่นใหม่ไฟแรงคงไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ คงอยากหาอะไรมันๆ ทำตามสไตล์ลูกเศรษฐี ค่าเช่าที่ก็ไม่ต้องจ่าย แต่ได้ปาร์ตี้ทุกวัน”

    อ๊อดเห็นด้วยแล้วตกลงนัดหมายที่จะไปร่วมงานเปิดร้านในวันศุกร์ที่จะถึงนี้


    ร้านขนาดสองคูหาของตึกแถวในซอยที่ไม่ห่างจากพัฒน์พงษ์เป็นถิ่นของคนกลางคืนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะบาร์ญี่ปุ่น ไนท์คลับและสถานเริงรมย์ทุกชนิด ฉะนั้นจะมีผับขายเหล้าเพิ่มขึ้นมาอีกร้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งแม่เหล็กดึงดูดของที่นี่คือขายถูก เพราะไม่ต้องบวกค่าเช่าร้าน

    ส่วนอีกแม่เหล็กหนึ่ง(ในความคิดของผม) คือเจี๊ยบ

    หล่อนเป็นสาวสวยหุ่นดีที่ถูกสเปคผมเหลือเกิน ใบหน้าสวยหวาน คิ้วตาคมเข้มที่เป็นเพราะสืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลที่เป็นแขกเปอร์เชีย จมูกโด่งเป็นสันตามธรรมชาติและริมฝีปากบางระเรื่อนั้น หล่อนไม่จำเป็นต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางแม้แต่น้อย เฝ้ามองทีไรเป็นเพลิดเพลินไม่เคยเบื่อ  แต่ความที่หล่อนเป็นน้องสาวเพื่อน มันทำให้ผมต้องเกรงใจเพื่อนอยู่ไม่น้อย จะมาทำเป็นจีบเล่นๆ ก็คงไม่ดีนัก รึว่าจะจีบจริงก็ยังครั่นคร้ามไม่เบา เพราะที่จริงไม่ใช่แค่เกรงใจเพื่อน แต่เกรงใจเจ้าตัวเธอมากกว่า เจี๊ยบนั้นแม้จะสวยหวานบาดตาบาดใจ แต่หล่อนก็ใช่ว่าจะเป็นขนมหวานให้เคี้ยวได้ง่าย เพราะเจี๊ยบฉลาดเป็นกรด ปากเป็นตะไกร และก๋ากั๋นชนิดท้าผู้ชายยืนฉี่มาแล้ว

    คิดดูก็แล้วกัน ผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาเปิดร้านเหล้า หล่อนก็ต้องเก่งกาจเอาเรื่องพอตัวเชียวล่ะ

    แม้ผมจะเคยรู้ประวัติเจี๊ยบมาบ้าง แต่ใจที่ห้ามได้ยาก ก็ยังไม่ยอมแพ้เสียตั้งแต่ต้นมือ ยิ่งหล่อนมาเปิดร้านเช่นนี้ คอเหล้าอย่างผมยิ่งจะมีโอกาสมาเฝ้าเป็นขาประจำมากขึ้น


    คืน Grand opening ของร้าน มีทั้งเพื่อนทั้งคนรู้จักมากหน้าหลายตา ต่างพากันมาอุดหนุนแน่นร้านจนแทบไม่มีที่ยืน ลักษณะของร้านที่แคบและลึกนั้น ถูกออกแบบให้มีเคาน์เตอร์บาร์ที่ยาวตลอดผนังด้านที่ลึกเพื่อให้สามารถรองรับลูกค้าหน้าบาร์ได้กว่ายี่สิบคน ส่วนโต๊ะมีเพียง 8 โต๊ะ ฉะนั้น ร้านนี้จึงสามารถรองรับลูกค้าได้เกือบร้อยคนทีเดียว

    และในคืนวันเปิดนี้ มีคนมาร่วมงานเกินร้อยแล้ว

    ก๊วนของผมประกอบด้วย อ๊อด ปัญญา แก่และซ้ง  เรามาถึงร้านในเวลาไล่เลี่ยกัน  อ๊อดทำเก๋ มีกระเช้าดอกไม้มาอวยพรเจ้าของร้านให้ขายดี แต่ผมเดินเข้าไปมือเปล่า รู้สึกฉุนตัวเองว่า ลืมได้ไง เสียโอกาสทำคะแนน น่าเขกหัวตัวเองชะมัดเลย

    พอผมก้าวเข้าร้าน เจ้าของร้านคนสวยก็เข้ามาทักทายต้อนรับไม่มีขาดตกบกพร่อง

    “หวัดดี พี่รุทธ์ มานั่งที่นี่เลย จัดโต๊ะวีไอพีไว้ให้” พร้อมกับลากแขนผมเดินเข้าไปยังโต๊ะที่ว่า ซึ่งซ้ง ปัญญาและอ๊อดมานั่งอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับเหล้าและกับแกล้มเต็มโต๊ะ

    “เดี๋ยวพี่แจ็คก็มา” หล่อนหมายถึงพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนของพวกผมนั่นเอง “เจี๊ยบขอตัวไปรับแขกอื่นก่อนนะ”

    ผมพยักหน้ารับพลางมองตามร่างระหงที่หายไปในหมู่คน พอหันกลับมาก็พบสายตาของเพื่อน

    “มองตามตาละห้อยเลยนะไอ้รุทธ์”

    “มองเมิงอะไรวะ” ผมรีบกลบเกลื่อนแล้วหันไปยังมุมโต๊ะที่มีเหล้าและมิกเซอร์วางอยู่รอการผสม “ไม่มีเด็กเสิร์ฟมาผสมเหล้าให้หรอกหรือวะ รึว่าร้านนี้ต้องเซลฟเสิร์ฟ”

    “มี กำลังไปเอาของแถมมาให้อยู่ วันนี้เปิดเหล้าแบลคแถมแก้วเหล้า”

    “แล้วถ้าเปิดแจ็คล่ะ มีแถมอะไร” ผมหมายถึงแจ็ค แดเนียล

    “M  ึงอย่าเรื่องมาก เปิดแบลคมาแล้ว ก็กินให้หมดขวดนี้ไปก่อน ขวดที่สองค่อยว่ากัน” อ๊อดสำทับ

    “M ึงกินได้ไงวะแจ็ค บาดคอChip หาย” ซ้งทำท่าข้องใจ

    “แMงเด็กหัวนอก ตอนเรียนอยู่เมกามันกินของมันประจำ” ปัญญาเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมช่วยให้เหตุผล ซึ่งมันก็มีส่วนจริง ผมชอบเหล้าชนิดนี้ คงเป็นเพราะเคยชินมาก่อน

    “เดี๋ยวตอน M ึงเมาแล้ว มันก็เลิกบาดคอไปเองล่ะวะ” ผมว่า ถึงเวลาเมาได้ที่ ไม่เห็นมีใครเกี่ยงยี่ห้อเหล้าสักคน

    พอดีเป็นจังหวะที่สาวเสิร์ฟกลับมาพร้อมกับกล่องของแถมที่เป็นแก้ววิสกี้ครึ่งโหล ปัญญารับกล่องมาแกะเปิดดู

    “สวยดี เอามาแบ่งกันคนละใบ”

    ผมหยิบใบหนึ่งมาพิจารณารูปทรง

    “เออว่ะ แก้ววิสกี้ต้องทรงกว้างเตี้ย ก้นหนาหนักแบบนี้ คนเมาๆ จะได้ไม่ปัดล้มง่าย ขืนทำทรงสูงมีหวังแตกหมด”

    “แก้วแตกกูไม่เสียดายเท่าเหล้าหกหรอกวะ” แล้วทั้งหมดก็หัวเราะกันครื้นเครง

    วงเหล้าของเพื่อนรู้ใจย่อมมีแต่ความสุขสนุกสนาน ช่วยผ่อนคลายความเคร่งเครียดของหน้าที่การงานของวันนี้ไปได้มาก พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์จะได้หยุดพักผ่อน เพราะฉะนั้นคืนนี้เต็มที่ !

    “จิตร ชงเหล้าให้พี่เขาหน่อย เขาเพิ่งมา” ซ้งหันไปบอกสาวเสิร์ฟหน้าตาแฉล้มแช่มช้อยรูปร่างกะทัดรัด หล่อนกุลีกุจอจัดการให้ โดยไม่ลืมถามว่า

    “โซดาหรือน้ำคะ”

    “โซดาน้ำ” ผมบอกเพราะไม่ชอบโซดาล้วนๆ ที่จะทำให้ผมเกิดอาการท้องอืด แล้วพาลกินได้ไม่นาน คืนนี้ยังอีกยาวไกล

    “จิตรนี่คล่องนะ เคยทำร้านไหนมาก่อนใช่ไหม”

    “เคยค่ะ เคยอยู่ร้าน...ที่พี่เจี๊ยบไปดริ๊งค์ประจำ พอมาเปิดร้านเองเลยดึงหนูมาทำที่นี่”

    สาวเสิร์ฟมี 4 คน ดูแลคนละ 2 โต๊ะ ส่วนหน้าบาร์มีบาร์เทนเดอร์ 2 ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และในคืนที่ลูกค้าแน่นขนาดนี้ พนักงานทำงานกับมือระวิง สาวเสิร์ฟอย่างจิตรก็วิ่งเสิร์ฟหัวปั่น

    ไม่นาน แจ็คกับแก่ก็มาถึงร้าน

    “เฮ้ย ขอบใจโว้ย ที่มาอุดหนุนร้านน้องสาวกู” แจ็คเข้ามาจับมือทุกคน

    “มาช่วยคุมหรือเปล่า”

    “ช่วย เช้ยอะไร แMงมันยื่นคำขาดไม่ให้กูยุ่ง มันจะบริหารเองทั้งหมด”

    “แล้วถ้าเกิดมีคนเมา หรือพวกอิทธิพลเข้ามาป่วนล่ะ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จะดูแลไหวรื้อ ก็ต้องมาช่วยดูๆ บ้างนะ” ผมอดจะเป็นห่วงไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าเจี๊ยบเก่ง

    แจ็คหัวเราะลั่น แล้วกระดกนิ้วชี้เป็นเชิงสอนผมว่า” รู้จักยัยเจี๊ยบน้อยไปซะแล้ว มันน่ะเจ้าแม่ตัวจริง ใครขืนมีเรื่องด้วย เจอแสบ”

    ที่จริงผมก็น่าจะเชื่อแบบนั้น พลางสอดส่ายตามองหาใบหน้าหวานที่กำลังพูดคุยยิ้มแย้มต้อนรับแขกไปทั่วร้าน ท่าทางรู้งานแบบนี้ หล่อนก็คงนำพาธุรกิจไปได้ตลอดรอดฝั่งอยู่หรอก

    “เหล้าหมดแล้วค่ะ พี่จะเปิดอะไร” จิตรถามขึ้น ดึงผมกลับมาที่สาวเสิร์ฟ

    “แจ็ค แดเนียลมีของแถมหรือเปล่า” ผมถาม

    “แถมหนูค่ะ” ตอบด้วยรอยยิ้มตาพราว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่