[Spoil] Domestic na Kanojo #102 - รอยอดีต

เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ










- ต่อจากตอนก่อนที่พระเอกไปดักคุยกับสาวคาบาเร่ต์ถึงหน้าอพาร์ทเมนต์พร้อมบอกว่า "ขอผมแตะต้องส่วนสำคัญที่สุดของคุณได้ไหมครับ"

- ซึ่งผลน่ะเหรอ...ก็หวิดโดนเรียกตำรวจมาซิวไปสิครับ จะไปเหลืออะไรล่ะ (เล่นไปพูดสองแง่สามง่ามใส่เขาแบบนั้นนี่ฝ่า) เลยต้องแก้ตัวเป็นชุดๆ กว่าจะหายเข้าใจผิดได้

- แต่ถึงจะหายเข้าใจผิด สาวคาบาเร่ต์ก็ยังไม่ยอมให้พระเอกเก็บข้อมูลต่ออยู่ดี พร้อมกับตัดบทเดินหนี แต่พระเอกไม่ยอมปล่อย เดินตามไปพลางขอร้องไปพลาง โดยระหว่างที่พยายามตื๊ออยู่นั้น พระเอกหลุดปากพูดเรื่องที่ผู้จัดการร้านเล่าให้ฟังว่าการแสดงของสาวคาบาเร่ต์นั้นเก่งกว่านักแสดงจริงๆ ซะอีก

- ทันทีที่ได้ยินคำนั้น สาวคาบาเร่ต์ก็ชะงักไปเหมือนหวั่นไหว พระเอกสังเกตเห็นอาการของสาวคาบาเร่ต์ ก็เดาออกทันทีว่าเจ้าตัวอ่อนไหวกับคำว่า "นักแสดง" แน่ๆ

- แต่สุดท้ายก็ไม่วายเดาผิด เพราะดันคิดว่าเจ้าตัวเคยเป็นดาราหนังโป๊มาก่อนเลยไม่อยากบอกใคร คราวนี้สาวคาบาเร่ต์เลยโมโหเดินหนีไปจริงๆ เลย

- แต่พระเอกก็ไม่ยอมแพ้ เดินตามตื๊อสาวเจ้าไปตลอดทางไม่ยอมเลิก จนสุดท้ายสาวเจ้าก็ใจอ่อน (บวกกับความเหนื่อยที่ต้องเดินหนีไปโน่นไปนี่ที) ยอมเล่าเรื่องตัวเองให้พระเอกฟังแต่โดยดี

- โดยสมัยอยู่ม.ปลายนั้นสาวคาบาเร่ต์เคยอยู่ชมรมการแสดงมาก่อน ก็เลยมีความฝันว่าอนาคตอยากเป็นนักแสดง ดังนั้นพอเรียนจบ.ม.ปลายก็เลยออกจากบ้านเกิดมาเข้าสำนักงานเอเจนซี่เล็กๆ ในเมืองกรุง คอยเรียนการแสดงไปพลางทำงานพิเศษหาเลี้ยงตัวเองไปพลาง ไปออดิชั่นบทต่างๆ ตามแต่ทางต้นสังกัดจะส่งไปพลางอยู่ทุกวัน

- แต่ไปออดิชั่นกี่บทๆ ก็คว้าน้ำเหลวหมดทุกบทจนสาวเจ้าเริ่มหมดกำลังใจ ที่แย่กว่านั้นคือค่ากินค่าอยู่ในเมืองกรุง บวกกับค่าเรียนการแสดงก็ไม่ใช่น้อยๆ อยู่ไปได้ไม่นานก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องโทรไปขอเงินพ่อแม่ที่บ้านนอกมาใช้จ่ายอยู่บ่อยๆ

- แต่ถึงจะท้อแท้แค่ไหน แต่สาวเจ้าก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังพยายามฝึกการแสดงและไปออดิชั่นบทต่างๆ อยู่บ่อยๆ โดยเชื่อว่าหากพยายามมากพอ สักวันตัวเองคงมีโอกาส

- จนวันหนึ่ง สาวคาบาเร่ต์ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่แจ้งเข้ามาว่าพ่อป่วยหนักเป็นโรคสมองขาดเลือดเฉียบพลันจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วทางบ้านไม่มีเงินมากพอจะรักษา

- เจอแบบนี้เข้าไป สาวคาบาเร่ต์เลยต้องล้มเลิกความฝันจะเป็นนักแสดงของตัวเอง แล้วหางานอื่นที่รายได้ดีกว่านี้มาทำแทน ก็เลยมาเป็นสาวคาบาเร่ต์ในคาบาเร่ต์คลับจนปัจจุบัน


- พระเอกได้ฟังเรื่องทั้งหมดจบก็ทำท่าเสียดายว่าถึงจะเพื่อครอบครัวก็เถอะ แต่ต้องล้มเลิกความฝันกลางทางแบบนั้นจะยอมรับได้เหรอ ตอนนี้ก็มีประสบการณ์การแสดงจากงานที่ทำเยอะพอดูแล้ว ทำไมไม่หาทางเป็นนักแสดงต่อล่ะ สาวคาบาเร่ต์ก็โบกมือบอกว่าช่างเถอะ ตัวเองก็อายุปูนนี้แล้ว จะให้ไปตั้งหลักเป็นนักแสดงหน้าใหม่อีกรอบคงไม่ไหวแล้วล่ะ

- แต่พระเอกยังสงสัยอยู่ว่าทำไมสาวคาบาเร่ต์ถึงออกอาการแบบนั้นเวลาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการแสดงล่ะ สาวคาบาเร่ต์เห็นว่าถ้าไม่ยอมเล่าพระเอกคงตามตื๊อต่อแหงๆ เลยยอมเล่าให้ฟังว่า "เพราะพอได้ยินคำนั้นทีไร ก็จะนึกถึงแฟนที่เลิกรากันไปทุกทีน่ะสิ"

- สาวคาบาเร่ต์เล่าให้ฟังต่อว่าสมัยอยู่ชมรมการแสดงในโรงเรียนม.ปลายบ้านนอก ตัวเองเคยคบเป็นแฟนกับเด็กหนุ่มชมรมเดียวกันธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไร แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ทั้งยังคอยเอาใจช่วยเรื่องความฝันจะเป็นนักแสดงของสาวคาบาเร่ต์อยู่เสมอ กระทั่งหลังจากสาวคาบาเร่ต์เข้ากรุงไปเป็นนักแสดงหน้าใหม่แล้วก็ยังติดต่อหากันอยู่เสมอ คอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา คอยปลอบเวลาที่ออดิชั่นตก แถมยังคอยหาบทออดิชั่นใหม่ๆ มาให้สาวคาบาเร่ต์ไปทดสอบตลอด เรียกว่าเป็นรักทางไกลก็คงไม่ผิดนัก

- ดังนั้นพอสาวคาบาเร่ต์เลิกล้มความคิดจะเป็นนักแสดง ก็เลยไม่กล้าบอกความจริงเพราะกลัวแฟนจะผิดหวังที่ตัวเองเลิกล้มกลางคัน สุดท้ายพอไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยโทรไปขอเลิกเอาดื้อๆ

- และนี่คือสาเหตุที่สาวคาบาเร่ต์ไม่อยากเห็นไม่อยากได้ยินคำว่านักแสดง เพราะมันทำให้นึกเสียงของแฟนที่ได้ยินเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ขอเลิกกันนั่นเอง


- ฝ่ายพระเอกได้ฟังเรื่องทั้งหมดจบ ก็ดันเห็นเรื่องของสาวคาบาเร่ต์ซ้อนทับกับเรื่องของตัวเองกับคนพี่ เลยเกิดฮึดขึ้นมา บอกว่าจะพาสาวคาบาเร่ต์ไปพบกับแฟนที่ขอเลิกกันไป สาวคาบาเร่ต์ก็ตกใจ โบกมือโบกไม้ว่าไม่ไหว ชั้นไม่กล้าไปหรอก

- พระเอกเลยเล่าเรื่องของตัวเองกับคนพี่ให้ฟัง บอกว่าในฐานะที่เคยอยู่ในฐานะเดียวกับแฟนของสาวคาบาเร่ต์มาก่อนแล้ว ตัวเขาก็รู้สึกยอมรับไม่ได้เหมือนกันที่อยู่ๆ มาโดนบอกเลิกกะทันหันแบบนี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีโอกาสพบกับคนพี่ ได้เจอได้พูดคุยกับคนพี่จนเคลียร์กันได้ในที่สุด ดังนั้นตัวเขาจึงเชื่อว่าสาวคาบาเร่ต์ควรไปคุยกับแฟนอีกครั้ง

- แต่สาวคาบาเร่ต์ก็โวยวายไม่ยอมไปท่าเดียว พระเอกจะพูดจะยื้อยุดยังไงก็ไม่ยอม

- ระหว่างที่กำลังยื้อยุดกันอยู่นั้นเอง กะเทยควายผมทองคู่แข่งของเจ้าของร้านก็เดินผ่านมาเห็นพระเอกกับสาวคาบาเร่ต์ เลยเดินเข้ามาทักเพราะเห็นเป็นคนรู้จักกัน แล้วถามว่ามีเรื่องอะไรกันเหรอ พระเอกก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ลุงกะเทยควายฟัง

- ลุงกะเทยควายได้ฟังก็เห็นด้วยกับพระเอกว่าสาวคาบาเร่ต์ควรจะไปคุยกับแฟนให้รู้เรื่องจริงๆ สักครั้ง ดีกว่าขอเลิกกันดื้อๆ แล้วปล่อยให้คาราคาซังอยู่แบบนี้

- แต่สาวคาบาเร่ต์ก็ยังไม่ยอม อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด กลัวว่าป่านนี้แล้วกลับไปหาจะได้อะไรบ้าง อีกฝ่ายอาจมีแฟนใหม่แล้วก็ได้บ้าง จนลุงกะเทยควายชักเดือดขึ้นมา จัดการหิ้วสาวคาบาเร่ต์ (ด้วยท่าโคตรสยิวเกินกว่าจะเอามาลงในเว็บได้) ไปยังสถานีรถไฟพร้อมกับพระเอกเป็นอันจบตอนนี้







ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเหมือนเดิมแฮะ นอกจากเล่าประวัติแนวละครน้ำเน่าภาคกลางวันของสาวคาบาเร่ต์ในตอนนี้ (ขนาดจะเลือกภาพเด่นมายังหาภาพเด่นไม่ได้เลย...ยกเว้นภาพสุดท้ายที่คงเอาลงไม่ได้...)

กะว่างานนี้คงนั่งเคลียร์อีเวนต์ย่อยของสาวคาบาเร่ต์ให้เสร็จก่อนค่อยมีอีเวนต์ใหญ่หรืออีเวนต์สำคัญตามมาแฮะ


จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็รอดูต่อไปละครับว่าจะเคลียร์อีเวนต์สาวคาบาเร่ต์ยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่