เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่คนน้องนัดเดทกับอัล
- เช้าวันรุ่งขึ้น คนน้องก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเดท แต่ใช้เวลาเลือกชุดนานไปหน่อยเลยต้องเร่งทำเวลาพอสมควร พระเอกมาเห็นเข้าก็ทักว่ารีบร้อนแบบนี้ไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ คนน้องก็ตอบไปแบบแกนๆ แล้วขอตัวออกจากบ้านไป ทิ้งให้พระเอกยืนมองตาละห้อยอยู่ข้างหลัง
คนน้องในชุดไปออกเดทกับอัล
- ยืนเล่นมิวสิควิดีโออยู่พักหนึ่ง พระเอกก็เร่งปรับอารมณ์ใหม่ แล้วแต่งตัวออกจากบ้านไปหาอ.นักเขียนที่ตัวเองไปฝากตัวรับใช้ต่อ
- ไปถึงบ้านอ.นักเขียนก็เจออาจารย์นอนเป็นอึ่งอ่างขึ้นอืดอยู่กลางกองหนังสือในห้องหนังสือ พระเอกต้องช่วยลากตัวออกมาพร้อมบ่นกระปอดกระแปดว่าทำแบบนี้จะป่วยเป็นฮีทสโตรกเอาสักวัน
- ลากออกมาเสร็จก็ถามอ.นักเขียนว่ามีงานอะไรให้ช่วยมั้ย อ.นักเขียนก็บอกว่าไม่มีหรอก แล้วไล่ๆ ให้พระเอกลองไปหัดเก็บข้อมูลสำหรับเขียนงานตามที่เคยบอกไปในครั้งก่อนซะ พระเอกเห็นไม่มีงานให้ช่วยเลยต้องยอมออกจากบ้านอาจารย์นักเขียนมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
- ออกจากบ้านอาจารย์เสร็จก็มานั่งคิดว่าจะไปเก็บข้อมูลที่ไหนดี ก็พอดีนึกได้ว่าตอนไปนอนค้างห้องสาวคาบาเร่ต์เมื่อตอนที่แล้วตัวเองได้นามบัตรเค้ามาด้วย เลยตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือเรื่องเก็บข้อมูล ซึ่งสาวคาบาเร่ต์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยนัดให้พระเอกมาเจอกันที่ห้องพักของเธอ
- พระเอกก็ไปที่ห้องพักของสาวคาบาเร่ต์คนนั้น ปรากฏว่าเจ้าตัวออกมาเปิดประตูรับพระเอกทั้งหน้าสดไม่ได้แต่งหน้า เล่นเอาพระเอกชะงักนึกว่าเข้าผิดห้อง เกิดเป็นฉากเข้าใจผิด + เม้งแตกน่ารักๆ ไป
- พระเอกก็เล่าเรื่องที่ตัวเองเป็นลูกศิษย์ของอ.นักเขียนอยู่ ก่อนจะออกปากขอเก็บข้อมูลของสาวคาบาเร่ต์คนนี้ บอกว่าที่ผ่านมาตัวเองเขียนเรื่องจากอะไรรอบตัวมาตลอดจนไม่สามารถเขียนอะไรหลากหลายได้ เลยอยากเก็บข้อมูลเรื่องต่างๆ ไว้เพื่อเปิดโลกทัศน์ตัวเองให้กว้างขึ้น จะได้มีวัตถุดิบไว้เขียนงานได้
- สาวคาบาเร่ต์ฟังจบก็ตอบตกลง โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือพระเอกต้องไปเดทกับเธอวันนี้ทั้งวัน
- ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือ...ไปเป็นเบ๊ถือของระหว่างช็อปปิ้งของผู้สาวตามในภาพข้างล่างนี่แล
- เดินๆ ช็อปๆ กันอยู่ก็คุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อยๆ ตามประสา สาวคาบาเร่ต์ได้ยินว่าพระเอกไม่มีเสื้อผ้าดีๆ เท่ๆ ใส่ก็จัดการลากพระเอกไปร้านเสื้อผ้าผู้ชายแล้วจับแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่จนหล่อไปเลย (แถมเป็นสปอนเซอร์จ่ายค่าชุดให้อีกต่างหาก เล่นเอาพระเอกออกอาการเกรงใจไม่กล้าใส่ไปเลย)
- แต่ระหว่างกำลังเดินในย่านการค้าอยู่นั้นเอง พระเอกกับสาวคาบาเร่ต์ก็มาเจอคนน้องกับอัลที่มาเดทกันแถวนี้เข้าโดยบังเอิญ อัลเห็นพระเอกก็พาคนน้องเข้ามาทักพระเอกทันที โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าคนน้องเมื่อเห็นพระเอกมากับผู้หญิงคนอื่น
- อัลเห็นพระเอกมากับคนที่ตัวเองไม่รู้จักก็ถามว่าใครน่ะ พระเอกก็ทำท่าจะตอบ แต่โดนสาวคาบาเร่ต์ชิงตอบเสียงหวานหยดว่าเป็นผู้หญิงที่ซื้อตัวพระเอกไว้ทั้งวันแล้วไงจ๊ะ (ไม่พูดเปล่ามีการแกล้งเข้ามาเกาะเข้ามากระแซะพระเอกให้ดูอีกต่างหาก เล่นเอาคนน้องถึงกับเส้นกระตุกขึ้นมาเลย)
- คนน้องเห็นภาพบาดตาเข้าแบบนั้นก็ทนไม่ไหว ทำท่าจะตัดบทเดินหนี แต่สาวคาบาเร่ต์เห็นท่าทางของคนน้องก็เหมือนจะเดาอะไรออก เลยแกล้งเรียกตัวไว้ก่อนพร้อมชวนให้ไปดื่มชาด้วยกัน ทีแรกคนน้องปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ต้านลูกล่อลูกชนของสาวคาบาเร่ต์ไม่อยู่ โดนหลอกล่อจนต้องยอมไปดื่มชาด้วยกันแบบเสียไม่ได้
- มาถึงร้านสั่งชากับเค้กเสร็จ คนน้องก็เอาแต่นั่งซดชาเงียบๆ ตลอดไม่ยอมเปิดปากคุยอะไรเลย ส่วนพระเอกก็ได้แต่นั่งเหงื่อตกหน้าซีด มีแต่อัลที่บื้อจนไม่เข้าใจสถานการณ์กับสาวคาบาเร่ต์ที่จงใจชวนมาเท่านั้นที่ยังคุยกันหน้าตาเฉยเหมือนปกติ (ช็อตฮาประจำตอนนี้ สาวคาบาเร่ต์ถามอัลกับคนน้องว่าเป็นแฟนกันเหรอ แต่โดนคนน้องตัดบทอย่างไวว่า
"ยังไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ" )
- ที่แย่กว่านั้นคือระหว่างนั่งกินน้ำชากันอยู่นั้น สาวคาบาเร่ต์ก็เอาแต่เจ๊าะแจ๊ะใส่พระเอกตลอด ทั้งเข้ามากระแซะบ้าง ทั้งพูดจาหวานๆ ใส่บ้าง ตักเค้กป้อนบ้าง แถมมีการปรายตาหาคนน้องเหมือนจะยั่วโมโหอีก ทำเอาคนน้องถึงกับตัวสั่นด้วยแรงหึง
- แล้วจุดตัดก็มาถึงเมื่อสาวคาบาเร่ต์แกล้งพูดถึงเรื่องที่พระเอกเคยไปนอนค้างห้องตัวเองมาคืนหนึ่ง
- เจอคำนี้เข้าไป คนน้องก็หมดความอดทน กระแทกแก้วชาลงกับจานรองดังโครม แล้วขู่เสียงเหี้ยมให้เลิกบ้ากันได้แล้ว เล่นเอาพระเอกถึงกับซีดไปเลย
- หลังกินชาเสร็จกำลังจะออกจากร้าน สาวคาบาเร่ต์ก็มากระซิบขอโทษคนน้องที่แกล้งหนักข้อไปหน่อย บอกว่าตั้งแต่เจอกันทีแรกท่าทางของคนน้องก็ฟ้องมาแต่แรกแล้ว (ว่ารู้สึกยังไงกับพระเอก) เลยนึกอยากแกล้งขึ้นมานิดหน่อยน่ะ พร้อมยืนยันให้สบายใจว่าตัวเองกับพระเอกไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ว่าจบก็ลากพระเอกไปช็อปปิ้งต่อ ทิ้งให้คนน้องยืนหน้าแดงอยู่ข้างหลัง
- หลังเดทช่วงกลางวันเสร็จ สาวคาบาเร่ต์ก็พาพระเอกมาที่คาบาเร่ต์คลับที่ตัวเองทำงานอยู่ โดยฝากให้พระเอกเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่คาบาเร่ต์คลับนี้ (ไม่แน่ใจว่าแค่วันนี้หรือวันต่อๆ ไปด้วย แต่ดูจากบทพูดที่พระเอกคุยกับพนักงานร้านคนอื่นแล้วน่าจะแค่ไม่นาน เพราะเห็นพวกนี้รู้ว่าพระเอกมาเก็บข้อมูล)
- คุยกับพนักงานร้านคนอื่นได้พักนึง สาวคาบาเร่ต์ก็ออกมาจากหลังร้านในชุดเดรสเต็มยศ ทำเอาพระเอกถึงกับตะลึงในความสวยไปเลย
- พนักงานร้านก็คุยให้พระเอกฟังเรื่องสาวคาบาเร่ต์คนนี้ บอกว่าเป็นคนเก่งที่สุดเรื่องการจับจุดว่าลูกค้าที่มาต้องการอะไร และปรับบุคลิกของตนเองให้เข้ากับลูกค้า ทำให้ลูกค้าสนุกสนานและสบายใจได้อย่างไม่มีที่ติ พระเอกได้ฟังก็ถึงกับทึ่งในความเก่งกาจของสาวคาบาเร่ต์คนนี้ขึ้นมา
- ระหว่างนั้นเองก็มีลูกค้าเป็นเสี่ยตัวอ้วนๆ หน้าตาทุเรศคนหนึ่งตรงเข้ามาต่อว่าสาวคาบาเร่ต์เรื่องไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น (ซึ่งไอ้ผู้ชายที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พระเอกนั่นแหละ) แถมยังคว้าเหล้ารดใส่หัวอย่างหยาบคายอีก
- แต่ถึงจะถูกปฏิบัติอย่างหยาบคายขนาดนั้น สาวคาบาเร่ต์ก็ยังยิ้มแย้มพูดจากับไอ้เสี่ยอ้วนอย่างอ่อนโยน ไม่มีแสดงอาการโมโหใส่แม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งพนักงานร้านคนอื่นเข้ามาช่วยกันกันไอ้เสี่ยอ้วนออกไป
- หลังไอ้เสี่ยอ้วนโดนลากออกไปแล้ว พระเอกก็เข้าไปหาสาวคาบาเร่ต์อย่างเป็นห่วงพร้อมเอาผ้าขนหนูช่วยเช็ดหน้าเช็ดผมที่โดนเหล้าสาดใส่ให้ สาวคาบาเร่ต์ก็บอกปัดว่าไม่เป็นไร นานๆ ก็มีลูกค้าแบบนี้มาบ้างแหละ พระเอกเห็นสาวคาบาเร่ต์พูดแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ออกปากชมว่าโดนด่าขนาดนั้นยังปั้นยิ้มใส่โดยไม่แสดงอาการโมโหได้ เก่งขนาดนี้ขนาดดารายังอายเลยนะเนี่ย
- ทันทีที่ได้ยินคำนั้น สาวคาบาเร่ต์ก็หุบยิ้มทันที แล้วบอกกับพระเอกว่าข้อมูลที่เก็บไปคราวนี้ให้ถือซะว่าไม่เคยมีอยู่ได้มั้ย
ทีแรกนึกว่าเป็นตัวละครใช้ตอนเดียวจบ สรุปว่ายังมีบทต่อแฮะสาวคาบาเร่ต์คนนี้
ได้เห็นคนน้องแสดงอาการหึงพระเอกในตอนนี้แล้ว ก็แอบคิดแฮะว่าเรือพระเอก - คนน้องก็ยังไม่หมดหวังซะทีเดียวหรอก (ถึงคนที่เห็นเนื้อเรื่องพระเอกในอนาคตมาแล้วจะยังไม่น่าหมดหวังกันก็เถอะ)
อนึ่ง ได้ข่าวจากทวิตเตอร์อ.ผู้เขียนมาว่าอาทิตย์หน้าจะงดลงแฮะ แต่ก็มีข่าวดีอีกอย่าง คือตอนที่ 101 จะได้หน้าสีกลางเล่ม แถมได้เพิ่มจำนวนหน้าอีกต่างหาก
ไว้รอดูอีก 2 อาทิตย์หน้าละครับจะมีเนื้อหาอะไรให้เล่นกัน
[Spoil] Domestic na Kanojo #100 - เก็บข้อมูล
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่คนน้องนัดเดทกับอัล
- เช้าวันรุ่งขึ้น คนน้องก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเดท แต่ใช้เวลาเลือกชุดนานไปหน่อยเลยต้องเร่งทำเวลาพอสมควร พระเอกมาเห็นเข้าก็ทักว่ารีบร้อนแบบนี้ไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ คนน้องก็ตอบไปแบบแกนๆ แล้วขอตัวออกจากบ้านไป ทิ้งให้พระเอกยืนมองตาละห้อยอยู่ข้างหลัง
คนน้องในชุดไปออกเดทกับอัล
- ยืนเล่นมิวสิควิดีโออยู่พักหนึ่ง พระเอกก็เร่งปรับอารมณ์ใหม่ แล้วแต่งตัวออกจากบ้านไปหาอ.นักเขียนที่ตัวเองไปฝากตัวรับใช้ต่อ
- ไปถึงบ้านอ.นักเขียนก็เจออาจารย์นอนเป็นอึ่งอ่างขึ้นอืดอยู่กลางกองหนังสือในห้องหนังสือ พระเอกต้องช่วยลากตัวออกมาพร้อมบ่นกระปอดกระแปดว่าทำแบบนี้จะป่วยเป็นฮีทสโตรกเอาสักวัน
- ลากออกมาเสร็จก็ถามอ.นักเขียนว่ามีงานอะไรให้ช่วยมั้ย อ.นักเขียนก็บอกว่าไม่มีหรอก แล้วไล่ๆ ให้พระเอกลองไปหัดเก็บข้อมูลสำหรับเขียนงานตามที่เคยบอกไปในครั้งก่อนซะ พระเอกเห็นไม่มีงานให้ช่วยเลยต้องยอมออกจากบ้านอาจารย์นักเขียนมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
- ออกจากบ้านอาจารย์เสร็จก็มานั่งคิดว่าจะไปเก็บข้อมูลที่ไหนดี ก็พอดีนึกได้ว่าตอนไปนอนค้างห้องสาวคาบาเร่ต์เมื่อตอนที่แล้วตัวเองได้นามบัตรเค้ามาด้วย เลยตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือเรื่องเก็บข้อมูล ซึ่งสาวคาบาเร่ต์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยนัดให้พระเอกมาเจอกันที่ห้องพักของเธอ
- พระเอกก็ไปที่ห้องพักของสาวคาบาเร่ต์คนนั้น ปรากฏว่าเจ้าตัวออกมาเปิดประตูรับพระเอกทั้งหน้าสดไม่ได้แต่งหน้า เล่นเอาพระเอกชะงักนึกว่าเข้าผิดห้อง เกิดเป็นฉากเข้าใจผิด + เม้งแตกน่ารักๆ ไป
- พระเอกก็เล่าเรื่องที่ตัวเองเป็นลูกศิษย์ของอ.นักเขียนอยู่ ก่อนจะออกปากขอเก็บข้อมูลของสาวคาบาเร่ต์คนนี้ บอกว่าที่ผ่านมาตัวเองเขียนเรื่องจากอะไรรอบตัวมาตลอดจนไม่สามารถเขียนอะไรหลากหลายได้ เลยอยากเก็บข้อมูลเรื่องต่างๆ ไว้เพื่อเปิดโลกทัศน์ตัวเองให้กว้างขึ้น จะได้มีวัตถุดิบไว้เขียนงานได้
- สาวคาบาเร่ต์ฟังจบก็ตอบตกลง โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือพระเอกต้องไปเดทกับเธอวันนี้ทั้งวัน
- ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือ...ไปเป็นเบ๊ถือของระหว่างช็อปปิ้งของผู้สาวตามในภาพข้างล่างนี่แล
- เดินๆ ช็อปๆ กันอยู่ก็คุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อยๆ ตามประสา สาวคาบาเร่ต์ได้ยินว่าพระเอกไม่มีเสื้อผ้าดีๆ เท่ๆ ใส่ก็จัดการลากพระเอกไปร้านเสื้อผ้าผู้ชายแล้วจับแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่จนหล่อไปเลย (แถมเป็นสปอนเซอร์จ่ายค่าชุดให้อีกต่างหาก เล่นเอาพระเอกออกอาการเกรงใจไม่กล้าใส่ไปเลย)
- แต่ระหว่างกำลังเดินในย่านการค้าอยู่นั้นเอง พระเอกกับสาวคาบาเร่ต์ก็มาเจอคนน้องกับอัลที่มาเดทกันแถวนี้เข้าโดยบังเอิญ อัลเห็นพระเอกก็พาคนน้องเข้ามาทักพระเอกทันที โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าคนน้องเมื่อเห็นพระเอกมากับผู้หญิงคนอื่น
- อัลเห็นพระเอกมากับคนที่ตัวเองไม่รู้จักก็ถามว่าใครน่ะ พระเอกก็ทำท่าจะตอบ แต่โดนสาวคาบาเร่ต์ชิงตอบเสียงหวานหยดว่าเป็นผู้หญิงที่ซื้อตัวพระเอกไว้ทั้งวันแล้วไงจ๊ะ (ไม่พูดเปล่ามีการแกล้งเข้ามาเกาะเข้ามากระแซะพระเอกให้ดูอีกต่างหาก เล่นเอาคนน้องถึงกับเส้นกระตุกขึ้นมาเลย)
- คนน้องเห็นภาพบาดตาเข้าแบบนั้นก็ทนไม่ไหว ทำท่าจะตัดบทเดินหนี แต่สาวคาบาเร่ต์เห็นท่าทางของคนน้องก็เหมือนจะเดาอะไรออก เลยแกล้งเรียกตัวไว้ก่อนพร้อมชวนให้ไปดื่มชาด้วยกัน ทีแรกคนน้องปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ต้านลูกล่อลูกชนของสาวคาบาเร่ต์ไม่อยู่ โดนหลอกล่อจนต้องยอมไปดื่มชาด้วยกันแบบเสียไม่ได้
- มาถึงร้านสั่งชากับเค้กเสร็จ คนน้องก็เอาแต่นั่งซดชาเงียบๆ ตลอดไม่ยอมเปิดปากคุยอะไรเลย ส่วนพระเอกก็ได้แต่นั่งเหงื่อตกหน้าซีด มีแต่อัลที่บื้อจนไม่เข้าใจสถานการณ์กับสาวคาบาเร่ต์ที่จงใจชวนมาเท่านั้นที่ยังคุยกันหน้าตาเฉยเหมือนปกติ (ช็อตฮาประจำตอนนี้ สาวคาบาเร่ต์ถามอัลกับคนน้องว่าเป็นแฟนกันเหรอ แต่โดนคนน้องตัดบทอย่างไวว่า "ยังไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ" )
- ที่แย่กว่านั้นคือระหว่างนั่งกินน้ำชากันอยู่นั้น สาวคาบาเร่ต์ก็เอาแต่เจ๊าะแจ๊ะใส่พระเอกตลอด ทั้งเข้ามากระแซะบ้าง ทั้งพูดจาหวานๆ ใส่บ้าง ตักเค้กป้อนบ้าง แถมมีการปรายตาหาคนน้องเหมือนจะยั่วโมโหอีก ทำเอาคนน้องถึงกับตัวสั่นด้วยแรงหึง
- แล้วจุดตัดก็มาถึงเมื่อสาวคาบาเร่ต์แกล้งพูดถึงเรื่องที่พระเอกเคยไปนอนค้างห้องตัวเองมาคืนหนึ่ง
- เจอคำนี้เข้าไป คนน้องก็หมดความอดทน กระแทกแก้วชาลงกับจานรองดังโครม แล้วขู่เสียงเหี้ยมให้เลิกบ้ากันได้แล้ว เล่นเอาพระเอกถึงกับซีดไปเลย
- หลังกินชาเสร็จกำลังจะออกจากร้าน สาวคาบาเร่ต์ก็มากระซิบขอโทษคนน้องที่แกล้งหนักข้อไปหน่อย บอกว่าตั้งแต่เจอกันทีแรกท่าทางของคนน้องก็ฟ้องมาแต่แรกแล้ว (ว่ารู้สึกยังไงกับพระเอก) เลยนึกอยากแกล้งขึ้นมานิดหน่อยน่ะ พร้อมยืนยันให้สบายใจว่าตัวเองกับพระเอกไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ว่าจบก็ลากพระเอกไปช็อปปิ้งต่อ ทิ้งให้คนน้องยืนหน้าแดงอยู่ข้างหลัง
- หลังเดทช่วงกลางวันเสร็จ สาวคาบาเร่ต์ก็พาพระเอกมาที่คาบาเร่ต์คลับที่ตัวเองทำงานอยู่ โดยฝากให้พระเอกเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่คาบาเร่ต์คลับนี้ (ไม่แน่ใจว่าแค่วันนี้หรือวันต่อๆ ไปด้วย แต่ดูจากบทพูดที่พระเอกคุยกับพนักงานร้านคนอื่นแล้วน่าจะแค่ไม่นาน เพราะเห็นพวกนี้รู้ว่าพระเอกมาเก็บข้อมูล)
- คุยกับพนักงานร้านคนอื่นได้พักนึง สาวคาบาเร่ต์ก็ออกมาจากหลังร้านในชุดเดรสเต็มยศ ทำเอาพระเอกถึงกับตะลึงในความสวยไปเลย
- พนักงานร้านก็คุยให้พระเอกฟังเรื่องสาวคาบาเร่ต์คนนี้ บอกว่าเป็นคนเก่งที่สุดเรื่องการจับจุดว่าลูกค้าที่มาต้องการอะไร และปรับบุคลิกของตนเองให้เข้ากับลูกค้า ทำให้ลูกค้าสนุกสนานและสบายใจได้อย่างไม่มีที่ติ พระเอกได้ฟังก็ถึงกับทึ่งในความเก่งกาจของสาวคาบาเร่ต์คนนี้ขึ้นมา
- ระหว่างนั้นเองก็มีลูกค้าเป็นเสี่ยตัวอ้วนๆ หน้าตาทุเรศคนหนึ่งตรงเข้ามาต่อว่าสาวคาบาเร่ต์เรื่องไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น (ซึ่งไอ้ผู้ชายที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พระเอกนั่นแหละ) แถมยังคว้าเหล้ารดใส่หัวอย่างหยาบคายอีก
- แต่ถึงจะถูกปฏิบัติอย่างหยาบคายขนาดนั้น สาวคาบาเร่ต์ก็ยังยิ้มแย้มพูดจากับไอ้เสี่ยอ้วนอย่างอ่อนโยน ไม่มีแสดงอาการโมโหใส่แม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งพนักงานร้านคนอื่นเข้ามาช่วยกันกันไอ้เสี่ยอ้วนออกไป
- หลังไอ้เสี่ยอ้วนโดนลากออกไปแล้ว พระเอกก็เข้าไปหาสาวคาบาเร่ต์อย่างเป็นห่วงพร้อมเอาผ้าขนหนูช่วยเช็ดหน้าเช็ดผมที่โดนเหล้าสาดใส่ให้ สาวคาบาเร่ต์ก็บอกปัดว่าไม่เป็นไร นานๆ ก็มีลูกค้าแบบนี้มาบ้างแหละ พระเอกเห็นสาวคาบาเร่ต์พูดแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ออกปากชมว่าโดนด่าขนาดนั้นยังปั้นยิ้มใส่โดยไม่แสดงอาการโมโหได้ เก่งขนาดนี้ขนาดดารายังอายเลยนะเนี่ย
- ทันทีที่ได้ยินคำนั้น สาวคาบาเร่ต์ก็หุบยิ้มทันที แล้วบอกกับพระเอกว่าข้อมูลที่เก็บไปคราวนี้ให้ถือซะว่าไม่เคยมีอยู่ได้มั้ย
ทีแรกนึกว่าเป็นตัวละครใช้ตอนเดียวจบ สรุปว่ายังมีบทต่อแฮะสาวคาบาเร่ต์คนนี้
ได้เห็นคนน้องแสดงอาการหึงพระเอกในตอนนี้แล้ว ก็แอบคิดแฮะว่าเรือพระเอก - คนน้องก็ยังไม่หมดหวังซะทีเดียวหรอก (ถึงคนที่เห็นเนื้อเรื่องพระเอกในอนาคตมาแล้วจะยังไม่น่าหมดหวังกันก็เถอะ)
อนึ่ง ได้ข่าวจากทวิตเตอร์อ.ผู้เขียนมาว่าอาทิตย์หน้าจะงดลงแฮะ แต่ก็มีข่าวดีอีกอย่าง คือตอนที่ 101 จะได้หน้าสีกลางเล่ม แถมได้เพิ่มจำนวนหน้าอีกต่างหาก
ไว้รอดูอีก 2 อาทิตย์หน้าละครับจะมีเนื้อหาอะไรให้เล่นกัน