เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ











- ต่อจากตอนที่แล้วที่อัลจูบคนน้องต่อหน้าพระเอกในสวนสาธารณะเป็นเชิงท้ารบ

- พออัลถอนปากออก คนน้องก็ยืนนิ่งค้าง นึกถึงสีหน้าพระเอกตอนวิ่งเข้ามาในสวนอยู่แว่บหนึ่งก็ผละจากอัลแล้ววิ่งหนี พระเอกพยายามคว้าแขนไว้ แต่โดนคนน้องปัดมือทิ้ง แล้ววิ่งจากไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

- หลังคนน้องวิ่งหายไปแล้ว อัลก็หันมาพูดกับพระเอกว่าถ้าพระเอกไม่ตามมา ตัวเองก็คงไม่ตัดสินใจทำแบบนั้น หลังจากนี้คงต้องหาเวลาไปขอโทษคนน้องแล้วสิ

- ว่าจบ อัลก็ยืนนิ่งมองสีหน้าพระเอกอยู่พักหนึ่งก็ถามด้วยอาการสงบนิ่งว่าพระเอกตกลงจะเอายังไงกันแน่ และบอกว่าตัวเองแอบระแคะระคายมาตั้งแต่ตอนท่องหนังสือด้วยกันครั้งก่อน (ตอนพระเอกออกอาการหวงก้างครั้งแรก) แล้วว่าพระเอกคิดกับคนน้องมากกว่าแค่พี่น้อง และถามพระเอกกลับว่าที่ยอมทำตามคำขอว่า "ขออยู่กับคนน้องสองต่อสอง" นั่นเพราะพระเอกยังสับสนอยู่งั้นเหรอ

- พระเอกได้แต่นิ่งตอบไม่ออก อัลก็พูดเหมือนเข้าใจว่าก็ไม่แปลกหรอกที่พระเอกจะลังเล เพราะยังไงโดยฐานะแล้วคนน้องกับพระเอกก็ถือเป็นพี่น้องกัน ถึงจะไม่ได้ร่วมสายเลือดก็เถอะ ดังนั้นเขาจะไม่เร่งร้อนให้หาข้อสรุปเรื่องความสัมพันธ์สามเส้าครั้งนี้หรอก

- ด้วยเหตุนี้ อัลจึงตัดสินใจจะให้เวลาพระเอกคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองจนถึงช่วงงานโรงเรียนที่จะจัดในเทอมหน้า และถ้าถึงตอนนั้นพระเอกยังไม่ได้คำตอบละก็ เขาก็จะไม่เกรงใจพระเอกเรื่องคนน้องอีกต่อไปแล้ว และจะขอรับตัวคนน้องไปเป็นแฟนเอง


- ฉากตัดมาเช้าวันรุ่งขึ้น คนน้องตื่นมาด้วยสภาพโทรมสุดๆ เพราะยังไม่หายคิดมากเรื่องเมื่อคืน

- ล้างหน้าล้างตาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ คนน้องก็เดินลงมาที่ชั้นล่างแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะยังไม่กล้าสู้หน้าอัลเนื่องจากเรื่องเมื่อคืนนี้

- แต่พอลงมาถึง ก็เจอแต่พระเอก ส่วนอัลกลับบ้านไปตั้งแต่เช้าก่อนคนน้องจะตื่นแล้ว

- พระเอกพยายามคุยกับคนน้องตามปกติ แต่ก็ได้มาแต่คำตอบแบบถามคำตอบคำจนพระเอกหน้าเจื่อนไป

- คุยได้พักหนึ่ง คนน้องก็ถามพระเอกตรงๆ ว่าเมื่อคืนทำไมถึงออกไปตามหาตัวเองกับอัลล่ะ พระเอกก็บอกว่าเล่นหายกันไปสองคน เป็นใครก็ต้องห่วงอยู่แล้วสิ เลยเจอคนน้องถามต่อว่า ถ้างั้นแล้วทำไมถึงปล่อยให้เธออยู่กับอัลสองคนแต่แรกล่ะ

- เจอคำถามนี้เข้าไปพระเอกก็ตอบไม่ออก แต่คนน้องเห็นสีหน้าพระเอกก็พอเดาคำตอบได้ เลยสะบัดหน้าเดินหนี พร้อมกับบอกพระเอกสั้นๆ คำเดียวว่าเธอไม่เข้าใจอีกแล้ว ก่อนจะออกจากบ้านไป

- เจอคนน้องตอกหน้าเข้าแบบนั้น พระเอกก็ได้แต่ยืนตัวสั่น กัดริมฝีปากตัวเองแน่นด้วยความโกรธตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองดังฉาด

- ระหว่างกำลังเล่นมิวสิควิดีโออยู่เพลินๆ นั้นเอง ก็มีสัญญาณเมลเข้าดังจากมือถือ ครั้งแรกพระเอกนึกว่าเป็นอัลส่งเมลมา แต่พอหยิบมือถือมาดูกลับเป็นอาจารย์นักเขียนที่เพิ่งกลับจากไปเก็บข้อมูลที่ต่างประเทศเมลมาเรียกให้ไปหา

- พระเอกก็แวะไปที่บ้านอาจารย์นักเขียนตามคำเรียก ไปช่วยอาจารย์จัดเก็บข้อมูลกับภาพถ่ายที่หามาได้ โดยเอาต้นฉบับนิยายที่เขียนโดยใช้เรื่องราวของสาวคาบาเร่ต์ที่เคยไปเก็บข้อมูลไปให้อาจารย์นักเขียนช่วยอ่านด้วย

- ปรากฏว่าพระเอกยังจัดข้อมูลไม่ทันเสร็จ อาจารย์ก็อ่านต้นฉบับของพระเอกเสร็จแล้ว โดยหลังอ่านเสร็จ อาจารย์ก็มาวิจารณ์ผลงานให้พระเอกฟัง ว่างานของพระเอกถึงจะสะท้อนความลังเลเนื่องจากผลสุดท้ายของการเก็บข้อมูลอยู่บ้าง แต่เทียบกับผลงานก่อนๆ แล้วก็ดีขึ้นเป็นคนละเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องการบรรยายฉากที่เขียนได้เห็นภาพมากกว่าเดิม

- พระเอกได้ฟังคำชมจากอาจารย์นักเขียนก็ดีใจ ขอบคุณอาจารย์เสียยกใหญ่

- ตอนนั้นเองโทรศัพท์พระเอกก็ดังขึ้น พระเอกเลยขออนุญาตรับ ปรากฏว่าเป็นสาวคาบาเร่ต์เจ้าของเรื่องของพระเอกโทรมาขอให้พระเอกช่วยจัดของเตรียมย้ายบ้านที พระเอกเลยหันไปขออนุญาตอาจารย์นักเขียน อาจารย์นักเขียนก็อนุญาตให้ไป พระเอกเลยรีบไปที่อพาร์ทเมนต์ของสาวคาบาเร่ต์ทันที


- ฉากตัดอีกครั้ง ไปยังอพาร์ทเมนต์ของสาวคาบาเร่ต์ ภาพฉายให้เห็นพระเอกกำลังช่วยสาวคาบาเร่ต์แพ็คของเก็บเตรียมย้ายบ้านอยู่

- ระหว่างจัดของกันอยู่นั้น สาวคาบาเร่ต์ก็ถามพระเอกถึงเรื่องนิยายที่เอาเรื่องตัวเองไปเป็นต้นแบบ พระเอกก็บอกว่าอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว แต่ก็ยังคิดมากเรื่องที่ตัวเองเข้าไปจุ้นกับเรื่องของสาวคาบาเร่ต์มากเกินไปจนเป็นเหตุให้เจ้าตัวได้รู้เรื่องที่หากไม่รู้จะช่วยให้ใช้ชีวิตได้โดยมีความสงบทางใจมากกว่า (เรื่องที่แฟนเก่าตาย)

- สาวคาบาเร่ต์ได้ยินแบบนั้นก็บอกพระเอกเป็นเชิงตัดบทว่าเรื่องพรรค์นั้นคิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกน่า ที่สำคัญตัวเธอเองก่อนจะตัดสินใจกลับบ้านนอกวันนั้นก็ใช่ว่าจะมีความสงบทางใจ ยังรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่ตัดสินใจทิ้งแฟนเก่า และบอกว่าสภาพตัวเธอในตอนนั้นถ้ามารู้ว่าแฟนเก่าตายแล้วหลังจากนั้นหลายปีละก็ เผลอๆ จะรู้สึกแย่ยิ่งกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงยินดีที่ได้รู้ความจริง เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เธอกล้าเผชิญหน้ากับเรื่องของแฟนเก่าได้อย่างตรงไปตรงมาไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป

- คุยกันจบ สาวคาบาเร่ต์ก็เสไปถามถึงคนน้องว่าเป็นไงบ้าง เล่นเอาพระเอกถึงกับตะกุกตะกักตอบไม่ออก

- แม้พระเอกจะไม่ได้พูดอะไร แต่สาวคาบาเร่ต์ก็เหมือนจะเดาอะไรออกเนื่องจากเคยผ่านประสบการณ์มา เลยเตือนพระเอกไปตรงๆ ว่าให้รักษาคนสำคัญของตัวเองไว้ให้ดี อย่าทำผิดซ้ำรอยเธอเด็ดขาด


- เวลาค่อยๆ ผ่านไปจนถึงช่วงเปิดเทอมใหม่ ภาพฉายให้เห็นพิธีเปิดภาคการศึกษา ให้เห็นฉากพระเอกคุยกับเพื่อนๆ ผู้ชายในห้อง

- ก่อนจะตัดมายังฉากประชุมวางแผนจัดงานโรงเรียนประจำปีนี้ของชมรมวรรณศิลป์เป็นอันจบตอนนี้










ก็เป็นอันว่าประกาศสงครามเต็มรูปแบบแล้วแฮะ สำหรับบักอัลในตอนนี้

ชักอยากเห็นแล้วแฮะว่าฉากเผชิญหน้าชี้ชะตาระหว่างอัลกับพระเอกในศึกชิงคนน้องช่วงงานโรงเรียนปีนี้จะเป็นยังไง (สำคัญอยู่ที่ปีนี้ชมรมพระเอกจะทำอะไรนี่แหละ...ยังไงก็คงไม่ทำคาเฟ่ซ้ำกับปีก่อนละ)