โดนเพื่อนร่วมงานที่ทำงานกลั่นแกล้งเพียงเพราะชีวิตเราดีขึ้น

กระทู้สนทนา
ชีวิตเราธรรมดามากเราทำงานใบบริษัทนี้มาสิบกว่าปี เริ่มจากตำแหน่งงานเล็กมากอย่างแคสเชียร์ ชีวิตดำเนินไปปกติมาก มีแฟนแต่งงาน และไม่ค่อยได้ไปพักผ่อนเพราะต้องทำงานเก็บเงินผ่อนบ้านผ่อนรถ ชีวิตเราดำเนินไปจนถึงจุดที่แย่มากคือเลิกกับสามี ขายบ้าน ขายของทุกอย่างที่สร้างมา ต้องไปอาศัยอยู่กับน้องสาวและช่วงจังหวะชีวิตที่คิดว่าเลวร้ายสุดก็ตัดสินใจออกจากงาน แต่บังเอิญไปเจอเจ้านายที่เป็นฝรั่งที่ทำงานที่บริษัทเดียวกันมานาน เค้าเห็นเรามานานเราเป็นคนขยันและซื่อสัตย์แกเลยชวนมาทำงานกับแกซึ่งเป็นแผนกใหม่ในที่ทำงานเดิมงานสบายกว่าแต่งานต้องใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเราพอมีความรู้อยู่บ้างประกอบกับเรามีความรู้เรื่องงานบัญชี เริ่มแรกเข้ามาในแผนกนี้ด้วยศูนย์ คือในสายตาทุกๆคนเราต้อยตำที่สุด เลยถูกให้ทำงานเยอะสุดเพราะเราเป็นงานบัญชีเราทำงานไม่เคยได้หยุดเสาร์อาทิยต์แต่เราก็ไม่คิดไรมากเพราะชีวิตแย่แล้วทำแต่งานอยู่แบบทุเรศๆตอนนั้นแค่แม่หม้ายโทรมๆจนๆคนหนึ่ง ก็เข้ากันได้ดีกับเพือนร่วมงาน ทุกคนน่ารักกับเราเพราะเราทำให้พวกเขาสบายขึ้น เราทำงานเยอะสุดในตำแหน่งเดียวกัน ทำมาได้สองปี เรามีชีวิตดีขึ้น เราเจอแฟนคนปัจจุบัน เป็นชาวต่างชาติประเด็นนี่น่าจะคือประเด็นที่ทำให้เพือนร่วมงานเกลียดเรา ซึ่งทุกวันก็ก็เฝ้าถามตัวเองตลอดว่าเพราะตัวเราหรือเพื่อนร่วมงาน

ชีวิตเราเริ่มดีขึ้นแฟนขอแต่งงานและได้มีบ้านมีรถได้ไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศ ได้ทานอาหารดีๆ(แฟนเราเป็นวิศวะกรทำงานบริษัทน้ำมันในทะเล) เรายังคงทำงานที่เดิมทำงานแบบเดิม
หลังๆมาเริ่มขอวันหยุดยาก ปกติเราไม่ค่อยหยุดงานไม่ค่อยลาพักแต่พอมีแฟนๆก็ขอให้หยุดพักด้วยกันบ้างเพื่อนร่วมงานก็เริ่มไม่พอใจทั้งๆที่เราใช้สิทธิซึ่งเราควรจะได้ เราไม่เคยได้หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ ปัญหาเริ่มเพิมขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราขอและไม่ได้ เราก็ต้องสู้และเริ่มต่อรองในสิ่งที่ควรจะได้และเพราะ เพื่อนร่วมงานที่ขึ้อิจฉาที่สุดเพียงคนเดียวคนนึงซึ่งเอาเปรียบเรามาตลอด ที่ไม่พอใจเราทีละนิดละหน่อย

เหตุเพราะเราขอวันหยุดและหัวหน้าก็ให้บ้างได้ไปพักผ่อนที่ดีๆต่างประเทศบ้าง โรงแรมดีๆ เพือนร่วมงานคนนี้เริ่มจากไม่คุยกับเราโดยไม่มีเหตุผล จนเวลาผ่านไปเราก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเค้าเกลียดเรามากเราก็เลิกคุยกับเค้าไปเลย แต่ไม่จบเพียงเท่านั้น เพื่อนร่วมงานคนนี้ยังยุยงเพื่อนร่วมงานที่มาใหม่และเพื่อนร่วมงานเก่าให้เข้ากับตน ตั้งตนเป็นจุดศูนย์กลางทุกคนจะต้องเป็นพวกตัวเอง เริ่มจากหลายๆคนไม่คุยกับเรา ไม่ชวนไปทานข้าว เราก็เริ่มรู้สึกแย่มากขึ้นมีอะไรใหม่ๆก็จะเอาเคยเล่นเฟสบุ๊คก็ไม่สามารพโพสอะไรได้มากคนคนนี้ก็จะเอาเรามาพูด มานินทา หลังๆในออฟฟิตเราเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เคยรักที่ทำงานนี้มากเราเพราะทำมาหลายปีแต่ตอนนี้คิดว่าจะลาออก เราไม่อยากออกไปแล้วว่างงาน เราเป็นคนเงียบๆมาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็จะไม่ค่อยเออาคุยกับใครมากมายเลยทำให้คนๆนี้เหิมเกริมใส่ร้ายป้ายสีเราหลายเรื่อง คนที่เคยดีๆกับเรากลับมองเราเหมือนเป็นศรัตรูหลายคนมาก ทั้งที่เราไม่เคยทำไรให้ เพียงเพราะแรงริษยา เราไม่เคยคิดว่าจะมีคนแบบนี้ คนที่เกลียดคนอื่นโดยไร้เหตุผลเรารู้สึกแย่มากมาหกเดือนแล้วกับเรื่องแบบนี้ในที่ทำงานกำลังคิดจะลากออกแต่ยังหางานใหม่ไม่ได้ไม่มีความสุขเลยในที่ทำงาน
และหลังเราแต่งงานเรารู้สึกแย่มากขึ้น เพื่อนร่วมงานไม่ไปงานแต่งงาน มีคนในที่ทำงานแผนกเดียวกันไปแค่สามคน เพียงเพราะเราไม่เชิญคนๆนี้ไปงานแต่งงาน
ชีวิตเราดีขึ้นนทุกอย่าง ยกเว้นบรรยากาศในทีทำงาน เครียดมากเราควรทำไงดีเราควรสู้ต่อหรือออกมาจากตงนี้เพราะเสียเวลาและเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ทุกวันต้องคอยคิดว่าวันนี้จะเจอกับอะไร วันนี้จะโดนแกล้งอะไร เราอธิบายสถานการณ์ที่เราเจอในที่ทำงานได้ไม่ละเอียดเราเพราะมันเยอะและเกิดขึ้นทุกวัน ประกอบกับเราเป็นคนเงียบ ไม่คอยพูดไม่ค่อยเล่นแต่คิดมาก อาจดูเหมือนไม่แคร์แต่เราคิดมากกับเรื่องพวกนี้มากๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่