E.P 1 สาวแก่...ก็มีหัวใจ by: Queen of the lost
>>>>กรี๊ดดดดดดด... ไม่ชอบเลยกับคำว่า "สาวแก่..."<<<<
ใค๊ร ใครช่างเป็นคนคิดสร้างคำนี้ไว้ในพจนานุกรม ด้วยความอยากรู้เลยต้องขวนขวายทำการบ้านหาความหมาย>>>จากพจนานุกรมของ อ.เปลื้อง ณ นคร ได้ให้ไว้ "สาวแก่" เป็นคำนาม หมายถึง หญิงที่มีอายุเลยวัยสาวแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน น้านไง!!! หญิงที่มีอายุเลยวัยสาวมาแล้วและที่สำคัญย้าง ยังไม่ได้แต่งงานอีก.... เอ้า!!! เอาเข้าไป ทับถมให้จมดินกันไปเลย แต่ขอโทษนะค่ะ "สาวแก่.. คำนี้ ไม่ได้ กระทบอะไรเดี๊ยนมากมายหร๊อก (เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้ โว่ะ โอ๊ะ โอะ) เพราะจะไม่ยอมให้ใครมาเรียกหรือให้นิยามแบบนี้กับฉันเด็ดขาด แม้อายุอานามจะเลยหลักสี่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมหรอกนะ ถึงแม้นิยามของ "สาวแก่" จะตรงกับฉันเป็นที่สุดยิ่งประโยคที่ว่ายังไม่ได้แต่งงานอีก โอ๊ย!!!ยิ่งปวดตับ...ขอเปลี่ยนนะค่ะชอบใช้ คำว่า "สาววัยดึก" มากกว่า แม้ในพจนานุกรมจะยังไม่ได้บัญญัติไว้ "สาววัยดึก" มีรากศัพท์ที่แยกออกเป็น 3 คำ คือ สาว + วัย + ดึก
"สาว" เป็นคำนาม เรียกแทนหญิงมีวัยต่อจากวัยรุ่นมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ถ้ายังไม่ได้แต่งงานมีคำนำหน้าชื่อว่านางสาว
"วัย" เป็นคำนาม หมายถึง เขตอายุ ระยะของอายุ เช่น วัยเด็ก วัยหนุ่มสาว วัยชรา
"ดึก" เป็นคำนาม หมายถึง เวลามืดนานแล้ว เวลาคํ่ามากแล้ว
เมื่อรวมๆ กันแล้ว "สาววัยดึก" จึงมีความหมายว่า ผู้หญิงสาวที่มีอายุมากแล้วและยังไม่ได้แต่งงาน (ขอตั้งนิยามเองนะค่ะ ภูมิใจสุดๆ คร้า)
แต่..ทำไม๊ ทำไม ต้องมาลงท้ายกะลักษณะกิริยาที่บอกว่า "ยังไม่ได้แต่งงาน" ด้วย..เฮ้อ!!! เข้าใจค่ะว่าผู้หญิง (ทั้งแท้และเทียม) ทุกคนบนโลกนี้ย่อมต้องการช่วงเวลา...อ่อนแอ๊ อ่อนแอ..ให้คนดูแล" เหมือนๆ กัน แม้จะเคยเป็นผู้หญิงเหล็ก ผู้หญิงห้าว ผู้หญิงแกร่งมามากมายแค่ไหนก็ตาม หรือใครจะเถียง!!!
พร่ำพรรณนามามากมายกะนิยามศัพท์ เดี๋ยวจะสงสัยว่าตัวฉันเป็นใคร ทำไมถึงต้องมาบ่นในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ รู้จักกันก่อนเลยนะคะ ตัวเดี๊ยนเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นหน้าว่าสวย ใส น่ารัก เพอร์เฟค ไม่แพ้สาวๆ วัย 24 หรือ 25 เลย ข้อนี้ไม่ได้ยกยอชื่นชมตัวเองนะคะ บรรดาหนุ่มๆ ลูกน้องรุ่นน้องการันตีให้ได้ยินเสมอ พวกผู้ชายนี้ก็กระไร พอเจอสาว โสด สวย แม้จะอายุรุ่นราวคราวเดียวกะแม่ก็ยังป้อล้อหยอดคำหวานให้หัวใจสาววัยดึกอย่างฉันอ่อนระทวยหัวใจทุกที แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงลมปากที่พ่นออกมาเพื่อหวังโบนัส และการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็ตามที ขอโทษนะค่ะเดี๊ยนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลงคารมเด็กหนุ่มได้ง่ายๆ ว่ะ ฮ่ะ ฮะ
"วู้ววว!! วันนี้พี่พิมสวยเป็นพิเศษเลยนะคับ" ฮีมาร์ค หนุ่มวิศวกรหน้าทะเล้นทักตั้งแต่เดินลงจากรถ "ชั้นสวยทุกวันแหละย่ะ มาร์ค เธอมาเอา blue print (แบบพิมพ์เขียว) หลังรถขึ้นไปให้พี่ที่ห้องประชุมหน่อย" ฉันไม่สนใจคำชมจากปากเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมของนายมาร์ค ปากหมาน (ปากหวานบวกปากหมา) ที่จะทักทุกเช้า ชินกะคารมของฮี เคยถามว่า "ไม่เหนื่อยบ้างหรา ที่ชมช้านทู้กวัน" ฮีให้คำตอบว่า "โผ้มจะชมพี่ทุกวัน จนพี่ใจอ่อนยอมจ่ายโบนัส 4 เดือนให้ผม" เหอะ เหอะ ฝันไปเถอะพวกแกรรรร
ความจริงสมัยยังเป็นสาวขบเผาะ ฉันสวยระดับน้องๆ นางงามจนได้ฉายาจากบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมัธยมว่า "พิมสวยใส ขวัญใจสาวทอม" โปรดอย่าสงสัยฉันเรียนมัธยมโรงเรียนสตรีล้วน บรรดาสาวหล่อสาวเท่ห์ทั้งหลายต่างรุมจีบแต่ฉันไม่ได้มีรสนิยมด้านนั้นจึงหักอกกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันไป นี้ยังไม่นับพวกหนุ่มๆ ลูกกระจ๊อกในตลาดที่เวียนวนกันมาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน จำได้ทุกปีในวันวาเลนไทน์มักจะมีช่อดอกไม้ปริศนาของผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ฝากยายหมวยเพื่อนสนิทแอบเอามาให้ ถามไปกี่ที นางบอก "เขาจ่ายค่าปิดปากฉันมากกว่าที่แกให้เป็นค่าขนมเยอะ เสียใจด้วยนะเขาไม่ให้บอก 555" ว่าแล้วนางก็เดินหัวเราะเยาะเย้ยไปอย่างภาคภูมิใจ ความลับนั้นทำให้ฉันถึงขั้นนอนไม่หลับไปหลายวัน จนแล้วจนรอดก็สืบได้ว่าเป็น "ศักดิ์" ลูกชายอาเจ็กขายหมูในตลาดนั่นเอง ศักดิ์เป็นผู้ชายขาวตี๋ นิสัยดีขี้อายและกำลังเรียนนายร้อยเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดาสาวๆ ในตลาด ฉันเป็นตัวเต็งของคนในตลาดที่เฝ้าดูและเชียร์ให้เป็นแฟนกับศักดิ์ แต่ต้องพลิกล๊อคเพราะศักดิ์ดันไม่รู้เท่าทันมารยาหญิง และติดกับดักเสน่ห์ของน้ำลูกสาวน้าเพลินที่ขายอาหารตามสั่งจนท้องก่อนเรียนจบ อนาคตความเป็นคุณนายของฉันดับวูบทันทีที่รู้ข่าว ยังไม่ทันตกลงคบเป็นแฟนกันเลย อือ อือ แต่ฉันก็ยังมีความมั่นใจไม่ได้นึกเสียดายอะไรมากเพราะหากเป็นแฟนกันแล้วต้องมาเจอกับเหตุการณ์นี้ฉันคงรับไม่ได้แน่ๆ
หลายคนคงสงสัยว่าสวยระดับน้องๆ นางงามอย่างฉันทำไมถึงเป็นสาวโสดวัยดึก...ขอบอกเลยฉันเคยมีแฟนที่คบกันมาเกือบสิบปี มีโครงการจะแต่งงานกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากให้แต่งกันเร็วๆ เพราะอยากมีหลานไว้เชยชม ด้วยความที่ฉันเป็นพี่สาวคนโตของน้องสาวอีก 2 คน จึงเป็นความใฝ่ฝันของพ่อกับแม่และญาติๆ แต่อาจเป็นเพราะเวรกรรมที่ฉันเคยหักอกเหล่าบรรดาผู้ชายพายเรือที่มาจีบ ทำให้วันหนึ่งฉันนั่งมองหน้าอดีตแฟน และเกิดความรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า (อารมณ์ประมาณ ใครว่ะเนี้ยะ 555) จะพูดอะไรนิดหน่อยก็เริ่มวีนแตก ไม่ใช่เฉพาะฉันที่รู้สึก แต่อดีตแฟนก็มีอารมณ์ขี้หงุดหงิดเหมือนคนกำลังเข้าสู่วัยทอง ฉันพูดอะไรก็ไม่เข้าหู วางแผนเรื่องอนาคตกลับขุดเรื่องอดีตมาเป็นประเด็นให้ทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างถอดใจและใช้เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ฉันเป็นฝ่ายบอกเลิก ทีแรกอดีตแฟนตกใจและร้องไห้ (ฉันเองก็ตกใจที่เห็นเขาร้องไห้) เขาพูดความในใจทุกสิ่งอย่างว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผย เขาสารภาพบอกขอโทษ เขาเจอผู้หญิงอีกคนที่เข้าใจเขามากกว่าฉัน ป๊าดโธ่!!!! นี้คงเป็นแผนการให้ฉันอดรนทนไม่ได้ต้องบอกเลิกก่อนใช่ไหม??? สุดท้ายคนที่เงิบกลายเป็นฉัน แต่...เสียใจด้วยนะ ผู้หญิงสวย รวยเสน่ห์อย่างฉันไม่มีเวลาต้องมานั่งเสียดายวันเวลาที่ผ่านไปเกือบ 10 ปีนักหรอก ในชีวิตยังมีอะไรมากมายให้ทำ และยังมีผู้ชายอีกเยอะแยะให้เลือก จะให้สาวสวย(เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว) มานั่งเสียใจทำไมหละ ต้องอยู่ให้ผู้ชายเสียดายเล่นมากกว่า 555
ฉันครองตัวเป็นโสดถึง 5 ปี (โห้!!! นานจัง) ไม่ใช่ว่าจะเข็ดกับความรักหรอกนะ แต่ด้วยประสบการณ์และหน้าที่การงานทำให้เจอกับผู้ชายที่เจ้าเล่ห์ มารยาหลายร้อยเล่มเกวียนกว่าผู้หญิงเป็นสิบเท่า ยิ่งอายุเยอะหน้าที่การงานดีเหมือนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เหล่าบรรดาหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่เข้ามาให้หัวใจกระชุ่มกระช่วย แต่ก็ไม่มีใครสามารถครองใจผู้หญิงใจแข็งอย่างฉันได้ จนมาเจอหนุ่มรุ่นน้องอายุห่างกว่าเกือบ 8 ปี ทีแรกใจมันคิดสารพัดว่าจะดีหรา แล้วที่บ้านจะรับได้ไหม เหล่าบรรดาเพื่อนสาวของฉันหละจะว่าอย่างไร แล้วถ้าเขาเข้ามาหลอกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แก่แล้วยังให้เด็กมาหลอก โอ๊ย!!!! เครียดยิ่งกว่าหุ้นตกตัวแดงเต็มพอร์ตเสียอีก ฉันตัดบทเลิกคุยกับหรั่ง หนุ่มนักธุรกิจเจ้าของบริษัทส่งออกแห่งหนึ่งจนหรั่งจับความรู้สึกได้ ฉันเลยต้องตั้งป้อมให้กับหัวใจตัวเองก่อนมันจะเตลิดไปมากกว่านี้ ตัดสินใจขออยู่ตัวคนเดียว เป็นสาวโสด สวย รวยและมีความสุขกับตัวเองจะดีกว่า ฉันถือว่าการครองตัวเป็นสาวโสดเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุด เพราะบรรดาเพื่อนสาววัยดึกของฉันหลายคนต้องมานั่งปรับทุกข์เรื่องลูกผัวให้ฟังแต่ละวันไม่ซ้ำเรื่อง ฉันกลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับบรรดาสาวๆ รุ่นน้องรุ่นพี่และรุ่นเพื่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีแฟน หนุ่มๆ หลายคนแอบกระซิบถาม "พี่พิมเป็นโสดจริงหรือแอบโสดเป็นช่วงคับ" แหมมมม อยากจะตบปากด้วยปากเสียจริงๆ ฉันอุตส่าห์ประกาศก้องให้โลกรู้ว่าโสดดดดดด ยังจะมามีคำถามอีก 5555 การเป็นสาวโสดวัยดึกไม่ใช่เรื่องน่าอายและน่ากลัว แต่มันจะทำให้มีเวลาในการดูแลตัวเองจนเพื่อนสาววัยดึกหลายคนแอบแขวะ อยู่ตัวคนเดียวมันจะเสียวได้ยังไง ฉันเลยสวนกลับไปว่า ถ้าอยู่คนเดียวไม่เสียวก็ไปเที่ยวให้เพลินอุราสบายใจพันธะไม่มีมาคอยพันแข้งพันขา อยู่แบบสวยๆ ให้คนอิจฉาสบายใจเอย>>> 5555
“แกรรรร!!!! ตั้มเขาจะแต่งงาน แกรู้ยัง” หมวยร้องเสียงหลงก่อนวิ่งมาตบหัวไหล่จนฉันสะดุ้ง “โอ๊ยยยย อะไรแก” หมวยยังหน้าตาเลิกลั่ก “ตั้มมันจะแต่งงาน แกรู้เรื่องยัง” ชาสิคะทั้งหูทั้งหน้า ก็ตั้มนะแหละอดีตแฟนของช้าน เลิกกันมาไม่เท่าไร ชิงแต่งงานซะแร้ววววว ไม่เคยได้ยินและสนใจสอบถามข่าวคราวเลย ทำไงละทีนี้ ขอกลับไปตั้งตัวแป๊ป ตอนนี้รู้สึกเริ่มชาไปทั้งตัวแล้ว
ความลับ...สาววัยดึก E.P. 2 เมื่อถ่านไฟเก่าคุกรุ่น by: Queen of the lost
ความลับ...สาววัยดึก.. E.P 1 สาวแก่...ก็มีหัวใจ by: Queen of the lost
>>>>กรี๊ดดดดดดด... ไม่ชอบเลยกับคำว่า "สาวแก่..."<<<<
ใค๊ร ใครช่างเป็นคนคิดสร้างคำนี้ไว้ในพจนานุกรม ด้วยความอยากรู้เลยต้องขวนขวายทำการบ้านหาความหมาย>>>จากพจนานุกรมของ อ.เปลื้อง ณ นคร ได้ให้ไว้ "สาวแก่" เป็นคำนาม หมายถึง หญิงที่มีอายุเลยวัยสาวแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน น้านไง!!! หญิงที่มีอายุเลยวัยสาวมาแล้วและที่สำคัญย้าง ยังไม่ได้แต่งงานอีก.... เอ้า!!! เอาเข้าไป ทับถมให้จมดินกันไปเลย แต่ขอโทษนะค่ะ "สาวแก่.. คำนี้ ไม่ได้ กระทบอะไรเดี๊ยนมากมายหร๊อก (เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้ โว่ะ โอ๊ะ โอะ) เพราะจะไม่ยอมให้ใครมาเรียกหรือให้นิยามแบบนี้กับฉันเด็ดขาด แม้อายุอานามจะเลยหลักสี่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมหรอกนะ ถึงแม้นิยามของ "สาวแก่" จะตรงกับฉันเป็นที่สุดยิ่งประโยคที่ว่ายังไม่ได้แต่งงานอีก โอ๊ย!!!ยิ่งปวดตับ...ขอเปลี่ยนนะค่ะชอบใช้ คำว่า "สาววัยดึก" มากกว่า แม้ในพจนานุกรมจะยังไม่ได้บัญญัติไว้ "สาววัยดึก" มีรากศัพท์ที่แยกออกเป็น 3 คำ คือ สาว + วัย + ดึก
"สาว" เป็นคำนาม เรียกแทนหญิงมีวัยต่อจากวัยรุ่นมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ถ้ายังไม่ได้แต่งงานมีคำนำหน้าชื่อว่านางสาว
"วัย" เป็นคำนาม หมายถึง เขตอายุ ระยะของอายุ เช่น วัยเด็ก วัยหนุ่มสาว วัยชรา
"ดึก" เป็นคำนาม หมายถึง เวลามืดนานแล้ว เวลาคํ่ามากแล้ว
เมื่อรวมๆ กันแล้ว "สาววัยดึก" จึงมีความหมายว่า ผู้หญิงสาวที่มีอายุมากแล้วและยังไม่ได้แต่งงาน (ขอตั้งนิยามเองนะค่ะ ภูมิใจสุดๆ คร้า)
แต่..ทำไม๊ ทำไม ต้องมาลงท้ายกะลักษณะกิริยาที่บอกว่า "ยังไม่ได้แต่งงาน" ด้วย..เฮ้อ!!! เข้าใจค่ะว่าผู้หญิง (ทั้งแท้และเทียม) ทุกคนบนโลกนี้ย่อมต้องการช่วงเวลา...อ่อนแอ๊ อ่อนแอ..ให้คนดูแล" เหมือนๆ กัน แม้จะเคยเป็นผู้หญิงเหล็ก ผู้หญิงห้าว ผู้หญิงแกร่งมามากมายแค่ไหนก็ตาม หรือใครจะเถียง!!!
พร่ำพรรณนามามากมายกะนิยามศัพท์ เดี๋ยวจะสงสัยว่าตัวฉันเป็นใคร ทำไมถึงต้องมาบ่นในพื้นที่สาธารณะแห่งนี้ รู้จักกันก่อนเลยนะคะ ตัวเดี๊ยนเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นหน้าว่าสวย ใส น่ารัก เพอร์เฟค ไม่แพ้สาวๆ วัย 24 หรือ 25 เลย ข้อนี้ไม่ได้ยกยอชื่นชมตัวเองนะคะ บรรดาหนุ่มๆ ลูกน้องรุ่นน้องการันตีให้ได้ยินเสมอ พวกผู้ชายนี้ก็กระไร พอเจอสาว โสด สวย แม้จะอายุรุ่นราวคราวเดียวกะแม่ก็ยังป้อล้อหยอดคำหวานให้หัวใจสาววัยดึกอย่างฉันอ่อนระทวยหัวใจทุกที แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงลมปากที่พ่นออกมาเพื่อหวังโบนัส และการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็ตามที ขอโทษนะค่ะเดี๊ยนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลงคารมเด็กหนุ่มได้ง่ายๆ ว่ะ ฮ่ะ ฮะ
"วู้ววว!! วันนี้พี่พิมสวยเป็นพิเศษเลยนะคับ" ฮีมาร์ค หนุ่มวิศวกรหน้าทะเล้นทักตั้งแต่เดินลงจากรถ "ชั้นสวยทุกวันแหละย่ะ มาร์ค เธอมาเอา blue print (แบบพิมพ์เขียว) หลังรถขึ้นไปให้พี่ที่ห้องประชุมหน่อย" ฉันไม่สนใจคำชมจากปากเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมของนายมาร์ค ปากหมาน (ปากหวานบวกปากหมา) ที่จะทักทุกเช้า ชินกะคารมของฮี เคยถามว่า "ไม่เหนื่อยบ้างหรา ที่ชมช้านทู้กวัน" ฮีให้คำตอบว่า "โผ้มจะชมพี่ทุกวัน จนพี่ใจอ่อนยอมจ่ายโบนัส 4 เดือนให้ผม" เหอะ เหอะ ฝันไปเถอะพวกแกรรรร
ความจริงสมัยยังเป็นสาวขบเผาะ ฉันสวยระดับน้องๆ นางงามจนได้ฉายาจากบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมัธยมว่า "พิมสวยใส ขวัญใจสาวทอม" โปรดอย่าสงสัยฉันเรียนมัธยมโรงเรียนสตรีล้วน บรรดาสาวหล่อสาวเท่ห์ทั้งหลายต่างรุมจีบแต่ฉันไม่ได้มีรสนิยมด้านนั้นจึงหักอกกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันไป นี้ยังไม่นับพวกหนุ่มๆ ลูกกระจ๊อกในตลาดที่เวียนวนกันมาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน จำได้ทุกปีในวันวาเลนไทน์มักจะมีช่อดอกไม้ปริศนาของผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ฝากยายหมวยเพื่อนสนิทแอบเอามาให้ ถามไปกี่ที นางบอก "เขาจ่ายค่าปิดปากฉันมากกว่าที่แกให้เป็นค่าขนมเยอะ เสียใจด้วยนะเขาไม่ให้บอก 555" ว่าแล้วนางก็เดินหัวเราะเยาะเย้ยไปอย่างภาคภูมิใจ ความลับนั้นทำให้ฉันถึงขั้นนอนไม่หลับไปหลายวัน จนแล้วจนรอดก็สืบได้ว่าเป็น "ศักดิ์" ลูกชายอาเจ็กขายหมูในตลาดนั่นเอง ศักดิ์เป็นผู้ชายขาวตี๋ นิสัยดีขี้อายและกำลังเรียนนายร้อยเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดาสาวๆ ในตลาด ฉันเป็นตัวเต็งของคนในตลาดที่เฝ้าดูและเชียร์ให้เป็นแฟนกับศักดิ์ แต่ต้องพลิกล๊อคเพราะศักดิ์ดันไม่รู้เท่าทันมารยาหญิง และติดกับดักเสน่ห์ของน้ำลูกสาวน้าเพลินที่ขายอาหารตามสั่งจนท้องก่อนเรียนจบ อนาคตความเป็นคุณนายของฉันดับวูบทันทีที่รู้ข่าว ยังไม่ทันตกลงคบเป็นแฟนกันเลย อือ อือ แต่ฉันก็ยังมีความมั่นใจไม่ได้นึกเสียดายอะไรมากเพราะหากเป็นแฟนกันแล้วต้องมาเจอกับเหตุการณ์นี้ฉันคงรับไม่ได้แน่ๆ
หลายคนคงสงสัยว่าสวยระดับน้องๆ นางงามอย่างฉันทำไมถึงเป็นสาวโสดวัยดึก...ขอบอกเลยฉันเคยมีแฟนที่คบกันมาเกือบสิบปี มีโครงการจะแต่งงานกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากให้แต่งกันเร็วๆ เพราะอยากมีหลานไว้เชยชม ด้วยความที่ฉันเป็นพี่สาวคนโตของน้องสาวอีก 2 คน จึงเป็นความใฝ่ฝันของพ่อกับแม่และญาติๆ แต่อาจเป็นเพราะเวรกรรมที่ฉันเคยหักอกเหล่าบรรดาผู้ชายพายเรือที่มาจีบ ทำให้วันหนึ่งฉันนั่งมองหน้าอดีตแฟน และเกิดความรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า (อารมณ์ประมาณ ใครว่ะเนี้ยะ 555) จะพูดอะไรนิดหน่อยก็เริ่มวีนแตก ไม่ใช่เฉพาะฉันที่รู้สึก แต่อดีตแฟนก็มีอารมณ์ขี้หงุดหงิดเหมือนคนกำลังเข้าสู่วัยทอง ฉันพูดอะไรก็ไม่เข้าหู วางแผนเรื่องอนาคตกลับขุดเรื่องอดีตมาเป็นประเด็นให้ทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างถอดใจและใช้เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ฉันเป็นฝ่ายบอกเลิก ทีแรกอดีตแฟนตกใจและร้องไห้ (ฉันเองก็ตกใจที่เห็นเขาร้องไห้) เขาพูดความในใจทุกสิ่งอย่างว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผย เขาสารภาพบอกขอโทษ เขาเจอผู้หญิงอีกคนที่เข้าใจเขามากกว่าฉัน ป๊าดโธ่!!!! นี้คงเป็นแผนการให้ฉันอดรนทนไม่ได้ต้องบอกเลิกก่อนใช่ไหม??? สุดท้ายคนที่เงิบกลายเป็นฉัน แต่...เสียใจด้วยนะ ผู้หญิงสวย รวยเสน่ห์อย่างฉันไม่มีเวลาต้องมานั่งเสียดายวันเวลาที่ผ่านไปเกือบ 10 ปีนักหรอก ในชีวิตยังมีอะไรมากมายให้ทำ และยังมีผู้ชายอีกเยอะแยะให้เลือก จะให้สาวสวย(เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว) มานั่งเสียใจทำไมหละ ต้องอยู่ให้ผู้ชายเสียดายเล่นมากกว่า 555
ฉันครองตัวเป็นโสดถึง 5 ปี (โห้!!! นานจัง) ไม่ใช่ว่าจะเข็ดกับความรักหรอกนะ แต่ด้วยประสบการณ์และหน้าที่การงานทำให้เจอกับผู้ชายที่เจ้าเล่ห์ มารยาหลายร้อยเล่มเกวียนกว่าผู้หญิงเป็นสิบเท่า ยิ่งอายุเยอะหน้าที่การงานดีเหมือนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เหล่าบรรดาหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่เข้ามาให้หัวใจกระชุ่มกระช่วย แต่ก็ไม่มีใครสามารถครองใจผู้หญิงใจแข็งอย่างฉันได้ จนมาเจอหนุ่มรุ่นน้องอายุห่างกว่าเกือบ 8 ปี ทีแรกใจมันคิดสารพัดว่าจะดีหรา แล้วที่บ้านจะรับได้ไหม เหล่าบรรดาเพื่อนสาวของฉันหละจะว่าอย่างไร แล้วถ้าเขาเข้ามาหลอกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แก่แล้วยังให้เด็กมาหลอก โอ๊ย!!!! เครียดยิ่งกว่าหุ้นตกตัวแดงเต็มพอร์ตเสียอีก ฉันตัดบทเลิกคุยกับหรั่ง หนุ่มนักธุรกิจเจ้าของบริษัทส่งออกแห่งหนึ่งจนหรั่งจับความรู้สึกได้ ฉันเลยต้องตั้งป้อมให้กับหัวใจตัวเองก่อนมันจะเตลิดไปมากกว่านี้ ตัดสินใจขออยู่ตัวคนเดียว เป็นสาวโสด สวย รวยและมีความสุขกับตัวเองจะดีกว่า ฉันถือว่าการครองตัวเป็นสาวโสดเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุด เพราะบรรดาเพื่อนสาววัยดึกของฉันหลายคนต้องมานั่งปรับทุกข์เรื่องลูกผัวให้ฟังแต่ละวันไม่ซ้ำเรื่อง ฉันกลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับบรรดาสาวๆ รุ่นน้องรุ่นพี่และรุ่นเพื่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีแฟน หนุ่มๆ หลายคนแอบกระซิบถาม "พี่พิมเป็นโสดจริงหรือแอบโสดเป็นช่วงคับ" แหมมมม อยากจะตบปากด้วยปากเสียจริงๆ ฉันอุตส่าห์ประกาศก้องให้โลกรู้ว่าโสดดดดดด ยังจะมามีคำถามอีก 5555 การเป็นสาวโสดวัยดึกไม่ใช่เรื่องน่าอายและน่ากลัว แต่มันจะทำให้มีเวลาในการดูแลตัวเองจนเพื่อนสาววัยดึกหลายคนแอบแขวะ อยู่ตัวคนเดียวมันจะเสียวได้ยังไง ฉันเลยสวนกลับไปว่า ถ้าอยู่คนเดียวไม่เสียวก็ไปเที่ยวให้เพลินอุราสบายใจพันธะไม่มีมาคอยพันแข้งพันขา อยู่แบบสวยๆ ให้คนอิจฉาสบายใจเอย>>> 5555
“แกรรรร!!!! ตั้มเขาจะแต่งงาน แกรู้ยัง” หมวยร้องเสียงหลงก่อนวิ่งมาตบหัวไหล่จนฉันสะดุ้ง “โอ๊ยยยย อะไรแก” หมวยยังหน้าตาเลิกลั่ก “ตั้มมันจะแต่งงาน แกรู้เรื่องยัง” ชาสิคะทั้งหูทั้งหน้า ก็ตั้มนะแหละอดีตแฟนของช้าน เลิกกันมาไม่เท่าไร ชิงแต่งงานซะแร้ววววว ไม่เคยได้ยินและสนใจสอบถามข่าวคราวเลย ทำไงละทีนี้ ขอกลับไปตั้งตัวแป๊ป ตอนนี้รู้สึกเริ่มชาไปทั้งตัวแล้ว
ความลับ...สาววัยดึก E.P. 2 เมื่อถ่านไฟเก่าคุกรุ่น by: Queen of the lost