โดยส่วนตัว ไม่ได้ใช้คำนนี้พร่ำเพรื่อนะครับ ส่วนใหญ่จะไว้พูดตอนที่คู่สนทนาพูดสิ่งที่ผิดประเด็นจริงๆ
แต่เริ่มสังเกตุว่า วัยรุ่น วัยทำงาน แม้กระทั่งวัยผู้ใหญ่ คือไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามที่ต้องการคำตอบ ใช่หรือไม่ก็ตาม
หรือจะพูดอะไรในวงสนทนา หรือ การโต้ตอบกัน มักจะเริ่มต้นประโยคด้วยคำปฎิเสธคำนี้บ่อยมาก
"ไม่... xxxxxxxxx"
"ไม่ๆ.. xxxxxxxxx"
"ไม่ๆๆ xxxxxxxx"
(แทน x ด้วยประโยคที่ตนจะพูด)
จนบางคนกลายเป็นคำติดปากไป ลองสังเกตุนะครับว่าบุคคลรอบข้างท่านมีแบบนี้กันบ้างมั้ยครับ
บางครั้งก็แอบรำคาญ จะ ไม่ อะไรนักหนา
และพอทราบมั้ยครับว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไรครับ คำอุทานคำนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากการสังเกตุและสันนิษฐานส่วนตัวนะครับ
1. คู่สนทนาพูดผิดประเด็นไป (อันนี้ใช้กันส่วนใหญ่)
2. ผู้พูดกลัวคนอื่นแย่งพูด เลยรีบๆไม่ๆๆ เรียกร้องความสนใจก่อน เพื่อให้คนอื่นฟังที่ตนพูด
3. ปากพูดไปก่อน ค่อยคิดทีหลัง พอโพล่งออกไปแล้วไม่ได้คิด ต้องไม่ๆ เพื่อตั้งสติให้ปากกับสมองคิดตามกันทัน ประเภทนี้จะพูดไม่...(หยุดซักพัก ตามองที่อื่น) แล้วกลับมามองคู่สนทนาแล้วพูดต่อ
4. โดยใช้ speaker centrist คิดแทนคนอื่น เข้าใจว่าที่คนอื่นคิดผิด ต่างไปจากตนเอง จึงพยายามเพื่อปรับให้คนฟังเข้าใจในแบบที่ตนเองเข้าใจ ไม่ว่าคู่สนทนาจะพูดอะไร ก็จะไม่ๆ ตอบกลับไปเสมอ
??? รู้สึกมั้ยว่าผู้สนทนาสมัยนี้ มักมีคำว่า "ไม่" "ไม่ๆ" "ไม่ๆๆ" ติดปากตอนเริ่มประโยคกันมาก ???
แต่เริ่มสังเกตุว่า วัยรุ่น วัยทำงาน แม้กระทั่งวัยผู้ใหญ่ คือไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามที่ต้องการคำตอบ ใช่หรือไม่ก็ตาม
หรือจะพูดอะไรในวงสนทนา หรือ การโต้ตอบกัน มักจะเริ่มต้นประโยคด้วยคำปฎิเสธคำนี้บ่อยมาก
"ไม่... xxxxxxxxx"
"ไม่ๆ.. xxxxxxxxx"
"ไม่ๆๆ xxxxxxxx"
(แทน x ด้วยประโยคที่ตนจะพูด)
จนบางคนกลายเป็นคำติดปากไป ลองสังเกตุนะครับว่าบุคคลรอบข้างท่านมีแบบนี้กันบ้างมั้ยครับ
บางครั้งก็แอบรำคาญ จะ ไม่ อะไรนักหนา
และพอทราบมั้ยครับว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไรครับ คำอุทานคำนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้