ปัจจุบันนี้คำว่า “อย่ามาโลกสวย” กลายเป็นประโยคที่ถูกใช้เพื่อยับยั้งไม่ให้คนหรือคู่สนทนาที่เห็นตรงข้ามได้แสดงความเห็น เป็นประโยคที่ใช้ตัดบทหรือทำลายบรรยาการการสนทนาของอีกฝ่ายที่พยายามแสดงเหตุผลแบบโลกสวยๆ ของอีกฝ่ายได้อย่างไร้เหตุผลของผู้ที่ใช้ประโยคนี้
โดยทั่วๆ ไป....คำว่า”โลกสวย” มักจะถูกใช้ในบริบทของการบ่งชี้ของความเป็น “สุขนิยม” ในบางครั้งอาจจะเวอร์กว่าความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังอิงแอบในขั้วของความคิดที่เรียกว่า “คิดบวก” (Positive thinking) สำหรับผม....การคิดหรือมีพฤติกรรมแบบ “โลกสวย” ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และออกจะดูงดงามและเยือกเย็นในแง่ของจินตนาการหรือมโนทัศน์
ในโลกแห่งความเป็นจริงและชีวิตส่วนใหญ่ที่ต้องผจญ....เราๆ ท่านๆ มักจะพานพบกับเรื่องชวนปวดหัวอยู่แทบทุกวัน บางกรณีแก้ด้วยกินยาปวดหายสองเม็ดก็หาย แต่บางกรณีก็จบลงกันด้วยชีวิต บางทีคุณสมบัติของความเป็น “โลกสวย” ก็สามารถบำบัดและยับยั้งความทุกข์ที่ว่าเหล่านี้ได้ หรือแม้กระทั่งอาจจะเซฟชีวิตๆ หนึ่งเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน
ในยุคดิจิตอล....”โลกเสมือนจริง” กลายเป็นโลกแห่งใหม่สำหรับใครต่อใครที่ต้องการจะหลีกเร้นความโหดร้ายจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้ามาพักพิง ระบาย หรือแสดงจินตนาการอะไรก็ได้โดยสามารถแสดงตัวตนหรือไม่แสดงตัวตนที่แท้จริงก็ได้ แต่สุดท้าย....โลกแห่งใหม่ที่พึงจะถือกำเนิดได้ไม่นานแห่งนี้ก็เริ่มที่จะมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ คือมีศักยภาพที่สามารถสร้างความปวดเศียรเวียนหัวให้กับหลายๆ คนได้เช่นกัน และในความเป็นจริงที่น่าสะพึงอย่างหนึ่งก็คือ...ปัจจุบันนี้มีคนใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงทวีขึ้น
ในท่ามกลางความโหดร้ายของ “โลกแห่งความเป็นจริง” และ “โลกเสมือนจริง” นั้น มนุษย์ก็ได้สร้างโลกเล็กๆ ขึ้นมาอีกใบหนึ่งที่เรียกว่า “โลกสวย” เพื่อเป็นเกราะกำบังหรือเบี่ยงเบนความโหดร้ายจากทั้งสองโลกอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณสมบัติของ “โลกสวย”ใบนี้สามารถนำมาใช้ได้ทั้งสองโลก และการทำตัว “โลกสวย” หรือดำรงตนอยู่ในโลกสวยไม่ใช่เรื่องที่น่าตำหนิ แต่...ดูเหมือนว่าเวลาใดที่คนๆ หนึ่งแสดงความเห็นในแง่บวก(หรืออาจจะบวกมากเกินไป) แนวโน้มที่เขาคนนั้นจะถูกตัดบทการแสดงความเห็นอีกต่อไปด้วยประโยค “อย่ามาทำโลกสวย” มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย บางทีนะ....ถ้าเราไม่ใจแคบจนเกินไป คือเปิดโอกาสให้ใครสักคนได้เปิดประตูแง้มให้เราได้เห็น “โลกสวย” ของเขาบ้าง เราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ หรืออะไรที่เราไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนได้บ้าง ยังดีกว่าปิดประตูโครมใส่หน้าตัดบทด้วยประโยค “อย่ามาทำโลกสวยนะ” เหมือนกำลังเป็นที่นิยมทำกันอยู่ในตอนนี้
...อย่ามาทำเป็นโลกสวย.../วัชรานนท์
โดยทั่วๆ ไป....คำว่า”โลกสวย” มักจะถูกใช้ในบริบทของการบ่งชี้ของความเป็น “สุขนิยม” ในบางครั้งอาจจะเวอร์กว่าความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังอิงแอบในขั้วของความคิดที่เรียกว่า “คิดบวก” (Positive thinking) สำหรับผม....การคิดหรือมีพฤติกรรมแบบ “โลกสวย” ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และออกจะดูงดงามและเยือกเย็นในแง่ของจินตนาการหรือมโนทัศน์
ในโลกแห่งความเป็นจริงและชีวิตส่วนใหญ่ที่ต้องผจญ....เราๆ ท่านๆ มักจะพานพบกับเรื่องชวนปวดหัวอยู่แทบทุกวัน บางกรณีแก้ด้วยกินยาปวดหายสองเม็ดก็หาย แต่บางกรณีก็จบลงกันด้วยชีวิต บางทีคุณสมบัติของความเป็น “โลกสวย” ก็สามารถบำบัดและยับยั้งความทุกข์ที่ว่าเหล่านี้ได้ หรือแม้กระทั่งอาจจะเซฟชีวิตๆ หนึ่งเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน
ในยุคดิจิตอล....”โลกเสมือนจริง” กลายเป็นโลกแห่งใหม่สำหรับใครต่อใครที่ต้องการจะหลีกเร้นความโหดร้ายจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้ามาพักพิง ระบาย หรือแสดงจินตนาการอะไรก็ได้โดยสามารถแสดงตัวตนหรือไม่แสดงตัวตนที่แท้จริงก็ได้ แต่สุดท้าย....โลกแห่งใหม่ที่พึงจะถือกำเนิดได้ไม่นานแห่งนี้ก็เริ่มที่จะมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ คือมีศักยภาพที่สามารถสร้างความปวดเศียรเวียนหัวให้กับหลายๆ คนได้เช่นกัน และในความเป็นจริงที่น่าสะพึงอย่างหนึ่งก็คือ...ปัจจุบันนี้มีคนใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงทวีขึ้น
ในท่ามกลางความโหดร้ายของ “โลกแห่งความเป็นจริง” และ “โลกเสมือนจริง” นั้น มนุษย์ก็ได้สร้างโลกเล็กๆ ขึ้นมาอีกใบหนึ่งที่เรียกว่า “โลกสวย” เพื่อเป็นเกราะกำบังหรือเบี่ยงเบนความโหดร้ายจากทั้งสองโลกอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณสมบัติของ “โลกสวย”ใบนี้สามารถนำมาใช้ได้ทั้งสองโลก และการทำตัว “โลกสวย” หรือดำรงตนอยู่ในโลกสวยไม่ใช่เรื่องที่น่าตำหนิ แต่...ดูเหมือนว่าเวลาใดที่คนๆ หนึ่งแสดงความเห็นในแง่บวก(หรืออาจจะบวกมากเกินไป) แนวโน้มที่เขาคนนั้นจะถูกตัดบทการแสดงความเห็นอีกต่อไปด้วยประโยค “อย่ามาทำโลกสวย” มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย บางทีนะ....ถ้าเราไม่ใจแคบจนเกินไป คือเปิดโอกาสให้ใครสักคนได้เปิดประตูแง้มให้เราได้เห็น “โลกสวย” ของเขาบ้าง เราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ หรืออะไรที่เราไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนได้บ้าง ยังดีกว่าปิดประตูโครมใส่หน้าตัดบทด้วยประโยค “อย่ามาทำโลกสวยนะ” เหมือนกำลังเป็นที่นิยมทำกันอยู่ในตอนนี้