สำหรับติดตามการอัพเดทวีดีโอต่อๆไป
Facebook :
https://www.facebook.com/topxworld
ช่วงที่เราไปเนปาลคือต้นเดือนมิถุนา เป็นช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนของประเทศเนปาล วิวที่จะเห็นก็จะสวยไม่เท่าช่วง high season แต่ก็จะมีสเน่ห์ไปอีกแบบ เป็นเนปาลที่ทุกอย่างดูช้าๆ สบายใจ น่านอน
ทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 9วัน 8คืน โดยที่เที่ยวแบบเที่ยวเมือง ชมวิว ไม่เทร็ค(ไว้ครั้งหน้าเนอะ)
เข้าสาระแปปปป ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคนไม่รู้จักเนปาล
เนปาลเป็นประเทศเล็กๆ มีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย แล้วก็มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน (วิกิพีเดีย)
คนส่วนมากชอบมาเที่ยวกันแบบเทร็ค (Trekking) อธิบายง่ายๆก็คือเดินเท้าตามทางขึ้นเขาลงเขาไปเรื่อยๆชมวิวสวยๆ
อากาศจะเย็นสบายตลอดปี อย่างน้อยก็เย็นกว่าไทยแน่ๆ55 ส่วนมากจะอยู่ราวๆ 20-30 องศา
แต่ว่าทริปนี้เราจะไม่ได้เทร็ค เพราะว่าเวลาค่อนข้างน้อย อยากเที่ยวให้ได้หลายๆที่ แล้วก็ที่สำคัญคือถ้าเทร็คแล้วงบมันจะบานปลาย555 เอาถูกๆนี่แหละ
เทรลเลอร์ยั่วน้ำลายก่อนๆ 555
สำหรับวันแรกเราบินไปลงที่ Kathmandu(หลังจากนี้จะย่อว่า KTM) แล้วก็จะต่อเครื่องภายในประเทศไป Pokhara ทันที เพราะว่าดูจากพยากรณ์สภาพอากาศไว้ สองวันแรกที่เราไปที่ KTM ฝนจะตกหนักมากๆ ก็เลยหนีฝนก่อนดีกว่าเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก
แล้วก็แพลนเอาไว้ว่าพอไปถึงจะเดินขึ้นเขาทันที ไปนอนที่ Sarangkot ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของ Pokhara แล้วเช้าวันต่อมาจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นฟินๆได้
ที่ไปคนเดียวนี่ไม่ใช่อินดี้อะไรมากนะ แต่พยายามชวนเพื่อนแล้วแต่ไม่มีใครไป55 ทุกคนถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันมีอะไรวะ”
และนี่คือคำตอบว่าเนปาลมีอะไร
ถ้าพร้อมแล้ว รัวกลองงงงง ไปดูกันเลยย !
PART -1 จากวีดีโอทั้งหมด 4 parts
กด subscribe ให้ด้วยน้าาา อิ
ส่วนที่เหลือจะทะยอยลงภายหลังนะขรับ
สำหรับติดตามการอัพเดทวีดีโอต่อๆไปน้าา
แถมอาหารวันที่ 2
Youtube Channel : TOPXWORLD
Facebook :
https://www.facebook.com/topxworld
Instagram : toppxworld (p 2 ตัว)
ค่าใช้จ่ายวันที่ 1-2
ตั๋วเครื่องบิน : บินระหว่างประเทศ ของเราได้มาช่วงโปรประมาณ 11,000 บาท ถ้าเป็นช่วง Hi-season ราคาน่าจะเด้งเป็น 13,000-15,000
บินภายในประเทศ สายการบินที่ค่อนข้างดังแล้วก็คนใช้เยอะจะเป็น Yeti Airline, กับ Buddha Air สามารถจองผ่านอินเตอร์เน็ทได้ ค่าตั๋ว round trip จะไม่เกิน $150 แน่ๆ ตกขาละ $70 กว่าๆ แต่ไม่แน่ใจถ้าถ้าช่วง Hi season ราคาจะเพิ่มไหม
ค่ากิน : มื้อละไม่เกิน 500 รูปี = ตีซะ 5 เหรียญUSD ต่อมื้อ maximum (5เหรียญคือกินเยอะมาก อิ่มมาก) ทั้งหมด 4 มื้อเพราะวันแรกเที่ยงกินบนเครื่องบินมาแล้ว ประมาณ $20 ไม่ควรเกินนะ555 (ถ้าเกินนี่ขอคารวะในความสามารถในการกิน)
ค่าที่พัก : คืนแรกค่าห้อง 1,000 รูปี ประมาณ $10 คืนที่สองก็ $10 แต่มีอาหารเช้าให้สำหรับวันถัดไป
รายละเอียดข้อมูลการเดินทาง
การเตรียมตัว
วีซ่า : การขอวีซ่าเนปาลจะง่ายมากๆ สถานทูตเนปาลจะอยู่สุขุมวิท 71 (ถ้าเอาง่ายก็ ลง BTS พระโขนง แล้วก็ต่อวินมอไซไปสถานทูต ไม่น่าเกิน 20-30 บาท
ของที่ต้องเตรียมไปทำวีซ่า
1.รูปถ่าย 2นิ้ว 2รูป (จริงๆใช้รูปเดียว แต่เผื่อๆไปก็ได้)
2.เงินค่าทำวีซ่า 15วัน 900บาท , 30 วัน 1,450 บาท , 90วัน 3,600 บาท
3.Passport ตัวจริง อายุเกิน 6 เดือน และสำเนา 1 ใบ (ถ้าลืมซีรอกซ์มาก็ไปซีที่ไปรษณีย์ได้ ใกล้ๆ BTSเดินไม่เกิน 5นาที)
ถ้าโชคดี คนน้อย ก็จะได้วีซ่าเลยไม่ต้องรอ
แต่ถ้าตามกรณีปกติก็จะต้องกลับมารับวันถัดไป
**ถ้าเกิดว่าไม่สะดวกหรือลืมไปทำวีซ่า ก็ไม่เป็นไรน้า ไปทำที่สนามบินตอนเข้าประเทศเนปาลได้ ราคาเท่ากัน (จ่ายเป็น USD) แต่ว่าต้องรอคิวนานนิดนึง แล้วก็อย่าลืมรูป เพราะค่าถ่ายที่สนามบินโหดมากๆ**
- เสื้อผ้า : ถ้าเกิดว่าไม่ได้ไปเทร็ค + ไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวก็ไม่ต้องเสื้อผ้าหนามาก อากาศจะกำลังเย็นสบายๆ ไม่หนาว
- เงิน : ที่เนปาลเราจะสามารถใช้เงินกันได้หลัก 2 สกุล คือ USD กับ NPS(เนปาลรูปี) ก็แลก USD จากไทยไปแล้วค่อยไปแลกเป็น NPS ที่เนปาลเอา แต่ว่าอย่าแลกหมดนะถ้าไม่จำเป็น55 มันแลกกลับลำบาก เงิน NPS ไม่ค่อยมีคนรับ
เนปาลหน้าฝนก็ไปด้ายยย คนเดียว 9วัน8คืน ไม่เกินสามหมื่นห้า :)
Facebook : https://www.facebook.com/topxworld
ช่วงที่เราไปเนปาลคือต้นเดือนมิถุนา เป็นช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนของประเทศเนปาล วิวที่จะเห็นก็จะสวยไม่เท่าช่วง high season แต่ก็จะมีสเน่ห์ไปอีกแบบ เป็นเนปาลที่ทุกอย่างดูช้าๆ สบายใจ น่านอน
ทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 9วัน 8คืน โดยที่เที่ยวแบบเที่ยวเมือง ชมวิว ไม่เทร็ค(ไว้ครั้งหน้าเนอะ)
เข้าสาระแปปปป ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคนไม่รู้จักเนปาล เนปาลเป็นประเทศเล็กๆ มีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย แล้วก็มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน (วิกิพีเดีย)
คนส่วนมากชอบมาเที่ยวกันแบบเทร็ค (Trekking) อธิบายง่ายๆก็คือเดินเท้าตามทางขึ้นเขาลงเขาไปเรื่อยๆชมวิวสวยๆ
อากาศจะเย็นสบายตลอดปี อย่างน้อยก็เย็นกว่าไทยแน่ๆ55 ส่วนมากจะอยู่ราวๆ 20-30 องศา
แต่ว่าทริปนี้เราจะไม่ได้เทร็ค เพราะว่าเวลาค่อนข้างน้อย อยากเที่ยวให้ได้หลายๆที่ แล้วก็ที่สำคัญคือถ้าเทร็คแล้วงบมันจะบานปลาย555 เอาถูกๆนี่แหละ
เทรลเลอร์ยั่วน้ำลายก่อนๆ 555
สำหรับวันแรกเราบินไปลงที่ Kathmandu(หลังจากนี้จะย่อว่า KTM) แล้วก็จะต่อเครื่องภายในประเทศไป Pokhara ทันที เพราะว่าดูจากพยากรณ์สภาพอากาศไว้ สองวันแรกที่เราไปที่ KTM ฝนจะตกหนักมากๆ ก็เลยหนีฝนก่อนดีกว่าเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก
แล้วก็แพลนเอาไว้ว่าพอไปถึงจะเดินขึ้นเขาทันที ไปนอนที่ Sarangkot ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของ Pokhara แล้วเช้าวันต่อมาจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นฟินๆได้
ที่ไปคนเดียวนี่ไม่ใช่อินดี้อะไรมากนะ แต่พยายามชวนเพื่อนแล้วแต่ไม่มีใครไป55 ทุกคนถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันมีอะไรวะ”
และนี่คือคำตอบว่าเนปาลมีอะไร
ถ้าพร้อมแล้ว รัวกลองงงงง ไปดูกันเลยย !
PART -1 จากวีดีโอทั้งหมด 4 parts
กด subscribe ให้ด้วยน้าาา อิ
ส่วนที่เหลือจะทะยอยลงภายหลังนะขรับ
สำหรับติดตามการอัพเดทวีดีโอต่อๆไปน้าา
แถมอาหารวันที่ 2
Youtube Channel : TOPXWORLD
Facebook : https://www.facebook.com/topxworld
Instagram : toppxworld (p 2 ตัว)
ค่าใช้จ่ายวันที่ 1-2
ตั๋วเครื่องบิน : บินระหว่างประเทศ ของเราได้มาช่วงโปรประมาณ 11,000 บาท ถ้าเป็นช่วง Hi-season ราคาน่าจะเด้งเป็น 13,000-15,000
บินภายในประเทศ สายการบินที่ค่อนข้างดังแล้วก็คนใช้เยอะจะเป็น Yeti Airline, กับ Buddha Air สามารถจองผ่านอินเตอร์เน็ทได้ ค่าตั๋ว round trip จะไม่เกิน $150 แน่ๆ ตกขาละ $70 กว่าๆ แต่ไม่แน่ใจถ้าถ้าช่วง Hi season ราคาจะเพิ่มไหม
ค่ากิน : มื้อละไม่เกิน 500 รูปี = ตีซะ 5 เหรียญUSD ต่อมื้อ maximum (5เหรียญคือกินเยอะมาก อิ่มมาก) ทั้งหมด 4 มื้อเพราะวันแรกเที่ยงกินบนเครื่องบินมาแล้ว ประมาณ $20 ไม่ควรเกินนะ555 (ถ้าเกินนี่ขอคารวะในความสามารถในการกิน)
ค่าที่พัก : คืนแรกค่าห้อง 1,000 รูปี ประมาณ $10 คืนที่สองก็ $10 แต่มีอาหารเช้าให้สำหรับวันถัดไป
รายละเอียดข้อมูลการเดินทาง
การเตรียมตัว
วีซ่า : การขอวีซ่าเนปาลจะง่ายมากๆ สถานทูตเนปาลจะอยู่สุขุมวิท 71 (ถ้าเอาง่ายก็ ลง BTS พระโขนง แล้วก็ต่อวินมอไซไปสถานทูต ไม่น่าเกิน 20-30 บาท
ของที่ต้องเตรียมไปทำวีซ่า
1.รูปถ่าย 2นิ้ว 2รูป (จริงๆใช้รูปเดียว แต่เผื่อๆไปก็ได้)
2.เงินค่าทำวีซ่า 15วัน 900บาท , 30 วัน 1,450 บาท , 90วัน 3,600 บาท
3.Passport ตัวจริง อายุเกิน 6 เดือน และสำเนา 1 ใบ (ถ้าลืมซีรอกซ์มาก็ไปซีที่ไปรษณีย์ได้ ใกล้ๆ BTSเดินไม่เกิน 5นาที)
ถ้าโชคดี คนน้อย ก็จะได้วีซ่าเลยไม่ต้องรอ
แต่ถ้าตามกรณีปกติก็จะต้องกลับมารับวันถัดไป
**ถ้าเกิดว่าไม่สะดวกหรือลืมไปทำวีซ่า ก็ไม่เป็นไรน้า ไปทำที่สนามบินตอนเข้าประเทศเนปาลได้ ราคาเท่ากัน (จ่ายเป็น USD) แต่ว่าต้องรอคิวนานนิดนึง แล้วก็อย่าลืมรูป เพราะค่าถ่ายที่สนามบินโหดมากๆ**
- เสื้อผ้า : ถ้าเกิดว่าไม่ได้ไปเทร็ค + ไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวก็ไม่ต้องเสื้อผ้าหนามาก อากาศจะกำลังเย็นสบายๆ ไม่หนาว
- เงิน : ที่เนปาลเราจะสามารถใช้เงินกันได้หลัก 2 สกุล คือ USD กับ NPS(เนปาลรูปี) ก็แลก USD จากไทยไปแล้วค่อยไปแลกเป็น NPS ที่เนปาลเอา แต่ว่าอย่าแลกหมดนะถ้าไม่จำเป็น55 มันแลกกลับลำบาก เงิน NPS ไม่ค่อยมีคนรับ