ก่อนจะได้ไปเดินทางนั้นก็เริ่มจากเรื่องของชายสองคน คนนึงหนีลูกและภรรยา อีกคนหนีครอบครัวจะไปเดินเทรกกันครับ แล้วเรื่องราวของเราก็ได้ข้อมูลจากทาง pantip และทางบริษัท Adventure Great Himalaya Treks ที่ช่วยเราอีกแรงครับ ต้องขออภัยหากรูปภาพไม่สวยด้วยครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/adventuregreathimalaya/?fref=ts
http://holiday111.sharepoint.com/Pages/default.aspx
https://www.facebook.com/trrekkingnepal/?ref=py_c
ผมลองหาตั๋วเครื่องบินดูแล้วพบว่าช่วงนั้นตั๋วของการบินไทยมีโปรโมชั่น ที่ประมาณ 14,000 บาทครับ แต่ต้องเดินทางตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน กลับ 20 เมษายนครับ ทริปเราจึงดูนานนิดนึงครับ
หาข้อมูลแล้วมีเวลาข้างบนเทรลนานก็เลยจะไปทั้ง Poon Hill และ ABC ครับ โดยทริปของเรามีแผนดังนี้นะครับ (มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากที่เขาให้มาครับ)
Itinerary
วันที่ 6 BKK – KTM TG 319 พัก Thamel
วันที่ 7 KTM – Pokhara พัก Pokhara
วันที่ 8 Pokhara – Nayapul – Ulleri พัก Ulleri
วันที่ 9 Ulleri – Ghorepani พัก Ghorepani
วันที่ 10 Poonhill – Ghorepani - Tadapani พัก Tadapani
วันที่ 11 Tadapani - Chhomrong พัก Chhomrong
วันที่ 12 Chhomrong – Himalaya พัก Himalaya
วันที่ 13 Himalaya – MBC พัก MBC
วันที่ 14 MBC – ABC พัก ABC
วันที่ 15 ABC – Upper Sinuwa พัก Upper Sinuwa
วันที่ 16 Upper Sinuwa – Jhinu พัก Jhinu
วันที่ 17 Jhinu – Nayapul - Pokhara พัก Pokhara
วันที่ 18 Pokhara – KTM พัก Thamel
วันที่ 19 KTM Day tour พัก Thamel
วันที่ 20 KTM – BKK TG 320
Visa
ก่อนพวกเราจะเดินทางพวกเรามีเวลาค่อนข้างมากครับ เลยทำ Visa ไปก่อน ไม่อยากทำ On arrival (ถ้าไม่ขอไปก่อน ตอนไปถึงอาจจะช้านิดนึง คิวค่อนข้างยาวครับ)
Visa นั้นทำไม่ยากเลยครับ เตรียมเอกสารให้ครบตามสถานทูตบอกไว้ ทำเอกสารไปส่ง พร้อมจ่ายเงินค่าวีซ่า วันพรุ่งขึ้นรับได้เลยครับ (จอดรถได้ในจัสโก้นะครับ) เป็นประเทศนึงที่ผมถือว่าจะดวกสบายมากในการขอครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.nepalembassybangkok.com/visathai.php
การเตรียมของ
ผมได้ทำการเตรียมของเยอะเกินไปนิดนึงครับ เสื้อที่ไม่ได้ใช้ก็มีมากมายหลายตัวอยู่ครับ สงสารลูกหาบเวลาแบกของให้ครับ ถึงแม้เขาจะได้รับค่าตอบแทนจากเราก็ตามครับ ผมจะเขียนแต่ของที่ผมจำเป็น และได้ใช้นะครับ
1. เสื้อกีฬาแห้งไว 3-4 ตัว
2. กางเกงในแห้งไว 5 ตัว (หรือแล้วแต่สะดวกครับ แบบธรรมดาก็ได้ครับ)
3. กางเกงกันน้ำ 2 ตัว
4. กางเกงขาสั้น 1 ตัว
5. เสื้อกันหนาวแบบผ้ากันน้ำกันลม ( 2 ชั้น) 1 ตัว
6. เสื้อแขนยาวใส่ข้างใน แห้งไว 1-2 ตัว
7. ถุงเท้าหนาใส่นอน 1 คู่
8. ถุงเท้าใส่เดิน 5 คู่
9. รองเท้าเตะ 1 คู่
10. หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ 1 ชุด
11. รองเท้าเดินเขาแบบกันน้ำ 1 คู่
12. แว่นตากันแดด 1 อัน
13. พาวเวอร์แบงค์ ไม่เกิน 2 ก้อน
14. ไม้เทรกกิ้ง 1 คู่ (ซื้อทาเมล หรือซื้อไปก่อน)
15. ไฟฉาย 1 อัน (รุ่นคาดหัว ถือ หรือจะรุ่นเป็นโคมไฟก็ได้)
16. ยาสามัญประจำตัว 1 ชุด (แก้ปวดหัว, แก้หวัด, แก้ไอ, แก้แพ้ ,แพ้ความสูง, แก้ท้องเสีย เอาไปเถอะครับ ไม่เสียหลาย)
17. กล้องถ่ายรูป (ไปเที่ยวทั้งทีไม่มีได้ไงใช่ไหมครับ)
18. เสื้อกันฝน 1ตัว (ผมเอาไปแต่ไม่ได้ใช้ครับ)
19. กระติกน้ำ 1 อัน
20. ถุงนอน 1 อัน (ผมไปซื้อนอทเฟคมา 3,500 เนปาลีรูปีมา ไม่หนาเลยครับ ไกด์แนะนำเช่าเอาวันละ 100 เนปาลีรูปี)
21. Energy Bar + Chocolate
22. กระเป๋าให้ลูกหาบถือหรือจะถือเองก็ตามแต่ 50 ลิตร+ 1 ใบ กระเป๋าเดย์แพค 1 ใบ
อาหาร
ผมไม่ได้เตรียมของแห้งอาหารไทยหรืออะไรมาเลยนะครับผม ผมมากินของที่นี่ซะส่วนใหญ่ มื้อกลางวันส่วนมาจะกิน Dal Bhat with Curry (Fish or Chicken) ผมจะกินแบบนี้ครับผม เติมได้ทุกอย่างนะครับ ยกเว้นแกงกระหรี่จะเสียเงินเพิ่มครับ
นี่เลยครับอาหารหลักของผม Dal Bhat Power 24 hours a day
แล้วอาหารด้านบนส่วนมากก็จะมีเมนูคล้าย ๆ กันทุกที่แต่ขึ้นกับแต่ละที่จะทำออกมารูปแบบไหนครับ Mix Fried Rice, Mix Fried Noodle, Noodle Soup, Mix Pizza, Momo ฯลฯ ครับ
แต่ส่วนมากอาหารเช้าผมจะรับประทานเป็นขนมปังกับกาแฟครับ ก็มีมากมายหลายแบบ แตกต่างกันไปครับ
น้ำสะอาด จะมีแบบน้ำขวดที่เราดื่มทั่วไป ข้างล่างในเมืองราคา 15-30 รูปีครับ ถ้าขึ้นสูงไปจะเริ่มที่ 70 – 100 รูปีครับ แต่ระหว่างทางเดินจะมีน้ำกรองครับเริ่มที่ 70 – 130 รูปีครับ ผมจำไม่ได้ว่าหลังจากไหนน้ำขวดจะหมดนะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ Chhomrong ครับ
เข้าเรื่อง (เวลาที่เขียนจะนับแต่ออกเดินจนหยุดเดินนะครับ รวมเวลาทานรับประทานอาหารกลางวันด้วยครับ)
วันที่ 1 BKK – KTM TG 319
วันนี้ไม่มีอะไรมากเลยครับ เดินทางจากสุวรรณภูมิออกมาปกติ (ถ้าอยากเห็นหิมาลัยจากเครื่องบินขาไปให้นั่งด้านขวา ขากลับให้นั่งด้านซ้ายนะครับ) แล้วก็เครื่องลงจอดที่ตรีภูวรรณ ตามเวลาปกติ เข้าทาเมลเผื่อหาซื้อของสำหรับไปเดินครับ ก่อนไปเราขาดอยู่หลายอย่างครับผม พอมีเวลาว่างตอนเย็นเลยแวะไปเยี่ยมเยียน Dubar Square ครับ ค่าเข้า 1,000 รูปี (ถ้าเวลาไม่พอสามารถเดินเข้าไปปั้มด้านในได้นะครับ เอาไว้เข้ามาอีกหนึ่งที) ระหว่างทางก็แวะกินโมโม่ แวะกินน้ำเหมือนโยเกิร์ตยื่นต่อแถวกันดื่มเลยครับ มีลองชิมขนมหวานมากดูด้วยครับ ลองทานกันดูครับ อร่อยดี
วันที่ 2 KTM – Pokhara
วันนี้ตื่นแต่เช้า ไปนั่งทัวร์ริสบัสครับ (ซึ่งไม่ค่อยจะทัวร์ริสเท่าใดนัก มีคนเนปาลีไปด้วยระหว่างทางเต็มเลยครับ) ถ้าขึ้นเองน่าจะประมาณ 800 – 1,200 รูปีครับ ใช้เวลานั่งสุทธิ 8 ชั่วโมง จอด 3 ที ก็ถึงโพคาราแล้วครับ พักผ่อน รอออกเดิน อ่อ ไฟฟ้าแสงสว่างต่างๆ ของประเทศเนปาล ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าฝนจะมาเป็นเวลานะครับ ที่เราเห็นตอนกลางวันส่วนมากจะมาจากเครื่องเจนเนอเรเตอร์ครับผม
ตอนไปไม่มีแสงเลยครับ อดสวยเลย
วันที่ 3 Pokhara – Nayapul – Ulleri (ใช้เวลา 7 ชั่วโมง)
วันนี้ออกจาก Pokhara ประมาณ 7 โมงครับ นั่งรถไปประมาณสองชั่วโมงก็จะถึง Nayapul แล้วเราจึงเริ่มเดิน ตอนแรกจุดมุ่งหมายเราคือ Tikhedhunga แต่เวลาที่เราเดินถึงมันเพิ่งจะบ่ายโมงนิดๆ เลยตัดสันใจเดินต่อ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินบนนถนนที่รถยังวิ่งได้ก็จ่ายเพิ่มได้ครับ รถจะเข้ามาส่งถึงบริเวณใกล้กับหมู่บ้านนี้แล้วถึงเริ่มเดินครับ ประมาณ 2,000 รูปี หลังจาก Tikhedhunga ไปที่ Ulleri เป็นบันไดขึ้นตลอดเส้นทางนะครับ ใช้เวลา 1.5 – 2 ชั่วโมงเลยในตอนนี้ ผมว่าเป็นช่วงขาขั้นที่หนักสุดในการเดินครั้งนี้แล้วครับ อากาศไม่หนาวมากนะครับ สองข้างทางยังมีต้นไม้ขึ้นตลอดครับระหว่างเดิน
จุดพักแรกของเราครับ ด้านซ้ายไกด์ผู้ไม่เคยเหนื่อย ซานโตส ด้านขวา ลูกหาบผู้ทรหด ซูซาน คนกลาง พี่ผมเองครับ
อันนี้วิวจากที่พักยามเช้าครับผม
วันที่ 4 Ulleri – Ghorepani (ใช้เวลา 5 ชั่วโมง)
วันนี้ก็เดินชิวๆ ไม่เหนื่อยเลยครับ แวะกินข้าวเที่ยงเดินอีกแปปเดียวก็ถึง สองข้างทางยังคงมีป่ารายล้อมครับ อากาศเริ่มเย็นเพราะความสูงขยับจาก 1,900 ม มาเป็น 2,800 ม. ครับ เดี๋ยวเอาเมนูอาหารมาฝากด้วยละกันนะครับ พอดีได้ถ่ายมาจะได้เห็นว่าราคาประมาณไหน
แล้วก็มีภาพวิวจากห้องพักมาฝากเช่นเคยครับ
แต่วันนี้ต้องรีบนอนไวครับ วันรุ่งขึ้นจะตื่นเดินขึ้นไปบน Poon Hill ตั้งแต่ตอนตีสี่ครึ่งครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงในการเดินครับ
เดี๋ยวมาเขียนต่อให้ครับ ไปเที่ยวด้วยกันต่อนะครับ
[CR] หิมาลัย ไม่ไกลเกินเอื้อมมือ (ABC - Annapurna Base Camp + Poon Hill)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมลองหาตั๋วเครื่องบินดูแล้วพบว่าช่วงนั้นตั๋วของการบินไทยมีโปรโมชั่น ที่ประมาณ 14,000 บาทครับ แต่ต้องเดินทางตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน กลับ 20 เมษายนครับ ทริปเราจึงดูนานนิดนึงครับ
หาข้อมูลแล้วมีเวลาข้างบนเทรลนานก็เลยจะไปทั้ง Poon Hill และ ABC ครับ โดยทริปของเรามีแผนดังนี้นะครับ (มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากที่เขาให้มาครับ)
Itinerary
วันที่ 6 BKK – KTM TG 319 พัก Thamel
วันที่ 7 KTM – Pokhara พัก Pokhara
วันที่ 8 Pokhara – Nayapul – Ulleri พัก Ulleri
วันที่ 9 Ulleri – Ghorepani พัก Ghorepani
วันที่ 10 Poonhill – Ghorepani - Tadapani พัก Tadapani
วันที่ 11 Tadapani - Chhomrong พัก Chhomrong
วันที่ 12 Chhomrong – Himalaya พัก Himalaya
วันที่ 13 Himalaya – MBC พัก MBC
วันที่ 14 MBC – ABC พัก ABC
วันที่ 15 ABC – Upper Sinuwa พัก Upper Sinuwa
วันที่ 16 Upper Sinuwa – Jhinu พัก Jhinu
วันที่ 17 Jhinu – Nayapul - Pokhara พัก Pokhara
วันที่ 18 Pokhara – KTM พัก Thamel
วันที่ 19 KTM Day tour พัก Thamel
วันที่ 20 KTM – BKK TG 320
Visa
ก่อนพวกเราจะเดินทางพวกเรามีเวลาค่อนข้างมากครับ เลยทำ Visa ไปก่อน ไม่อยากทำ On arrival (ถ้าไม่ขอไปก่อน ตอนไปถึงอาจจะช้านิดนึง คิวค่อนข้างยาวครับ)
Visa นั้นทำไม่ยากเลยครับ เตรียมเอกสารให้ครบตามสถานทูตบอกไว้ ทำเอกสารไปส่ง พร้อมจ่ายเงินค่าวีซ่า วันพรุ่งขึ้นรับได้เลยครับ (จอดรถได้ในจัสโก้นะครับ) เป็นประเทศนึงที่ผมถือว่าจะดวกสบายมากในการขอครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเตรียมของ
ผมได้ทำการเตรียมของเยอะเกินไปนิดนึงครับ เสื้อที่ไม่ได้ใช้ก็มีมากมายหลายตัวอยู่ครับ สงสารลูกหาบเวลาแบกของให้ครับ ถึงแม้เขาจะได้รับค่าตอบแทนจากเราก็ตามครับ ผมจะเขียนแต่ของที่ผมจำเป็น และได้ใช้นะครับ
1. เสื้อกีฬาแห้งไว 3-4 ตัว
2. กางเกงในแห้งไว 5 ตัว (หรือแล้วแต่สะดวกครับ แบบธรรมดาก็ได้ครับ)
3. กางเกงกันน้ำ 2 ตัว
4. กางเกงขาสั้น 1 ตัว
5. เสื้อกันหนาวแบบผ้ากันน้ำกันลม ( 2 ชั้น) 1 ตัว
6. เสื้อแขนยาวใส่ข้างใน แห้งไว 1-2 ตัว
7. ถุงเท้าหนาใส่นอน 1 คู่
8. ถุงเท้าใส่เดิน 5 คู่
9. รองเท้าเตะ 1 คู่
10. หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ 1 ชุด
11. รองเท้าเดินเขาแบบกันน้ำ 1 คู่
12. แว่นตากันแดด 1 อัน
13. พาวเวอร์แบงค์ ไม่เกิน 2 ก้อน
14. ไม้เทรกกิ้ง 1 คู่ (ซื้อทาเมล หรือซื้อไปก่อน)
15. ไฟฉาย 1 อัน (รุ่นคาดหัว ถือ หรือจะรุ่นเป็นโคมไฟก็ได้)
16. ยาสามัญประจำตัว 1 ชุด (แก้ปวดหัว, แก้หวัด, แก้ไอ, แก้แพ้ ,แพ้ความสูง, แก้ท้องเสีย เอาไปเถอะครับ ไม่เสียหลาย)
17. กล้องถ่ายรูป (ไปเที่ยวทั้งทีไม่มีได้ไงใช่ไหมครับ)
18. เสื้อกันฝน 1ตัว (ผมเอาไปแต่ไม่ได้ใช้ครับ)
19. กระติกน้ำ 1 อัน
20. ถุงนอน 1 อัน (ผมไปซื้อนอทเฟคมา 3,500 เนปาลีรูปีมา ไม่หนาเลยครับ ไกด์แนะนำเช่าเอาวันละ 100 เนปาลีรูปี)
21. Energy Bar + Chocolate
22. กระเป๋าให้ลูกหาบถือหรือจะถือเองก็ตามแต่ 50 ลิตร+ 1 ใบ กระเป๋าเดย์แพค 1 ใบ
อาหาร
ผมไม่ได้เตรียมของแห้งอาหารไทยหรืออะไรมาเลยนะครับผม ผมมากินของที่นี่ซะส่วนใหญ่ มื้อกลางวันส่วนมาจะกิน Dal Bhat with Curry (Fish or Chicken) ผมจะกินแบบนี้ครับผม เติมได้ทุกอย่างนะครับ ยกเว้นแกงกระหรี่จะเสียเงินเพิ่มครับ
นี่เลยครับอาหารหลักของผม Dal Bhat Power 24 hours a day
แล้วอาหารด้านบนส่วนมากก็จะมีเมนูคล้าย ๆ กันทุกที่แต่ขึ้นกับแต่ละที่จะทำออกมารูปแบบไหนครับ Mix Fried Rice, Mix Fried Noodle, Noodle Soup, Mix Pizza, Momo ฯลฯ ครับ
แต่ส่วนมากอาหารเช้าผมจะรับประทานเป็นขนมปังกับกาแฟครับ ก็มีมากมายหลายแบบ แตกต่างกันไปครับ
น้ำสะอาด จะมีแบบน้ำขวดที่เราดื่มทั่วไป ข้างล่างในเมืองราคา 15-30 รูปีครับ ถ้าขึ้นสูงไปจะเริ่มที่ 70 – 100 รูปีครับ แต่ระหว่างทางเดินจะมีน้ำกรองครับเริ่มที่ 70 – 130 รูปีครับ ผมจำไม่ได้ว่าหลังจากไหนน้ำขวดจะหมดนะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ Chhomrong ครับ
เข้าเรื่อง (เวลาที่เขียนจะนับแต่ออกเดินจนหยุดเดินนะครับ รวมเวลาทานรับประทานอาหารกลางวันด้วยครับ)
วันที่ 1 BKK – KTM TG 319
วันนี้ไม่มีอะไรมากเลยครับ เดินทางจากสุวรรณภูมิออกมาปกติ (ถ้าอยากเห็นหิมาลัยจากเครื่องบินขาไปให้นั่งด้านขวา ขากลับให้นั่งด้านซ้ายนะครับ) แล้วก็เครื่องลงจอดที่ตรีภูวรรณ ตามเวลาปกติ เข้าทาเมลเผื่อหาซื้อของสำหรับไปเดินครับ ก่อนไปเราขาดอยู่หลายอย่างครับผม พอมีเวลาว่างตอนเย็นเลยแวะไปเยี่ยมเยียน Dubar Square ครับ ค่าเข้า 1,000 รูปี (ถ้าเวลาไม่พอสามารถเดินเข้าไปปั้มด้านในได้นะครับ เอาไว้เข้ามาอีกหนึ่งที) ระหว่างทางก็แวะกินโมโม่ แวะกินน้ำเหมือนโยเกิร์ตยื่นต่อแถวกันดื่มเลยครับ มีลองชิมขนมหวานมากดูด้วยครับ ลองทานกันดูครับ อร่อยดี
วันที่ 2 KTM – Pokhara
วันนี้ตื่นแต่เช้า ไปนั่งทัวร์ริสบัสครับ (ซึ่งไม่ค่อยจะทัวร์ริสเท่าใดนัก มีคนเนปาลีไปด้วยระหว่างทางเต็มเลยครับ) ถ้าขึ้นเองน่าจะประมาณ 800 – 1,200 รูปีครับ ใช้เวลานั่งสุทธิ 8 ชั่วโมง จอด 3 ที ก็ถึงโพคาราแล้วครับ พักผ่อน รอออกเดิน อ่อ ไฟฟ้าแสงสว่างต่างๆ ของประเทศเนปาล ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าฝนจะมาเป็นเวลานะครับ ที่เราเห็นตอนกลางวันส่วนมากจะมาจากเครื่องเจนเนอเรเตอร์ครับผม
ตอนไปไม่มีแสงเลยครับ อดสวยเลย
วันที่ 3 Pokhara – Nayapul – Ulleri (ใช้เวลา 7 ชั่วโมง)
วันนี้ออกจาก Pokhara ประมาณ 7 โมงครับ นั่งรถไปประมาณสองชั่วโมงก็จะถึง Nayapul แล้วเราจึงเริ่มเดิน ตอนแรกจุดมุ่งหมายเราคือ Tikhedhunga แต่เวลาที่เราเดินถึงมันเพิ่งจะบ่ายโมงนิดๆ เลยตัดสันใจเดินต่อ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินบนนถนนที่รถยังวิ่งได้ก็จ่ายเพิ่มได้ครับ รถจะเข้ามาส่งถึงบริเวณใกล้กับหมู่บ้านนี้แล้วถึงเริ่มเดินครับ ประมาณ 2,000 รูปี หลังจาก Tikhedhunga ไปที่ Ulleri เป็นบันไดขึ้นตลอดเส้นทางนะครับ ใช้เวลา 1.5 – 2 ชั่วโมงเลยในตอนนี้ ผมว่าเป็นช่วงขาขั้นที่หนักสุดในการเดินครั้งนี้แล้วครับ อากาศไม่หนาวมากนะครับ สองข้างทางยังมีต้นไม้ขึ้นตลอดครับระหว่างเดิน
จุดพักแรกของเราครับ ด้านซ้ายไกด์ผู้ไม่เคยเหนื่อย ซานโตส ด้านขวา ลูกหาบผู้ทรหด ซูซาน คนกลาง พี่ผมเองครับ
อันนี้วิวจากที่พักยามเช้าครับผม
วันที่ 4 Ulleri – Ghorepani (ใช้เวลา 5 ชั่วโมง)
วันนี้ก็เดินชิวๆ ไม่เหนื่อยเลยครับ แวะกินข้าวเที่ยงเดินอีกแปปเดียวก็ถึง สองข้างทางยังคงมีป่ารายล้อมครับ อากาศเริ่มเย็นเพราะความสูงขยับจาก 1,900 ม มาเป็น 2,800 ม. ครับ เดี๋ยวเอาเมนูอาหารมาฝากด้วยละกันนะครับ พอดีได้ถ่ายมาจะได้เห็นว่าราคาประมาณไหน
แล้วก็มีภาพวิวจากห้องพักมาฝากเช่นเคยครับ
แต่วันนี้ต้องรีบนอนไวครับ วันรุ่งขึ้นจะตื่นเดินขึ้นไปบน Poon Hill ตั้งแต่ตอนตีสี่ครึ่งครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงในการเดินครับ
เดี๋ยวมาเขียนต่อให้ครับ ไปเที่ยวด้วยกันต่อนะครับ