-> แปะลิ้งตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/43026893
-> แปะลิ้งตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/43029821
-> แปะลิ้งตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/43033055
-> แปะลิ้งตอนสุดท้าย https://ppantip.com/topic/43079487

สวัสดีค่ะ เราเพิ่งกลับจากไป Trekking ที่ Mardi Himal ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 6 - 14 ตุลาคม 2024

ใช่ค่ะ เพิ่งกลับมาถึงเมื่อวาน 

Mardi เป็นชื่อเขา ส่วน Himal แปลว่า ภูเขา (เหมือนคำว่า หิมาลัย) ซึ่งคนที่ Trek เขา Mardi จะได้เห็นวิวของ Annapurna South และ Fishtail หรือ Machhapuchhre มัจฉาปูชเร แบบชัดๆ เต็ม 2 ตา (ฟังเพื่อนมาค่ะ พอดีเราขึ้นไม่ถึงที่ Mardi Himal Base Camp ย่อว่า MBC )

- ขอเปิดด้วยภาพจากสนามบินที่ Pokhara นะคะ ในรูปจะเห็น Fishtail จากมุมนี้จะเห็นแค่ยอดแหลม 1 ยอด คล้าย ๆ เขา Matterhorn ที่เป็นโลโก้ของช็อคโกแลต Toblerone 
- ส่วน Annapurna South ควรจะอยู่ทางซ้ายไปอีก แต่ถ่ายมาไม่ติดนะคะ
- เทือกเขาทางขวามือ ไม่รู้จักเลยค่ะ 


ขอเริ่มเล่าตั้งแต่แพลน Trekking นะคะ
เราไปกับเพื่อนรวม 5 คน จองทัวร์กับไกด์ชื่อ Hari ที่เพื่อนเจอข้อมูลในยูทูป แล้วก็ติดต่อ คุยรายละเอียด โอนเงินค่าจองเรียบร้อย ต่อหัวพวกเราจ่ายที่คนละ 580 USD และโอนมัดจำรวมกันไป 100 USD ค่ะ 
- ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไป จะรวมค่าที่พักทุกคืน ค่าเดินทาง รวมตั๋วเครื่องบินไป Pokhara อาหารจานหลักระหว่าง Trekking และเครื่องดื่มร้อน (สิ่งที่ไม่รวมคือตั๋วเครื่องบินจากไทย ค่าน้ำเปล่าระหว่าง Trekking ค่าขนมหวาน ค่าน้ำอัดลม ขนม หรือสั่งอาหารอะไรเพิ่มเติมไปจากจานหลัก และไม่รวมมื้ออาหารในตัวเมือง Pokhara และ Kathmandu แต่อาหารเช้ารร.มีให้อยู่แล้วค่ะ และไม่รวมค่าติ๊บไกด์กับลูกหาบนะคะ ทางเราไป 5 คน ลูกหาบ 3 คน แบกได้คนละ 30 โล พอดี ๆ อยู่ค่ะ)
Hari บอกว่า เค้ามีลูกทัวร์จากไทยบ่อย ๆ ไม่เคยมีปัญหา ตอนแรกจะไม่รับมัดจำด้วยค่ะ คุยแชททั้งหมดผ่านทาง Whatsapp นะคะ 

แพลนคือ
วันที่ 6 (Day 1) ถึงกาฐมาณฑุ ตอนเย็น Hari เอารถมารับ พร้อมคล้องมาลัย และพาไปที่รร.ชื่อ Kathmandu Garden Home ใกล้กับย่าน Thamel 
วันที่ 7 (Day 2) ออกเดินทางไปสนามบินแต่เช้า Kathmandu - Pokhara แล้วนั่งรถจากสนามบินไป Kande แล้วเริ่ม trek จากตรงนี้เลย นอนที่ Deurali (เป็นที่พักบนเขาคืนแรก) วิวสวย 
วันที่ 8 (Day 3) trek จาก Deurali ไปนอนที่ Forest Camp ไม่เห็นวิว แต่อาจจะแล้วแต่รร. (เขาใช้คำว่า Hotel แต่สำหรับเราน่าจะเป็น guesthouse มากกว่า)
วันที่ 9 (Day 4) trek จาก Forest Camp ตามแพลนจะไปนอนที่ Low Camp แต่ไกด์บอกว่า ระยะทางมันใกล้ แนะนำให้เดินต่อเพื่อไปนอนที่ Badal Danda ซึ่งวิวสวยมากกกก 
วันที่ 10 (Day 5) trek จาก Badal Danda ไปที่ Highcamp ซึ่งระหว่างทางสวยมากกกกก 
วันที่ 11 (Day 6) ตื่นตี 4 ที่ High Camp แล้วเดินตัวเปล่า ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ View point และถ้าใครมีแรงกาย แรงใจ ก็ขึ้นไปให้ถึงที่ Mardi Himal Base Camp (MBC) แล้วถ่ายรูปกับป้ายความสูง 4,500 เมตรโลด กลับมากินข้าวเช้าที่ High camp แล้วเริ่มเดินลงค่ะ ตามแพลนเราจะลงไปนอน Low Camp แล้วค่อย trek จาก Low Camp ไป Siding  แต่ไกด์แนะนำให้ลงไปถึง Siding เลย (ถ้าใครไม่ฟิต และเริ่มเดินลงจาก High Camp ตอนบ่าย จะถึงมืดนะคะ อย่าหาทำ เราเตือนคุณแล้วนะ  ฮ่าฮ่า)
วันที่ 12 (Day 7) จาก Siding นั่งรถไปรร. The North Face Inn ในตัวเมือง Pokhara ได้เที่ยวในเมืองนิดหน่อย
วันที่ 13 (Day 8) ไปสนามบิน เพื่อบินกลับเมืองหลวง Pokhara - Kathmandu (เครื่องดีเลย์ 2 ชม. สายการบินเยติ) แล้วไปนอนรร.เดิมใกล้ Thamel
วันที่ 14 (Day 9) ได้เที่ยวตัวเมืองกาฐมาณฑุช่วงเช้านิดหน่อย ด้วยการเหมาแท็กซี่ แล้วบินกลับไทยตอนบ่ายโมง

แปะเส้นทาง พอดีถ่ายตอนอยู่ที่ Australian camp ที่เราแวะกินข้าวเที่ยงกัน หลังจากเริ่มเดินจาก Kande นะคะ
เริ่มเดิน Kande 1770 m - นอน Deurali 2100 m - นอน Forest camp 2,900 m - นอน Badal Danda 3,300 - นอน High camp 3,500 - ชมวิว Upper View Point 4,200 - ชมวิวสูงสุด Mardi Himal Base Camp 4,500 - ลงไปนอน Siding 1,700 m  ตื่นเช้า นั่งรถกลับ Pokhara  


เตรียมตัวก่อนเดินทาง
- ทำ Visa on arrival ทางออนไลน์ให้เรียบร้อย ตอนนั้นเราไม่รู้ชื่อรร. เลยกรอกแค่ Thamel ซึ่งมันเป็นแค่ชื่อย่าน
- เตรียมรูปถ่าย 2x2 นิ้วเพื่อทำ Trekking Permit ซึ่งเรามาค้นพบว่า ไกด์ใช้รูปของพาสปอร์ตแทน แล้วจะให้เตรียมทำไมน้อ
- เพื่อนเราแลกเงินดอลลาร์ไว้ค่ะ แต่ที่ Thamel มีร้านรับแลกเงินเยอะมากก เงินไทยก็แลกได้
- อุปกรณ์กันหนาวทั้งหลาย เพื่อน ๆ เราลงความเห็นว่า ไม่ต้องซื้อจากไทยไปหรอก ไปซื้อที่ Thamel โลด ถามไกด์ว่ามีร้านลับมั้ย เพราะ Hari พาพวกเราไปร้านลับ อยู่ในทาเมลนั่นแหละ แต่อยู่ชั้น 2 ไม่มีหน้าร้าน และราคาถูกกว่าข้างล่างนิดหน่อย ไม้เทรกกิ้งอันละ 400 รูปี ประมาณ 100 บาท และไม่ก๊อกแก๊กด้วยนะ เสื้อกันหนาวตัวละ 2000 รูปี ของก๊อป แต่ใส่แล้วอุ่นจริง ดูดี ไม่ก๊อกแก๊ก เหมาะสำหรับสายเน้นใช้ ไม่เน้นสวย (มันดูดีแหละค่ะ แต่สีไปทางทึมๆซะเยอะ) สารภาพว่าตอนกลับมาหาร้านนั้นเอง หาไม่เจอ จำทางเข้าไม่ได้ค่ะ
- มีทากนะคะ ช่วง Forest camp จนก่อนถึง Badal danda เพราะเดินในป่าค่ะ ยิ่งถ้าเพิ่งฝนตกไปก่อนหน้า อื้อหือ เรากรี๊ดตลอดทาง 
- ถุงนอน ลองถามไกด์ว่ามีให้ยืมมั้ย เรายืมไกด์ฟรี ๆ ไม่ได้เช่าค่ะ เราใช้ถุงนอนที่ Badal Danda กับ High Camp แต่มีคนไทยกลุ่มอื่น ๆ บอกว่าไม่ได้ใช้เลย เพราะผ้าห่มหนา หนาจริงค่ะ แต่สำหรับเราเอาไม่อยุ่ เพื่อน ๆ เรามีทั้งใช้และไม่ใช้ค่ะ 
- ยาใส่ในน้ำ ทางเราซื้อไปค่ะ แต่ไม่ได้ใช้เลย มีลองใช้ 1 เม็ด เหมือนกินน้ำก๊อก พอไหว แต่ซื้อน้ำต้มดีกว่า
- พวกของกินเพิ่มพลังทั้งหลาย ไปซื้อใน Thamel หรือจะเตรียมมาจากไทย หรือจะใช้เงินแก้ปัญหาก็ได้ค่ะ มีให้ซื้อตามทางเรื่อย ๆ แพงขึ้น แต่ ณ จุดนั้น มีอะไรก็ซื้อหมด มีโค้ก Redbull ขนมขบเคี้ยว น้ำ ชา กาแฟ อื่น ๆ 
- ที่แต่ละแคมป์มีน้ำให้อาบ แต่น้ำร้อนเสียตัง 2 แคมป์สุดท้ายเราไม่ได้อาบนะคะ มีเพื่อนคนนึงอาบหมด ยกเว้น High Camp 
- ที่แคมป์ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ไม่มีสบู่ให้ 
- 2-3 แคมป์บน ๆ ไม่ให้เสียบชาร์จ (ชาร์จที่ห้องกินข้าวได้ เสียตัง) และไวไฟเสียตังเกือบทุกแคมป์นะคะ เปิดโรมมิ่งมีสัญญาณเกือบทุกที่ค่ะ พกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยนะคะ
- ยาแก้โรคแพ้ความสูง เพื่อนเราให้กินแค่ครึ่งเม็ดค่ะ มันได้ผลมั้ย ไม่แน่ใจ แต่เรากับเพื่อน ๆ ไม่มีอาการอะไร ยกเว้น 1 คนในกลุ่มที่คลื่นไส้ มวนท้อง ไม่สบายตัว แต่พอเดินไหวค่ะ
- ครีมกันแดด 
- ไฟฉายคาดหัว เพราะตอนขึ้นจาก High Camp เพื่อไปดูวิวพระอาทิตย์ขึ้น ไกด์อาจจะพาไปทางลัด ซึ่งชัน และปีนนิดหน่อย 
- เตรียมรองเท้าดี ๆ เพราะเพื่อนเราเอารองเท้าที่ไม่ได้ใช้ 1 ปีของดีแคทลอนไป แล้วแผ่นยางล่างสุดหลุดค่ะ เลยใส่ adda คู่ละ 200 เดินแทน คนนี้เดินถึง MBC นะคะ อย่าดูถูก ฮ่า ๆ แต่ทาง trekking ของ Mardi Himal เป็นบันไดสัก 80% ค่ะ ทางลงเป็นบันไดเกือบ 100 % เข่ากับน่องเกือบพัง
- ประกันการเดินทาง กลุ่มเราทำ 2 คน อีก 3 คนไม่ได้ทำค่ะ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ฝืนสังขารมาก เหนื่อยก็พัก ไม่ไหวก็หยุด ก็ไม่ต้องทำก็อาจจะโอเคอยู่ค่ะ อันที่ทำคือบริษัทต่างประเทศนะคะ ลอก ๆ เอาจากคนที่รีวิวในเน็ตนี่แหละค่ะ 

คำแนะนำเล็กๆ น้อย ๆ 
- นั่งเครื่องไป Pokhara ให้นั่งฝั่งขวา จะเห็นวิวเขา ซึ่งมักจะเปิดแค่ช่วงเช้า ๆ สาย ๆ พอเริ่มช่วงเที่ยง บ่าย เย็นจะมีเมฆหมอกคลุมคลอดค่ะ รวมทั้งระหว่าง trekking ด้วย
- พยายามเริ่ม trek ในแต่ละวันให้เช้าที่สุด เพราะฟ้าเปิดแค่ช่วงเช้าและสายค่ะ
- ที่พักที่วิวสวยสำหรับกรุ๊ปเรา Deurali / Badal Danda / High Camp แต่ขึ้นอยู่กับที่พักด้วยนะคะ ที่พักแต่ละที่จะอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่บางมุม อาจจะเห็นชัดกว่า
- มีน้ำต้มให้ซื้อตรงแคมป์บน ๆ เพราะน้ำเป็นขวดไม่มีขาย แต่ต้องพกขวดเพื่อเติมน้ำต้มค่ะ น้ำต้มเลือกได้ทั้งร้อนและเย็น 
- เรื่องดีลกับไกด์ อาจจะดีลกับคนนึง ได้ไปกับอีกคนนึงนะคะ ขนาดเราถามเรื่องสายการบินเยติ กังวลนิดหน่อย เพราะเพิ่งมีข่าวเครื่องบินตก (น่าจะอีกสายการบิน) ไกด์บอกว่า "with me" ไม่ต้องห่วง ไอ้เราก็นึกว่า Hari จะไปด้วย แต่พอมาถึงรร. คุยกันเรื่องแพลน ถึงรู้ว่าไกด์เป็นอีกคนนึง ชื่อบิมเซน ไกด์คนนี้ก็ดีแหละค่ะ แต่เท่ากับว่า Hari กินค่าหัวเราไปหน่อยนึง ส่วน Hari จะไปกับกรุ๊ปอื่นที่ไป Manaslu เดิน 14 วัน
ถ้าใครอยากได้ราคาถูกมาก ๆ แล้วคิดว่าดีลกับไกด์โดยตรง เพราะคิดว่าไม่โดนส่งต่อ ขอบอกว่าคุณคิดผิดค่ะ ไกด์ทุกคน มีโอกาสส่งต่อได้หมด 
ถ้าไกด์คนไหนดูตกลงง่าย ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องวันที่เราไปและกลับ แสดงว่าคุณโดนส่งต่อแน่นอนค่า ไม่งั้นเค้าต้องพยายามจัดวันให้ลงล็อกแล้ว (พอเข้าใจที่เราอธิบายมั้ยคะ) แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องโดนค่าหัว ก็ช่างมันค่ะ เราว่าไกด์หลายคนเทคแคร์ดีมากค่ะ เพราะระหว่างทางเราก็เจอกับหลายกรุ๊ป มีคนไทยเยอะอยู่ ทุกคนดูแฮปปี้กับไกด์ค่ะ 
- ใครสนใจไกด์เรา ชื่อ Bhimsen Dhakal สามารถเอาชื่อไปเสิร์ชในเฟสได้ค่ะ เทคแคร์ดี แต่แนะนำให้คุยรายละเอียดทัวร์ดี ๆ นะคะ วันไหนทำอะไร เราอยากได้แบบไหน เดินทางยังไง ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ค่าใช้จ่ายรวมหรือไม่รวมอะไรบ้าง หรือสนใจกับ Hari ที่เป็นคนจัดการทุกอย่างให้ เดี๋ยวเราหาคอนแท็กให้อีกทีค่ะ พอดีเราไม่ได้มี whatsapp 
- Hari บอกว่า คุณสามารถฝากของที่รร.ได้ หรือก่อนเดินก็ฝากได้ อันนี้เราพบว่าก่อนเดิน ไม่มีที่ให้ฝากค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรมาก แค่อยากฝากเสื้อผ้านิดหน่อย ก็เลยให้ลูกหาบแบกไปค่ะ
- กินน้ำเยอะ ๆ นะคะ มีห้องน้ำให้เข้าอยู่ตลอดทาง อาจจะไม่ถี่มาก แต่ถือว่าใช้ได้อยู่ค่ะ บางเส้นก็ถี่ บางเส้นก็ไกลหน่อย
- ถ้าคุณฟิตมาก เดินขึ้น 2-3 วันก็ไหวนะคะ มีคนทำเยอะอยู่ค่ะ ทางขึ้นทางลงจะเป็นคนละทาง