ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ เราไม่อยากให้แม่ทำนา
เรื่องของเรื่องคือตอนแรกแม่หว่านกล้าข้าวไปแล้ว และบอกว่าจะหุ้นกับน้องสาวปลูกข้าวแล้วแบ่งผลผลิตกัน แต่ตอนนี้ น้องสาวเข้าไปหางานทำในตัวเมือง แล้วบอกว่าไม่ทำแล้ว เลยให้แม่ทำต่อเอง ในขณะที่แม่ก็ต้องรอส่งและรอรับหลานสามคน ไปและกลับจากโรงเรียน (ลูกของน้องสาว) ตอนนี้แม่เลิกกับพ่อแล้ว ไม่มีใครที่จะคอยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ เราเลยปฏิเสธแม่ไป ตอนที่แม่โทรมาขอเงินค่าไถนา 6000บาท
เราคิดดีแล้วว่าไม่ให้เงินแม่ บอกห้ามไม่ให้แม่ทำแล้ว ไม่รู้แม่จะฟังรึปล่าว แม่ให้เหตุผลว่าเสียดายกล้าที่หว่านไว้ เสียดายที่ดิน ถ้าจะปล่อยให้ทิ้งร้างไว้ แต่เรากลับคิดว่า ผู้หญิงวัยกลางคน ทำเองจะได้ไม่คุ้มเสีย ไหนจะค่าไถที่ ค่าจ้างปลูก ค่าปุ๋ยค่ายา ค่าอีกจิปาถะที่จะตามมา เราเลยบอกแม่ให้ซื้อกินดีกว่า แต่กลัวแม่จะไปกู้ที่ไหนมาอีก แล้วคนที่ต้องตามใช้หนี้ก็คือเรา เราเกลียดการเป็นหนี้มาก โดยเฉพาะที่ที่ก่อโดยไม่รู้ว่าจะมีใช้คืนมั้ย พูดมากแกก็งอนใส่อีก กลุ้มค่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
ไม่อยากให้แม่ทำนา ผิดไหมที่คิดแบบนี้
เรื่องของเรื่องคือตอนแรกแม่หว่านกล้าข้าวไปแล้ว และบอกว่าจะหุ้นกับน้องสาวปลูกข้าวแล้วแบ่งผลผลิตกัน แต่ตอนนี้ น้องสาวเข้าไปหางานทำในตัวเมือง แล้วบอกว่าไม่ทำแล้ว เลยให้แม่ทำต่อเอง ในขณะที่แม่ก็ต้องรอส่งและรอรับหลานสามคน ไปและกลับจากโรงเรียน (ลูกของน้องสาว) ตอนนี้แม่เลิกกับพ่อแล้ว ไม่มีใครที่จะคอยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ เราเลยปฏิเสธแม่ไป ตอนที่แม่โทรมาขอเงินค่าไถนา 6000บาท
เราคิดดีแล้วว่าไม่ให้เงินแม่ บอกห้ามไม่ให้แม่ทำแล้ว ไม่รู้แม่จะฟังรึปล่าว แม่ให้เหตุผลว่าเสียดายกล้าที่หว่านไว้ เสียดายที่ดิน ถ้าจะปล่อยให้ทิ้งร้างไว้ แต่เรากลับคิดว่า ผู้หญิงวัยกลางคน ทำเองจะได้ไม่คุ้มเสีย ไหนจะค่าไถที่ ค่าจ้างปลูก ค่าปุ๋ยค่ายา ค่าอีกจิปาถะที่จะตามมา เราเลยบอกแม่ให้ซื้อกินดีกว่า แต่กลัวแม่จะไปกู้ที่ไหนมาอีก แล้วคนที่ต้องตามใช้หนี้ก็คือเรา เราเกลียดการเป็นหนี้มาก โดยเฉพาะที่ที่ก่อโดยไม่รู้ว่าจะมีใช้คืนมั้ย พูดมากแกก็งอนใส่อีก กลุ้มค่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี