CIA ทำรัฐประหารประเทศไทย ?



วันที่ 9 กันยายน ปี 2008 ศาลรัฐธรรมนูญไทยได้ทำการปลดนายกรัฐมนตรีไทยนายสมัคร สุนทรเวชออกจากตำแหน่งและคณะรัฐมนตรีของเขา

แสดงให้เห็นว่า CIA อาจมีส่วนในการโค่นล้มนายสมัคร

ในช่วงปี 1960 กับ 1970 ทางประเทศอเมริกามีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาลทหารในประเทศไทย

มีการรายงานด้วยว่า ประเทศไทยมีคุกลับของ CIA อยู่เป็นจำนวนมาก

ทั้งบุชกับ CIA อาจมีการสนับสนุนนายพลไทยในการโค่นล้มนักการเมืองไทยที่พยายามช่วยเหลือคนยากคนจน

ซึ่งนายสมัครก็ถือเป็นคนในเครือข่ายของทักษิณที่พยายามช่วยเหลือคนยากคนจน

เมื่อทักษิณได้ถูกโค่นล้มในปี 2006 มีการรายงานจาก CIA ว่า “ตัวแทนของบุชหลายคนที่อยู่ในประเทศไทยให้เกียรติ์กับผู้ที่ทำเงื่อนไขในการรัฐประหารอย่างเป็นมิตร ซึ่งผู้ทำรัฐประหารส่วนใหญ่เป็นที่รู้กันดีว่ามีความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกา” (Asia Times 7 August 2008 US,Thailand : A Conflicted Alliance)

“ซึ่งรวมไปถึงคนที่ทาง CIA ฝึกมาอย่างประสงค์ สุ่นสิริกับพลเอกวินัย ภัททิยกุล ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการข่าวกรองในกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของอเมริกาถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว”

“เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอเมริกากับอดีตเอกราชทูตประจำประเทศไทย Ralph ‘Skip’ Boyce เป็นที่รู้กันดีว่าให้การสนับสนุนประธานองคมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งผู้ที่สนับสนุนทักษิณกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในปี 2006” (US,Thailand : A Conflicted Alliance)

ทักษิณได้สร้าง “กลยุทธ์ใหม่โดยเริ่มทำการติดต่อไปยังกรุงปักกิ่ง” และค่อยๆทำลาย “การผูกขาดของกองทัพอเมริกาที่มีต่อกองทัพในประเทศไทย

ทักษิณยังทำการซื้อขายอาวุธจากประเทศจีนในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกด้วย” (US,Thailand : A Conflicted Alliance)

เมื่อมีรายงานออกมาว่า CIA ได้ทำการโค่นล้ม Shah แล้ว พวกเขาก็ดันเหล่าพ่อค้าและนักธุรกิจของ Bazaars ที่มีความกังวลใจในการแข่งขันทำการซื้อขายสินค้ามากขึ้น

แล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในประเทศไทยเหมือนกันหรือเปล่าครับ?

ในประเทศไทยมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายขาวที่เรียกตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวต่อต้านนายกสมัคร

ทางด้าน Jaimie Seaton กับ George Wehrfritz ของ Newsweek (All Politics Isn’t Local) นั้น เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี 2008 ก็ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์ในประเทศไทยก็คือ

1.ในการเลือกตั้งนั้น นายสมัครกับคนในพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง

2.นายสมัครเป็นคนในเครือข่ายของผู้ที่ได้รับความนิยมอย่างทักษิณ ซึ่งถูกทหารยึดอำนาจ

3.นายสมัครพยายามที่จะช่วยเหลือคนยากคนจนและดำเนินการสร้างเศรษฐกิจให้มีความทันสมัย

4.จาการสำรวจโพลมหาวิทยาลัยกรุงเทพนั้น มีถึง 7 ใน 10 ที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดกั้นถนนและบุกยึดทำเนียบรัฐบาล มีเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ที่สนับสนุนให้ยึดอำนาจนายสมัคร

5.การเคลื่อนไหวต่อต้านนายสมัครมีการดำเนินโดยกลุ่มฝ่ายขวาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

6.หนึ่งในผู้ประท้วงต่อต้านนายสมัครก็คือ Chokchuand Chutinaton ซึ่งเป็นกุมารแพทย์ที่ทางอเมริกาฝึกหัดมา

ทางด้าน Newsweek ได้นำคำพูดของเขาก็คือ ขอบคุณทักษิณกับสมัครที่นำบริษัทต่างชาติเข้ามาที่ประเทศไทยมากขึ้น

7.ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ต่อต้านนายสมัครในเรื่องการค้าเสรี การดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและแนวคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตกเข้ามาที่ประเทศไทย

8.กลุ่มพันธมิตรได้รับการสนับสนุนโดย

(A)    กลุ่มข้าราชการที่เสียผลประโยชน์จากระบบอำมาตยาธิปไตย

(B)    กลุ่มสหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมของฝ่ายเอกชน

(C)    ชนชั้นกลางบางส่วนที่ไม่พอใจกับการที่ชาวชนบทมีการยกระดับพัฒนาตัวเองมากขึ้น

(D)    ชาวพุทธบางส่วนที่กลัววัฒนธรรมแบบตะวันตก

9.ผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรก็คือ เจ้าของสื่ออย่างสนธิ ลิ้มทองกุล

(สอดคล้องกับข้อมูลวิกิพีเดียก็คือ หลังจากที่ทักษิณได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2001 แล้ว คนของสนธิหลายคนก็เป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่)

(นายธนาคารของสนธิก็คือ วิโรจ นวลแข ก็เป็นประธานธนาคารกรุงไทยและปล่อยเงินกู้ให้กับสนธิมากถึงพันล้านบาท ทำให้เขาต้องเจอกับภาวะล้มละลาย)

(สนธิถือเป็นผู้สนับสนุนทักษิณถึงกับพูดว่า “เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยมี”)

(ในปี 2005 วิโรจ นวลแขถูกปลดออกจากธนาคารกรุงไทยหลังจากที่มีปัญหาในการกู้ยืมมากกว่า 40 ล้านบาท)

(จากนั้นสนธิจึงเริ่มเป็นปรปักษ์กับทักษิณ)

10.ทักษิณได้กล่าวว่า จะต้องทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโลก

สนธิกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรต่อต้านเทรนที่มีความทันสมัย

11.กลุ่มพันธมิตรได้ทำการยึดสนามบิน 3 แห่ง ทำให้ระบบภาคการให้บริการเสียกระบวน และสหภาพแรงงานหลายกลุ่มก็ได้รวมตัวกันและขู่ที่จะทำการตัดน้ำตัดไฟกรุงเทพ

จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง และเรื่องนี้ก็เป็นการปูทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ

ในประเทศไทยก็ไม่ต่างกับประเทศโบลิเวียหรือประเทศอื่นๆในโลกที่เหล่าบรรดาชนชั้นสูงใช้วิธีก่อความรุนแรงทางทางการเมืองเพื่อเป็นการรักษาอำนาจของพวกเขาเอง

ซึ่ง CIA มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนเหล่าบรรดาชนชั้นสูง

แต่บรรดาผู้ประท้วงในประเทศไทยกลับไม่เข้าใจเบื้องหลังแสนสกปรกนี้

ในเว็บไซด์ข่าว BBC ก็มีชาวอังกฤษแสดงความเห็นว่า

“เป็นสถานการณ์ที่มีความรุนแรงอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งยังมีผู้คนยังให้การปกป้องระบบการเมืองเก่าแก่โดยต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ปัญหาจริงๆในประเทศไทยก็คือ สังคมมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย รัฐบาลก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่พยายามเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างอยู่...”

มีคนไทยแสดงความคิดเห็นว่า

“พวกเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยมาจากประชาชนเสียงส่วนใหญ่ทั่วประเทศ กลุ่มผู้ประท้วงควรที่จะเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนและไม่ควรที่จะพยายามสร้างเงื่อนไขไปสู่ความวุ่นวาย”

ในเดือนกันยายน ปี 2006 นายกรัฐมนตรีผู้ได้รับความนิยมอย่างคุณทักษิณถูกทางกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า มีการดำเนินอย่างเป็นระบบโดยทาง CIA

สอดคล้องกับทางด้าน Axis Of Logic ที่ได้ให้ความเห็นว่า “การดำเนินการและยุทธวิธีที่ใช้ในประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า มีการลอกเลียนแบบวิถีแบบ CIA”

ทักษิณอาจจะสร้างความลำบากใจให้กับทาง CIA ก็คือ 1.การนำทหารไทยออกจากประเทศอิรัก 2.การดำเนินโนบายช่วยเหลือคนยากคนจน 3.การสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศจีน

สอดคล้องกับทางด้าน The Economist ที่ให้ความเห็นว่า “ผู้ให้คะแนนเสียงชาวชนบทส่วนใหญ่ต่างก็ให้เหตุผลในการเทคะแนนให้กับเขา (ทักษิณ) จนทำให้เขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในปี 2001 กับ 2005

จึงกล่าวได้ว่า ทักษิณช่วยเหลือคนยากคนจนจริง

เขาได้ดำเนินมาตรการทำให้ประชาชนสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลในราคาถูกและเขาก็ได้ทำให้ชาวชนบทที่ยากจนสามารถทำการกู้ยืมเงินเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นมา –BBC News Asia-Pacific Thai Farmer : ‘Thaksin Helped Us’

บางทีทักษิณก็ไม่ได้ต่างไปกับนักการเมืองอเมริกาส่วนใหญ่ ทั้งในยุโรปหรือนักการเมืองในแถบเอเชียที่มักจะมีข้อกล่าวหาไปต่างๆนาๆ

สอดคล้องกับทางด้าน The Economist ที่ให้ความเห็นว่า “ข้อกล่าวหาต่างๆเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น มีผลประโยชน์และซื้อเสียงนั้น เป็นที่ครหามากสำหรับทักษิณ แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่การกระทำต่างๆเหล่านี้เป็นเชื้อร้ายบ่มเพาะในการเมืองไทย”

นายพลที่เข้ามาทำรัฐประหารในปี 2006 ถือว่าเป็นรัฐบาลที่บริหารประเทศต่ำกว่ามาตรฐาน

สอดคล้องกับ The Economist ที่ให้ความเห็นว่า “ทั้งนายพล ข้าราชการกับเหล่าขุนนางที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมาบริหารได้อย่างน่าผิดหวัง เศรษฐกิจประเทศไทยตอนนี้ถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตช้าที่สุดในแถบเอเชีย” – Thailand’s election South-East Asia’s Pakistan?

ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2007 มีการเลือกตั้งสดๆร้อนๆเกิดขึ้นที่ประเทศไทย

แล้วฝ่ายทักษิณกับพรรคพลังประชาชนก็ชนะได้เก้าอี้สภามาครอบครองได้จากเสียงส่วนใหญ่ได้

ในอดีต CIA มีความเกี่ยวข้องทางด้านการเมืองไทยและการเมืองในแถบเอเชียมาช้านาน

ในปี 1946 รัชกาลที่ 8 สวรรคตในห้องนอนในพระบรมมหาราชวัง

เป็นที่แน่นอนว่ารัชกาลที่ 9 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นหนุ่มขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และเป็นที่แน่นอนว่าฝ่ายที่อเมริกาสนับสนุนอย่างจอมพลพิบูลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการกุมราชบังลังค์เอาไว้

รัชกาลที่ 9 จึงเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากการที่ท่านอยู่ภายใต้แวดล้อมเหล่าบรรดานายพลที่ฉ้อฉลซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีความเชื่อมโยงกับ CIA

ในปี 1973 เมื่อฝ่ายนักศึกษาประชาธิปไตยถูกยิงจากฝ่ายกองทัพที่อยู่ด้านนอกของพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน รัชกาลที่ 9 ท่านจึงออกคำสั่งให้เปิดพระตำหนักเพื่อช่วยชีวิตผู้คนบางส่วน

ในปี 1980 ประชาชนชาวชนบท 1 ใน 3 มีฐานะดำรงชีวิตแบบยากจน (หมายความว่ากินอาหาร 1 มื้อต่อวันและไม่มีเงินที่จะซื้อรองเท้าหรือยาสามัญประจำบ้าน) ในปี 1980 มีแรงงานเด็กทำงานถึง 11 ชั่วโมงต่อวันทำงานในกรุงเทพ โดยได้รับค่าตอบแทนเพียงแค่ 36 ปอนด์ต่อปีเท่านั้น! ใช่ครับต่อปี! เป็นเรื่องดีสำหรับชาวอเมริกันที่พวกเขาสามารถซื้อรองเท้ากับเสื้อผ้าราคาถูกได้จากฝีมือแรงงานเด็ก

เมื่อนายพลได้ดำเนินมาตรการความรุนแรงอีกครั้งในปี 1992 ซึ่งมีประชาชนกว่า 100 คนได้เสียชีวิต ทำให้รัชกาลที่ 9 ออกคำสั่งให้พลเอกสุจินดาเข้าเฝ้าและทำการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ โดยภาพถ่ายทอดสดก็จะเห็นพลเอกสุจินดาได้หมอบคลานเข้าหาพระมหากษัตริย์

ที่โรงแรมโอเรียนเต็ลผมได้มีโอกาสพูดคุยกับคนไทยที่เกษียณที่ชื่อหยง ผมได้สอบถามเขาว่า กรุงเทพมีสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง

“ยังมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในกองทัพอยู่” หยงกล่าว “อีกด้านหนึ่งพวกเราก็อยากเรียกร้องแก้ไขปัญหากำจัดอิทธิพลของกองทัพที่มีความเชื่อมโยงไปยังการค้ายาเสพติดกับการคุมบาร์คาราโอเกะ ผู้คนอยากที่จะกำจัดมาเฟียกองทัพออกให้หมดไป และอีกด้านหนึ่งพวกเราก็อยากให้ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้ทหารเข้ามาบริหารประเทศเหมือนกับพม่ากับผู้มีอิทธิพลในการค้ายาเสพติด”

หยงได้อ่านถ่วงทำนองเพลงที่เขียนโดย Allen Ginsberg ในปี 1972 ให้ฟังว่า

ในปี 1949

ประเทศจีนได้รับชัยชนะโดยเหมาเจ๋อตง

กองทัพเจียงไคเช็คถอยหนีออกไป

คนจีนยังรอคอยอยู่ที่ประเทศไทยเมื่อวาน

สนับสนุนโดย CIA

ผลักดันทอดทิ้งให้อยู่ในประเทศไทย

ตอนแรกพวกเขาหลบซ่อนอยู่กับเผ่าแม้ว

ขึ้นไปบนยอดเขาแล้วพวกเขาก็เริ่มให้สินบน

จากนั้นพวกเขาก็ส่งทหารไปที่รัฐฉาน

ทำการเก็บกัญชาแล้วส่งไปให้คนของเขา

ปล่อยให้กรุงเทพเป็นเศษขยะวันวาน

สนับสนุนโดย CIA”


ผู้แปล : Mr.lawrence10

ที่มา : aangirfan
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่