[CR] ยื่นวีซ่าท่องเที่ยวของประเทศอังกฤษครั้งแรก ไม่ยากอย่างที่คิด UK visa 2016

สวัสดีค่ะ...วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าอังกฤษให้เพื่อนๆที่มีความประสงค์อยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษกันค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ซึ่งก็เกร็งๆ 555 ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะจ๊ะ

เราจะเดินทางไปประเทศอังกฤษช่วงเดือนสิงหาคม 2016 โดยที่มีแฟนชาวอังกฤษเป็นสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ รวมทั้งตั๋วเครื่องบิน และจะไปพักที่บ้านน้องชายของคุณแฟนค่ะ (เรากับแฟนอาศัยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยประมาณ 2 ปีแล้วนะคะ) ทุกๆปี คุณแฟนจะอยู่ที่เมืองไทย 9 เดือน และกลับไปอังกฤษ 3 เดือนค่ะ ตอนที่เรายื่นวีซ่าเนี่ย คุณแฟนก้อได้เดินทางกลับไปอังกฤษแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะต้องเดินทางไปอังกฤษคนเดียว เพื่อไปเจอคุณแฟนที่โน้นค่ะ

ตอนแรกเราก็เปิดหาข้อมูลในพันทิปนี่แหล่ะค่ะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง เริ่มจากตรงไหน ใช้เวลาเตรียมตัว 2 - 3 เดือนกันเลยทีเดียว 555 แบบว่าตื่นเต้นอ่ะ อมยิ้ม17 เรามีความประสงค์จะไปประเทศอังกฤษ โดยจะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวนะค่ะ รายละเอียดต่างๆ ของ Standard Visitor Visa สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ https://www.gov.uk/standard-visitor-visa จะมีการบอกรายละเอียดต่างๆ เป็น Overview รวมถึงเอกสารที่จำเป็นต้องยื่นและไม่จำเป็นต้องยื่นค่ะ

จากนั้นเราจะต้องวางแผนไว้ก่อนค่ะ จะเดินทางวันไหน กลับวันไหน จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง คิดว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับทริปนี้ ค่าที่พักเท่าไหร่ ค่าตั๋วเครื่องบินเท่าไหร่ เพราะเขาจะมีให้กรอกรายละเอียด ตอนเรากรอกออนไลน์ค่ะ แค่คำนวณไว้คร่าวๆก่อนค่ะ **เราไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินและที่พักไว้ก่อนนะคะ เพราะในเว็บของ gov.uk บอกไว้ว่าไม่จำเป็นต้องยื่นใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พักค่ะ** เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านขึ้นมาคงนั่งร้องไห้ เสียดายตังค่ะแต่เห็นบางกระทู้บอกว่า สามารถจองตั๋วเครื่องบินกับเอเจนซี่แบบยังไม่จ่ายตังก่อนได้ อันนี้เราไม่ทราบนะคะว่าที่ไหนมีรับจองแบบนี้ เพราะปกติจะจองกับสายการบินแบบตัดเงินจากบัตรเครดิตเลย ส่วนที่พักถ้าอยากจะจองไว้ก่อนก็สามารถเลือกแบบที่เขาสามารถคืนเงินได้ค่ะ

มาถึงการกรอกออนไลน์กันค่ะ ให้ไปที่เว็บนี้เลยค่ะ https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
เราเลือกคลิกที่ apply using the new service ค่ะ เวอร์ชั่นนี้จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น จะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยควบคู่กันไป หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ค่ะ [img]http://f.ptcdn.info/894/043/000/o9f7rak8zsr2mAq6Y3E-o.jpg
อันนี้คือรายละเอียดคร่าวๆนะค่ะ ซึ่งจะเห็นว่าจะต้องใส่อีเมลล์และสร้างรหัสผ่านด้วยจ๊ะ เผื่อที่เราจะสามารถกลับมา log in ได้ใหม่ และเวลาเรากรอกข้อมูลไปแล้วยังไม่เสร็จ สามารถ save และกลับมา log in ได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะเสร็จค่ะ พอเราใส่รหัสผ่านเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมลล์ส่งมาให้เราด้วยค่ะ เราขอไม่เอาคำถามที่เขาถามตอนกรอกมาให้ดูนะคะ แบบแอบขี้เกียจอ่ะคะ 555 คำถามก้อเป็นคำถามทั่วไป ไม่ยากค่ะ แต่แอบเยอะ อมยิ้ม02อมยิ้ม02 พอกรอกจนหมดทุกข้อแล้ว ก้อจะมาถึงการจ่ายเงินค่ะ จะต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตค่ะ ราคาค่าวีซ่าตอนนั้นจะอยู่ที่ $132 ค่ะ เสร็จแล้วก้อจะถามว่าเราจะสะดวกไปยื่นเอกสารที่ไหน เราก้อทำการนัดหมายค่ะ เลือกวัน เวลา สถานที่ค่ะ รู้สึกว่าจะมีที่ กทม. คือที่ตึกเทรนดี้ ซอยสุขุมวิท 13 และที่เชียงใหม่ค่ะ เราเลือกไปที่ตึกเทรนดี้ค่ะ ไปง่ายดีค่ะ นั่ง bts ไปลงนานา และเดินไปอีกประมาณ 5 นาทีก้อถึงแล้วค่ะ เยี่ยม

เอกสารที่ จขกท. ใช้ มีดังต่อไปนี้เลยคร่าาา **เอกสารสำเนาทุกใบต้องเซ็นต์ certified true copy พร้อมลายเซ็นต์ ทุกใบค่ะ**
- เอกสารที่เรากรอกออนไลน์ไว้ ให้ปริ้นออกมาค่ะ นับให้ครบทุกหน้านะคะ
- พาสปอร์ตทั้งตัวจริง และสำเนา (เล่มเก่าและเล่มใหม่) ถ้าเคยเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว ก็ถ่ายสำเนามาทุกหน้าที่มีการสแตมป์เลยค่ะ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมแปล (แปลเอง เซ็นต์รับรองเอง)
- เอกสารการเปลี่ยนชื่อ ทั้งตัวจริง และสำเนา พร้อมแปล (ให้ร้านแปลเอกสารทำให้ เพราะต้องให้เขาเซ็นต์รับรองพร้อมสแตมป์)
- เอกสารรับรองการทำงานจากบริษัท ให้ระบุว่าเริ่มงานตั้งแต่เมื่อไหร่ ตำแหน่งอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ จะไปที่ไหน ลางานตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ แล้วจะกลับมาทำงานวันที่เท่าไหร่ ให้ผู้ที่มีอำนาจที่ทำงานเซ็นต์พร้อมทั้งสแตมป์ของบริษัท
- เอกสารการเงินต่างๆ ย้อนหลัง 6 เดือน ของเราส่งสมุดบัญชีตัวจริง 2 เล่ม และสำเนาทุกหน้า พร้อมทั้ง statement จากธนาคาร ของธนาคารกสิกรเราปริ้นเองจาก K-mobile banking ส่วนจากธนาคารไทยพานิชย์เราไปขอที่ธนาคารค่ะ เพราะเงินเดือนจะเข้าที่ไทยพานิชย์เราเลยอยากให้ดูเป็นทางการนิดนึง ส่วนกสิกรเป็นแค่เงินเก็บเล็กๆน้อยๆ เงินรวมทั้ง 2 บัญชีที่มีอยู่ตอนนั้นประมาณ 110,000 บาทค่ะ (ถึงจะมีสปอนเซอร์แต่ก็ควรมีเงินในบัญชีไว้ด้วย เพราะเราคิดว่าเรายังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนกับเขา ถ้าเกิดทะเลาะกันตอนอยู่อังกฤษแล้วถูกทิ้งจะไม่มีเงินกลับบ้าน 555)
- สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมสำเนาและแปลเป็นภาษาอังกฤษ (แปลเอง)
- จดหมายแนะนำตัวเอง ว่าเป็นใครมาจากไหน จะไปทำอะไรที่อังกฤษ ไปอยู่กับใคร สปอนเซอร์ชื่ออะไร
- เรามีลูกติด 1 คน แต่ลูกไม่ได้ไปด้วย แต่อยากให้เขาเห็นว่าเราจะกลับมาหาลูกเราแน่นอน เราเลยส่งใบสูติบัตรลูกไปด้วย ทั้งตัวจริงและสำเนา พร้อมแปล (ให้ร้านแปลเอกสารทำให้ เพราะต้องให้เขาเซ็นต์รับรองพร้อมสแตมป์)
- แผนการท่องเที่ยว
- จดหมายรับรองจากเจ้าของบ้านที่เราเช่าอยู่ ว่าเรากะแฟนอยู่ด้วยกันจริงๆ และได้จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าแล้ว จะกลับมาแน่นอน
- รูปถ่ายแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเรากะคุณแฟนและครอบครัวของคุณแฟนที่เราเคยเจอที่เมืองไทยแล้ว และรูปแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเรากะลูกและครอบครัวของเราเอง และรูปถ่ายแสดงความสัมพันธ์ระหว่างลูกของเรากับคุณแฟนค่ะ
**ปล. เราไม่เคยแต่งงาน จึงไม่มีใบสมรสและใบหย่า ถ้าใครมีก็ยื่นไปด้วยนะคะ และรูปถ่ายเหมือนรูปติดบัตร อันนี้ล่าสุดเขาไม่ขอแล้วนะคะ ไม่ต้องใช้ค่ะ

ส่วนจดหมายของสปอนเซอร์ (คุณแฟน) มีตามนี้เลยจ้าาาา...
- สำเนาพาสปอร์ตของคุณแฟน และเราได้สำเนาหน้าที่มีวีซ่าตอนที่เขามาเมืองไทยด้วย เพื่อให้เขารู้ว่าแฟนเรามาเมืองไทยทุกปีอยู่แล้ว
- Statement ของคุณแฟน นางปริ้นออกมาจากอินเตอร์เนตเลยจ้าาาา
- จดหมายเชิญให้เรามาอังกฤษ และบรรยายว่าเราเจอกันได้ยังไง ทำไมอยากให้เราไปหาที่อังกฤษ และระบุว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง รวมถึงระบุด้วยว่าถ้าเรามาจะไปพักกันที่บ้านน้องชายของเขา ก็ระบุที่อยู่ลงไปด้วย

ต่อไปคือสปอนเซอร์คนที่ 2 (น้องชายของคุณแฟน) สปอนเซอร์บ้านพักว่าให้เราไปอยู่ได้ ตามนี้เลยจ้า...
- สำเนาพาสปอร์ตของน้องชายคุณแฟน
- Mortgage statement เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของบ้านที่เราจะไปอยู่จริงๆ
- Electricity and gas bill ที่ระบุที่อยู่ในนั้นด้วย
- จดหมายเชิญให้เรามาพักที่บ้าน และบรรยายว่าเราเคยเจอกันแล้วที่เมืองไทย 2 ครั้ง บลาๆๆๆ

เตรียมเอกสารครบแล้ว...ถึงวันนัดแล้ว เตรียมลุย....
นั่งรถ bts ไปที่สถานีนานา จากนั้นเดินไปที่ซอยสุขุมวิท 13 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที จะเจอตึก Trendy ค่ะ ไปติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ชั้นแรกได้เลยค่ะ แล้วเขาจะขอดูใบนัด (เราปริ้นติดไปด้วย แต่ตอนเขาขอดูดันหาไม่เจอ เพราะเอกสารเยอะ 555 แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ก็แค่ถามชื่อและเวลาที่นัด) จากนั้นเขาก็ให้กระดาษใบเล็กๆมา และก็บอกให้เราขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 28 (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ชั้นนั้นจะมี 2 ประเทศ คือออสเตรเลียกับอังกฤษ จะอยู่ห้องเดียวกันเลย เจ้าหน้าที่ข้างหน้าก็จะตรวจกระเป๋าเรา ต้องเอากระเป๋าเข้าเครื่องสแกนด้วย แล้วก็ต้องปิดมือถือด้วยค่ะ (ปิดเครื่องเลยนะคะ จะมาปิดสั่นอย่างเดียวไม่ได้) จากนั้นก็ไปติดต่อเค้าเตอร์ข้างในเพื่อรับบัตรคิวค่ะ และก้อไปนั่งรอเรียก พอถึงคิวก็เดินไปที่ช่องเค้าเตอร์ แล้วก้อยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ เขาก้อเช็คๆเอกสารของเรา ถามว่าไปไหน ไปวันไหน กลับวันไหน ไปทำอะไร ถามแบบเร็วๆ พอเสร็จเขาก้อถามว่าจะให้แจ้งผลทาง sms และที่ email ด้วยไหม ตอนแรกเราบอกว่าไม่สมัคร แต่เราต้องการให้ส่งเอกสารคืนทางไปรษณีย์ พนักงานเลยบอกว่าถ้าส่งทางไปรษณีย์จะต้องสมัครด้วย ก็เลยจำใจยอมค่ะ เสียเงินเพิ่มไปอีก รวมแล้ว 350 บาทค่ะ จากนั้นพนักงานก็ให้เรากรอกแบบฟอร์มการสมัคร sms และ email และขอที่อยู่ในการจัดส่งไปรษณีย์ค่ะ พอเสร็จแล้วพนักงานก็ให้บัตรคิวใบเดิมเพื่อมานั่งรอในการทำ bio-metric ค่ะ พอถึงคิวเราก็เข้าไปในห้องและก็ต้องแหงนหน้ามองไปที่กล้องวงจรปิดข้างบนเพดานเป็นเวลา 3 วินาที และก็ทำการสแกนนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็ถ่ายรูปติดวีซ่า (เราไม่ได้รวบผมหรือทัดผมตอนถ่ายรูป ปล่อยยาวปกติ แต่ผมไม่บังหน้า ไม่เห็นหู ไม่ยิ้ม) เสร็จแล้ว...แค่นี้เขาก็ปล่อยให้กลับบ้านได้ค่ะ สาวแว่น

สรุปผลเลยนะค่ะ.....
- ยื่นออนไลน์ไปวันที่ 12 May 2016
- นัดยื่นเอกสารวันที่ 17 June 2016
- วันที่ 22 June 2016 มี sms และ email เข้ามาบอกว่าทาง UK visa and Immigration ได้ทำการตัดสินวีซ่าของคุณแล้ว และจะจัดส่งมาที่ไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่เราแจ้งไว้ ลุ้นๆๆๆๆ
- วันศุกร์ที่ 24 June 2016 เราได้รับซองพัสดุ แล้วเปิดดู จะเห็นว่าเขาคืนเอกสารมามากมายหลายใบ (ในใจก็คิดว่าไม่ผ่านแน่เลย ทำไมคืนเอกสารมาให้เยอะจัง) แต่ก็ควานหาตัวพาสปอร์ตอย่างเดียวเลยค่ะ เปิดมาเจอหน้าวีซ่าอยู่ในเล่มพาสปอร์ต กรี๊ดลั่นที่ทำงานเลยค่ะ 555 ได้ไปแอ่วอิงแลนด์แล้ว...
**ปล. ตอนแรกพนักงานบอกว่าผลจะออกประมาณ 15 วันทำการ แต่ผลเราได้เร็วดี ไลค์เลย เยี่ยม

ขั้นตอนการขอวีซ่าของเรา ก็มีตามนี้นะคะ ส่วนใครที่กำลังจะยื่นขอวีซ่าก็ขอให้ผ่านฉลุยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13อมยิ้ม13
ชื่อสินค้า:   วีซ่าอังกฤษ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่