คือมีเรื่องสงสัยในพระพุทธเจ้าครับ
****ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมก็พุทธเหมือนกัน แต่ผมก็สงสัยในพระพุทธเจ้า
อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาตอบ ตอบในแบบที่ไม่มีอคติและตรรกะใดๆต่อกัน และอย่าซีเรียสนะครับ และอย่าเอาคำสอนมาแปะนะครับ****
1.ทำไมพระพุทธเจ้าถึงไม่เกิดมายากจนมีและมีปัญหาเยอะๆ บ้าง เวลาที่พระองค์ตรัสรู้แล้ว แบบนั้นพระองค์ถึงจะช่วยให้หลุดพ้น แต่พระองค์กลับเกิดมาในฐานะคนรวย ก็แสดงว่าพระองค์ไม่ได้ขาดเหลืออะไรนะสิ พระองค์ก็ไปบวชตรัสรู้ได้สิ เพราะพระองค์ไม่ต้องมีอะไรให้กังวล ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง เอาแต่ตรัสรู้อย่างเดียว พ่อแม่ก็มีคนดูแลอย่างสุขสบาย ลูกเมียก็มีคนดูแล
แล้วสมมุติถ้าพระพุทธเจ้า เกิดมาในฐานะคนยากจน อย่างเราๆ ในทุกวันนี้ มีลูกมีเมีย ครอบครัวลำบาก พ่อแม่ก็แก่ พระองค์จะตรัสรู้ได้หรือเปล่า พระองค์จะตัดและหยุดคิดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ไหม แล้วถ้าในตอนที่พระองค์เสี่ยงทายเส้นผมให้ลอยขึ้นทวนน้ำแสดงว่าพระองค์จะตรัสรู้ได้ สมมุติถ้าเทพไม่ช่วย เส้นผมพระองค์ลอยไปตามน้ำ พระองค์จะมีกำลังใจไหม ถ้าคนเราเสี่ยงทายแล้วมันเป็นแบบนี้บ้างเราอาจมีกำลังใจมากขึ้นเวลาทำอะไรล้มเหลว
2.ปรินิพพานมีจริงไหม และปรินิพพานคืออะไร ผมตั้งข้อคำถามถึงปรินิพพานมาตลอด เห็นๆหลายคนบอกว่าถ้าทำดีและตัดกิเลสหยุดทุกอย่างทางโลกได้แล้วจะไปปรินิพพาน คือไปยังไงครับ คือไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้นะหรอครับ ใช่ไหมเพราะพระพุทธเจ้าบอกแแบบนั้น ผมนึกไม่ออกเลยว่า สมมุติถ้าผมไปปรินิพพาน ผมจะไปที่ไหน สมมุติถ้าผมไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ผมจะเป็นยังไง ผมจะหายไปเลยหรือ นึกไม่ออกเลยว่าเราจะหายไปได้อย่างไร ผมลองหลับตาดูแล้วลองให้ตัวเองหายไป ผมว่าไม่หายนะ ทำยังไงก็ไม่หายไปแน่นอน อย่างน้อยก็เหลือดวงจิตความรู้สึกนึกคิด แล้วถ้าเหลือแต่ดวงจิต ผมก็ลองหลับตาดูแล้วและจินตนาการว่าตัวเองมีแค่ดวงจิตลอยละล่องไป ถ้าแบบนี้คือปรินิพพาน ผมก็มีแค่ดวงจิตที่ลอยละล่องไม่กลับมาเกิดอีก วันแล้ววันเล่าคืนแล้วคืนเล่าผมก็ลอยอยู่อย่างนั้น เป็นล้านๆ ปี มันไม่น่าเบื่อแย่หรอครับ
หรือถ้าการไปปรินิพนานคือไปเป็นเทพหรืออยู่ดินแดนสวรรค์ ไม่กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก ถ้าแบบนั้นก็แสดงว่าถ้าเราไปอยู่บนนั้น ก็จะไม่มีความเลวกิเลสอะไรเลย แสดงว่า ไม่มีความรักให้เจ็บปวด ไม่มีความคิดถึงให้ทรมาน ไม่มีความฝันที่อยากจะเป็น ไม่มีอะไรที่โหยหาอีกแล้ว เพราะไม่ต้องการอะไรทางโลกแล้ว แล้วเราจะได้ทำอะไรในแต่ละวันบนนั้น นู้นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นผมขอใช้ชีวิตธรรมดาๆดีกว่า โดยที่ไม่ต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ผมสงสัยว่า พระพุทธเจาที่ปรินิพพาน ท่านกำลังอะไรอยู่ในแต่ละวัน และท่านมีความสุขจริงๆไหม
3.เวลาที่เราไปกราบไหว้พระธาตุที่บรรจุอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า นั่งรถไปเป็น100ๆกิโล เพื่อไปขอพรจากพระองค์ ผมสงสัยว่า ในเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกอีกแล้ว แล้วพระองค์จะช่วยเราได้ยังไง ถ้าพระองค์ดลบันดาลใครสักคนนั่นก็แสดงว่าพระองค์ยังไม่หลุดพ้นนะสิ
4.ผมมองว่าพระพุทธเจ้า นั้นทำเพื่อตัวเอง เพราะพระองค์ทิ้งลูกเมีย พระองค์ไม่เคยดูแลลูกของตัวเอง บางทีราหุลอาจต้องการความรักจากพ่อ พระนางยโสธาราอาจต้องการมี sex กับสามี แต่พระองค์กลับไม่สนใจกลับทิ้งพวกเขาแล้วไปบวชเพื่อให้หลุดพ้น เพราะพระองค์กลัวการที่จะต้อง เจ็บ ป่วย แก่ เหมือนคนอื่นๆ กลับกันในเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว พระองค์รู้ทุกอย่าง ทำไมพระองค์ไม่คิดค้นสูตรยาเพื่อรักษาโลกที่มันร้ายๆ เหล่านั้นบ้าง และในเมื่อพระองค์มองเห็นอนาคตได้ พระองค์น่าจะรู้ว่า อนาคตมันมีมะเร็งและเอดส์อยู่ ทำไมพระองค์ไม่บอกกล่าวไว้ให้คนรุ่นหลัง
ขนาดพระองค์ไปนรก ในเมื่อพระองค์เห็นคนที่โดนลงโทษตามกรรมของตัวเอง พระองค์น่าจะได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกเขาถึงความเจ็บปวด แต่พระองค์กลับไม่ช่วยเหลืออะไรพวกเขาเลย เพราะพระองค์ตรัสรู้แล้ว อย่างนั้นหรือ พระองค์หยุดแล้วอย่างนั้นหรือ ทุกคนต้องได้รับกฏแห่งกรรมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างนั้นหรือ ทำไมพระองค์ไม่ช่วยพวกเขา แต่พระองค์กลับเพิกเฉย พระองค์เป็นถึงพระพุทธเจ้า ทำไมพระองค์ไม่ไปแสดงธรรมแก่ ท่านยม หรือภูตปีศาสผู้คุมนรกล่ะ แสดงว่าพระองค์ ไม่สามรถทำให้ปีศาสที่มีความโหดเหี้ยม ความโกรธ ความเคียดแค้น ให้พวกเขาได้หลุดพ้นได้อย่างนั้นหรือ
5.ในเมื่อพระองค์ก็บอกอยู่เสมอว่า อย่าได้เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย แต่ทำไมพระองค์ถึงไม่ตรัสไปเลยว่าอย่ากินสัตว์ทุกชนิดแบบนี้น่าจะถูกกว่า แต่พระองค์กลับมองไม่เห็นคำพูดตัวเอง แต่เป็นพระเทวทัตที่มองเห็นถึงแก่นแท้นี้
แต่พระองค์กลับให้เราเอาเนื้อสัตว์ใส่บาตรได้ พระองค์ก็ทานเนื้อสัตว์อยู่ไม่ใช่หรอ ก็แสดงว่าพระองค์เบียดเบียนสัตว์แล้วในทางอ้อม เพราะชาวบ้านฆ่าสัตว์เพื่อมาใส่บาตรให้พระ อย่าบอกว่าพระปฏิเสธไม่ได้ บอกไปเลยว่าไม่ทานเนื้อสัตว์ ขนาดบอกว่าห้ามผู้หญิงถูกเนื้อต้องตัวพระสงฆ์ยังทำได้เลย ในเมื่อพระองค์ยังรับบิณฑบาตอยู่และในของใส่บาตรที่พระองค์ทานนั้นก็มีเนื้อสัตว์ แสดงว่าพระองค์ก็ตัดกิเลสไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพระองค์บอกว่าทานมังสวิรัติจะเสียหายอะไร ในเมื่อมันก็อิ่มเหมือนกัน เพราะทรัพยากรไม่พอหรือ พระองค์ถึงอนุโรมให้ทานเนื้อสัตว์ได้ พระองค์เคยฆ่าสัตว์ไหม พระองค์คงไม่รู้ว่ากว่าที่พระองค์จะได้ทานอาหารนั้น สัตว์เหล่านั้นต้องถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นความอร่อยและความสุขของคน ทำไมพระองค์มองไม่เห็นถึงข้อสำคัญนี้
6.อย่างชาติก่อนของพระองค์ก็เหมือนกัน พระเวสสันดรตอนที่ได้มอบภรรยาและลูกให้ชูชก เพราะพระองค์คือพระผู้ให้ พระองค์ก็เลยถูกมมองว่าเป็นผู้ให้ เป็นผู้มีความเเมตตา แต่พระองค์เคยถามความรู้สึกและความสมัครใจของพวกเขาไหม มันไม่ต่างอะไรกับบอกลูกตัวเองให้ไปแต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักเลย แล้วนี้คือการทำดีหรือ ที่ทำให้เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าหรือ
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าครับ
****ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมก็พุทธเหมือนกัน แต่ผมก็สงสัยในพระพุทธเจ้า
อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาตอบ ตอบในแบบที่ไม่มีอคติและตรรกะใดๆต่อกัน และอย่าซีเรียสนะครับ และอย่าเอาคำสอนมาแปะนะครับ****
1.ทำไมพระพุทธเจ้าถึงไม่เกิดมายากจนมีและมีปัญหาเยอะๆ บ้าง เวลาที่พระองค์ตรัสรู้แล้ว แบบนั้นพระองค์ถึงจะช่วยให้หลุดพ้น แต่พระองค์กลับเกิดมาในฐานะคนรวย ก็แสดงว่าพระองค์ไม่ได้ขาดเหลืออะไรนะสิ พระองค์ก็ไปบวชตรัสรู้ได้สิ เพราะพระองค์ไม่ต้องมีอะไรให้กังวล ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง เอาแต่ตรัสรู้อย่างเดียว พ่อแม่ก็มีคนดูแลอย่างสุขสบาย ลูกเมียก็มีคนดูแล
แล้วสมมุติถ้าพระพุทธเจ้า เกิดมาในฐานะคนยากจน อย่างเราๆ ในทุกวันนี้ มีลูกมีเมีย ครอบครัวลำบาก พ่อแม่ก็แก่ พระองค์จะตรัสรู้ได้หรือเปล่า พระองค์จะตัดและหยุดคิดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ไหม แล้วถ้าในตอนที่พระองค์เสี่ยงทายเส้นผมให้ลอยขึ้นทวนน้ำแสดงว่าพระองค์จะตรัสรู้ได้ สมมุติถ้าเทพไม่ช่วย เส้นผมพระองค์ลอยไปตามน้ำ พระองค์จะมีกำลังใจไหม ถ้าคนเราเสี่ยงทายแล้วมันเป็นแบบนี้บ้างเราอาจมีกำลังใจมากขึ้นเวลาทำอะไรล้มเหลว
2.ปรินิพพานมีจริงไหม และปรินิพพานคืออะไร ผมตั้งข้อคำถามถึงปรินิพพานมาตลอด เห็นๆหลายคนบอกว่าถ้าทำดีและตัดกิเลสหยุดทุกอย่างทางโลกได้แล้วจะไปปรินิพพาน คือไปยังไงครับ คือไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้นะหรอครับ ใช่ไหมเพราะพระพุทธเจ้าบอกแแบบนั้น ผมนึกไม่ออกเลยว่า สมมุติถ้าผมไปปรินิพพาน ผมจะไปที่ไหน สมมุติถ้าผมไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ผมจะเป็นยังไง ผมจะหายไปเลยหรือ นึกไม่ออกเลยว่าเราจะหายไปได้อย่างไร ผมลองหลับตาดูแล้วลองให้ตัวเองหายไป ผมว่าไม่หายนะ ทำยังไงก็ไม่หายไปแน่นอน อย่างน้อยก็เหลือดวงจิตความรู้สึกนึกคิด แล้วถ้าเหลือแต่ดวงจิต ผมก็ลองหลับตาดูแล้วและจินตนาการว่าตัวเองมีแค่ดวงจิตลอยละล่องไป ถ้าแบบนี้คือปรินิพพาน ผมก็มีแค่ดวงจิตที่ลอยละล่องไม่กลับมาเกิดอีก วันแล้ววันเล่าคืนแล้วคืนเล่าผมก็ลอยอยู่อย่างนั้น เป็นล้านๆ ปี มันไม่น่าเบื่อแย่หรอครับ
หรือถ้าการไปปรินิพนานคือไปเป็นเทพหรืออยู่ดินแดนสวรรค์ ไม่กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก ถ้าแบบนั้นก็แสดงว่าถ้าเราไปอยู่บนนั้น ก็จะไม่มีความเลวกิเลสอะไรเลย แสดงว่า ไม่มีความรักให้เจ็บปวด ไม่มีความคิดถึงให้ทรมาน ไม่มีความฝันที่อยากจะเป็น ไม่มีอะไรที่โหยหาอีกแล้ว เพราะไม่ต้องการอะไรทางโลกแล้ว แล้วเราจะได้ทำอะไรในแต่ละวันบนนั้น นู้นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นผมขอใช้ชีวิตธรรมดาๆดีกว่า โดยที่ไม่ต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ผมสงสัยว่า พระพุทธเจาที่ปรินิพพาน ท่านกำลังอะไรอยู่ในแต่ละวัน และท่านมีความสุขจริงๆไหม
3.เวลาที่เราไปกราบไหว้พระธาตุที่บรรจุอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า นั่งรถไปเป็น100ๆกิโล เพื่อไปขอพรจากพระองค์ ผมสงสัยว่า ในเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกอีกแล้ว แล้วพระองค์จะช่วยเราได้ยังไง ถ้าพระองค์ดลบันดาลใครสักคนนั่นก็แสดงว่าพระองค์ยังไม่หลุดพ้นนะสิ
4.ผมมองว่าพระพุทธเจ้า นั้นทำเพื่อตัวเอง เพราะพระองค์ทิ้งลูกเมีย พระองค์ไม่เคยดูแลลูกของตัวเอง บางทีราหุลอาจต้องการความรักจากพ่อ พระนางยโสธาราอาจต้องการมี sex กับสามี แต่พระองค์กลับไม่สนใจกลับทิ้งพวกเขาแล้วไปบวชเพื่อให้หลุดพ้น เพราะพระองค์กลัวการที่จะต้อง เจ็บ ป่วย แก่ เหมือนคนอื่นๆ กลับกันในเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว พระองค์รู้ทุกอย่าง ทำไมพระองค์ไม่คิดค้นสูตรยาเพื่อรักษาโลกที่มันร้ายๆ เหล่านั้นบ้าง และในเมื่อพระองค์มองเห็นอนาคตได้ พระองค์น่าจะรู้ว่า อนาคตมันมีมะเร็งและเอดส์อยู่ ทำไมพระองค์ไม่บอกกล่าวไว้ให้คนรุ่นหลัง
ขนาดพระองค์ไปนรก ในเมื่อพระองค์เห็นคนที่โดนลงโทษตามกรรมของตัวเอง พระองค์น่าจะได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกเขาถึงความเจ็บปวด แต่พระองค์กลับไม่ช่วยเหลืออะไรพวกเขาเลย เพราะพระองค์ตรัสรู้แล้ว อย่างนั้นหรือ พระองค์หยุดแล้วอย่างนั้นหรือ ทุกคนต้องได้รับกฏแห่งกรรมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างนั้นหรือ ทำไมพระองค์ไม่ช่วยพวกเขา แต่พระองค์กลับเพิกเฉย พระองค์เป็นถึงพระพุทธเจ้า ทำไมพระองค์ไม่ไปแสดงธรรมแก่ ท่านยม หรือภูตปีศาสผู้คุมนรกล่ะ แสดงว่าพระองค์ ไม่สามรถทำให้ปีศาสที่มีความโหดเหี้ยม ความโกรธ ความเคียดแค้น ให้พวกเขาได้หลุดพ้นได้อย่างนั้นหรือ
5.ในเมื่อพระองค์ก็บอกอยู่เสมอว่า อย่าได้เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย แต่ทำไมพระองค์ถึงไม่ตรัสไปเลยว่าอย่ากินสัตว์ทุกชนิดแบบนี้น่าจะถูกกว่า แต่พระองค์กลับมองไม่เห็นคำพูดตัวเอง แต่เป็นพระเทวทัตที่มองเห็นถึงแก่นแท้นี้
แต่พระองค์กลับให้เราเอาเนื้อสัตว์ใส่บาตรได้ พระองค์ก็ทานเนื้อสัตว์อยู่ไม่ใช่หรอ ก็แสดงว่าพระองค์เบียดเบียนสัตว์แล้วในทางอ้อม เพราะชาวบ้านฆ่าสัตว์เพื่อมาใส่บาตรให้พระ อย่าบอกว่าพระปฏิเสธไม่ได้ บอกไปเลยว่าไม่ทานเนื้อสัตว์ ขนาดบอกว่าห้ามผู้หญิงถูกเนื้อต้องตัวพระสงฆ์ยังทำได้เลย ในเมื่อพระองค์ยังรับบิณฑบาตอยู่และในของใส่บาตรที่พระองค์ทานนั้นก็มีเนื้อสัตว์ แสดงว่าพระองค์ก็ตัดกิเลสไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพระองค์บอกว่าทานมังสวิรัติจะเสียหายอะไร ในเมื่อมันก็อิ่มเหมือนกัน เพราะทรัพยากรไม่พอหรือ พระองค์ถึงอนุโรมให้ทานเนื้อสัตว์ได้ พระองค์เคยฆ่าสัตว์ไหม พระองค์คงไม่รู้ว่ากว่าที่พระองค์จะได้ทานอาหารนั้น สัตว์เหล่านั้นต้องถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นความอร่อยและความสุขของคน ทำไมพระองค์มองไม่เห็นถึงข้อสำคัญนี้
6.อย่างชาติก่อนของพระองค์ก็เหมือนกัน พระเวสสันดรตอนที่ได้มอบภรรยาและลูกให้ชูชก เพราะพระองค์คือพระผู้ให้ พระองค์ก็เลยถูกมมองว่าเป็นผู้ให้ เป็นผู้มีความเเมตตา แต่พระองค์เคยถามความรู้สึกและความสมัครใจของพวกเขาไหม มันไม่ต่างอะไรกับบอกลูกตัวเองให้ไปแต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักเลย แล้วนี้คือการทำดีหรือ ที่ทำให้เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าหรือ